Tuesday, December 18, 2012

14/12/2012 สรุปภาวะการลงทุนรอบสัปดาห์ (10/12/2012 - 14/12/2012) * หุ้นขาขึ้น สินค้าโภคภัณฑ์รอเวลา

วันนี้ลุงแมวน้ำมาอัปเดตภาวะการลงทุนในรอบสัปดาห์กัน

สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นขึ้นในทุกภูมิภาค เฉลี่ยทั้งโลกก็ปรับตัวขึ้นประมาณ +0.6% ตลาดที่ขึ้นแรงสุดคือตลาดหุ้นอาร์เจนตินา +8.75% ถัดมาเป็นตลาดหุ้นอียิปต์ +5.24% แรงลำดับสามคือตลาดหุ้นจีน +4.86% ส่วนตลาดหุ้นไทย SETi ปรับตัวขึ้นไป +1.76%

หากลองสังเกตดูในตารางข้างล่างที่ลุงแมวน้ำนำมาให้ดูกัน จะเห็นว่าตลาดหุ้นเกือบทุกตลาดเกิดสัญญาณซื้อเกือบหมดแล้ว แม้แต่ตลาดหุ้นกลุ่มยุโรปก็เป็นสัญญาณซื้อ มีเพียงบางตลาดเท่านั้นที่ยังเป็นสัญญาณขาย แต่ก็มีการปรับตัวขึ้นมา ในที่สุดก็อาจเกิดสัญญาณซื้อตามมาได้ ภาพใหญ่ที่เห็นนี้บ่งบอกชัดเจนว่าผลจากมาตรการอัดฉีดสภาพคล่อง ทั้งของสหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ ทำให้เกิดการเก็งกำไรในทรัพย์สินเสี่ยง ตลาดหุ้นตอนนี้เป็นแนวโน้มขาขึ้น แรงน้อยแรงมากแตกต่างกันไป แต่ดูว่าตลาดทางเอเชียค่อนข้างแรงกว่ากลุ่มยุโรปและสหรัฐอเมริกา เศรษฐกิจจริงจะเป็นอย่างไรไปว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง

ตลาดหุ้นยุโรปที่มีข่าวเขย่าขวัญทุกวันว่าเศรษฐกิจถดถอย แต่พิจารณาจากกราฟทางเทคนิค ขณะนี้ดัชนีตลาดหุ้นเยอรมนีเป็นแนวโน้มขาขึ้นที่มีกำลัง


ตลาดหุ้นจีนลงแล้วลงอีก จนนว่ากลัวว่าจะหลุด 2,000 จุด แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้มีสัญญาณทางเทคนิคที่น่าสนใจ นั่นคือแท่งเทียนขาวใหญ่ หากตลาดหุ้นจีนกลับทิศได้จริงก็น่าสนใจทีเดียว และตลาดหุ้นเอเชียคงเก็งกำไรคึกคักยิ่งกว่าปัจจุบันเสียอี


ทางด้านสินค้าโภคภัณฑ์ หากดูจากตารางด้านล่าง จะเห็นว่าสินค้าโภคภัณฑ์เกิดสัญญาณขายเกือบทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันดิบ โลหะมีค่า สินค้าเกษตร มีสัญญาณซื้อเพียงโลหะอุตสาหกรรม ซึ่งเพิ่งเกิดสัญญาณซื้อไปไม่นาน ตอนนี้แรงเก็งกำไรยังกระจุกตัวอยู่ในตลาดหุ้น แต่ว่าต่อไปก็จะย้ายมาเก็งกำไรในสินค้าโภคภัณฑ์ด้วย ต่อไปสินค้าโภคภัณฑ์ก็น่าจะเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นด้วย คอยติดตามดูกัน

ทางด้านตลาดตราสารหนี้ เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอเมริกันปรับตัวสูงขึ้นเฉพาะพันธบัตรอายุยาว อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอเมริกัน 10 ปี ปรับตัวขึ้น 8 จุดเบสิส ส่วนเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยปรับตัวขึ้นตลอดทั้งเส้น โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปีในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น 5 จุดเบสิส ในขณะที่ตลาดหุ้นขึ้น สะท้อนว่ามีการขายพันธบัตรเพื่อมาเก็งกำไรในตลาดหุ้น

ทางด้านตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ค่