Thursday, April 4, 2013

04/04/2013 * ถอยดีกว่า


เมื่อวานตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงอีกแล้ว ตอนนี้ความผันผวนในตลาดหุ้นไทยมีมากขึ้นและมากขึ้น สังเกตได้จากการแกว่งที่มีกรอบกว้าง วันหนึ่งแกว่งได้หลายสิบจุด อย่างเมื่อวานก็ไป +11 จุดกว่าๆ จากนั้นก็ลงมาที่ -31 จุดกว่าๆ รวมแล้วแกว่งในกรอบ 40 กว่าจุด

เมื่อคืนตามเวลาบ้านเรา (วันทรด 03.04/2013) ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปก็ลง อเมริกาก็ลง โดยเฉพาะน้ำมันดิบลงแรง โดยน้ำมันดิบ WTI - 2.8% น้ำมันดิบเบรนต์ -3.2% ทองคำก็ร่วงตามลงมา -1.4% ส่วนสินค้าเกษตรร่วงหนักมาก่อนหน้านี้แล้ว

วันนี้เรามาดูสถานการณ์ทั้งในบ้านเราและตลาดโลกกัน ดูตามภาพไปเลยคร้าบ




มาที่ยุโรปกันก่อน โดยดูดัชนี DAX ของตลาดหุ้นเยอรมนี ดัชนีแดกซ์ยังไม่สามารถผ่านจุดสูงสุดเดิมก่อนเกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ (คือที่ 8092 จุด) แล้วก็ไหลลงมาและเกิดสัญญาณขาย ตอนนี้อยู่ในภาวะไร้ทิศทาง แต่สัญญาณกลับทิศแนวโน้มเริ่มทยอยมาให้เห็นแล้ว รอดูต่อไปอีกหน่อยว่าจะกลับทิศหรือไม่




มาที่ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ดัชนี S&P 500 มาชนระดับสูงสุดเดิมของเมื่อก่อนเกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ แต่ยังยืนไม่อยู่ จากนั้นก็ร่วงลงมา แล้วเข้าสู่ภาวะไร้ทิศทางแล้ว ต้องดูต่อไปว่าจะกลับทิศแนวโน้มเป็นขาลงหรือไม่




น้ำมันดิบ WTI ร่วงแรงจากยอดสต็อกน้ำมันของอเมริกาที่เหลืออยู่บานเบอะ ถ้านับคลื่นน่าจะเข้าคลื่น c ย่อย คงลงต่อได้อีก รอบนี้น่าจะหลุด 90 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล




ทองคำ หลุดกรอบชายธงลงมาแล้ว แถมยังเกิดแท่งเทียนดำใหญ่ แนวโน้มลงต่อได้อีกมาก




สินค้าเกษตร ช่วงที่ผ่านมาเหมือนกับจะจบคลื่น c และเริ่มเข้าคลื่น 1 แต่ในที่สุดก็ไม่ใช่ ทั้งเดินแท่งเทียนดำใหญ่และเกิดช่อง (gap) ประกอบกับทิศทางราคาน้ำมันเป็นขาลง สินค้าเกษตรคงลงต่อได้อีก 




ยางพารา RSS3 ของไทย เดิมทีเหมือนกับว่าจะจบคลื่นแล้ว แถว 82 บาท และกำลังเข้าคลื่น 1-2 แต่ดูแล้วคงไม่ใช่แล้วล่ะ คลื่น c ยังไม่จบ แนวโน้มยางพาราคงหลุด 80 บาทลงไปในเร็วๆนี้





คราวนี้มาดูตลาดหุ้นไทยกันบ้าง เมื่อวานตลาดหุ้นลงแรงอีก น่าจะเป็นคลื่น 4 แล้วล่ะ เหลือแต่ว่าจะลงเลยหรือจะทำรูปแบบชายธงก่อนลงเท่านั้นเอง

เมื่อวานกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ลงแรง ลองมาดูกราฟของหุ้นอสังหาฯบางตัวกัน ตัวเลขที่เป็น % ในภาพหมายถึงราคาปิดเมื่อวานลงมาจากยอดคลื่นแล้วกี่เปอร์เซ็นต์นั่นเอง 












Tuesday, April 2, 2013

02/04/2013 * สรุปภาวะตลาดเดือนมีนาคม แนวโน้มโลกชะลอตัว

ลุงแมวน้ำไม่ได้รายงานสถานการณ์การลงทุนมาเสียนาน สาเหตุก็เนื่องมาจากฐานข้อมูลมีปัญหา แล้วยังไม่ได้ซ่อมเสียที ช่วงหลังเว็บยาฮูรวนบ่อยๆ ทำให้ข้อมูลมีปัญหาอยู่เรื่อยๆ แต่ตอนนี้แก้ไขเสร็จแล้ว เลยออกรายงานเดือนมีนาคมมาให้ดูกัน

ภาพรวมของตลาดหุ้นทั่วโลกในเดือนมีนาคมเริ่มแสดงอาการชะลอตัวลง หากเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ก็จะเห็น คือการเปลี่ยนแปลงเป็นแบบขึ้นๆลงๆ ไม่ใช่การขึ้นต่อเนื่อง แสดงว่าภาพใหญ่เริ่มชะลอตัวลงแล้ว ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของอเมริกาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ดัชนีตัวนี้คำนวณจากหุ้น 30 ตัว ส่วนดัชนี S&P 500 ของอเมริกาเช่นกัน ที่คำนวณจากหุ้น 500 ตัว ทำจุดสูงสุดใหม่ได้เมื่อตอนสิ้นเดือนมีนาคมนี้เอง แต่ว่ายืนไม่อยู่ และลุงแมวน้ำคาดว่าตลาดหุ้นอาจปรับตัวลงทั่วโลกในเดือนเมษายนคือเดือนนี้แหละ

ภาพรวมของตลาดหุ้นกลุ่มยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลง กลุ่มละตินอเมริกาหรือว่าอเมริกาใต้ก็ปรับตัวลง โดยเฉพาะตลาดหุ้นอาร์เจนตินาหวือหวามาก ขึ้นลงเดือนละ 10% ทีเดียว

ตลาดหุ้นย่านเอเชียเดือนมีนาคมปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หากดูในรายประเทศเริ่มมีการปรับตัวลงในบางประเทศ โดยเฉพาะจีนปรับตัวลงค่อนข้างแรง ซึ่งการปรับตัวลงของตลาดหุ้นจีนนี้แม้ดูไม่ค่อยกระทบกับตลาดหุ้นอื่นๆ แต่ที่จริงแล้วมีผลกระทบกับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์มากเหมือนกัน โดยเฉพาะตลาดสินค้าเกษตร ถ้าจีนมีการบริโภคหดตัวลง ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหลายโดยเฉพาะสินค้าเกษตรจะร่วงตามไปด้วย รวมทั้งราคายางพารา

สำหรับตลาดหุ้นไทย เมื่อเดือนมีนาคม ดัชนี SET ปรับตัวขึ้น 1% แต่หุ้นที่เกิดสัญญาณขายเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบการกราฟของดัชนี SET ผ่าน 1600 จุดแต่ไม่สามารถยืนอยู่ได้ รวมทั้งดัชนีตลาดหุ้นของอเมริกาเริ่มส่อเค้าว่าจะปรับตัวลง ดังนั้นลุงแมวน้ำคาดว่าในเดือนเมษายนนี้ตลาดหุ้นไทยน่าจะปรับตัวลงไปชั่วระยะหนึ่ง โดยคลื่นขาลงชุดนี้อาจอยู่ในรูปสามเหลี่ยมชายธงก็ได้ คือเด้งขึ้นเด้งลงในกรอบชายธงไปก่อน จากนั้นค่อยหลุดชายธงลงมา การลงรอบนี้หากประเมินด้วยเครื่องมือทางเทคนิคคือฟิโบนาชชีเป้าหมาย (fibonacci targetting) อาจลงไปถึง 1290-1350 จุดก็ได้ ดังนั้นนักลงทุนควรระวัง

สินค้าโภคภัณฑ์โดยรวมตลาดยังไม่เล่นกัน ตอนนี้มาเน้นกันที่ตลาดหุ้น ดังนั้นสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆจึงไม่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นราคาทองคำ น้ำมันดิบ ล้วนแต่แกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบ ลักษณะเป็นตลาดไร้ทิศทางอยู่ แต่เมื่อไรที่ตลาดหุ้นปรับตัวลง สินค้าโภคภัณฑ์พวกนี้จะร่วงตามไปด้วย ดังนั้นลุงแมวน้ำคิดว่ายังไม่น่าเทรด ควรหลีกเลี่ยงชั่วคราว ยกเว้นอยู่อย่างเดียว คือราคาน้ำมันดิบ หากมีกรณีสงครามรบพุ่งกัน ราคาน้ำมันดิบอาจปรับตัวขึ้น แต่ก็พูดเผื่อไว้เท่านั้นเอง กรณีเกาหลีเหนือที่ออกมาแสดงท่าทีเกเรนั้นยังไม่มีน้ำหนักต่อราคาน้ำมันดิบ

ด้านสินค้าเกษตร เมื่อเดือนมีนาคมปรับตัวลง -2.4% จากนั้นตอนสิ้นเดือนมีนาคมต่อเนื่องต้นเดือนเมษายน คือเมื่อสองสามวันที่ผ่านมานี้เอง ราคาสินค้าเกษตรข้าวโพด ข้าวสาลี ลงหนัก เพราะสต็อกสินค้าเกษตรในอเมริกามีสูง เมื่ออุปทานมากมาย ราคาก็ย่อมร่วง ตอนนี้รูปแบบทางเทคนิคเสียหายหมดแล้ว ใครที่ถือไว้ควรพิจารณากระโดดออกมาได้แล้ว



 photo s5002042013monthlyreportmarch2013copy-3.gif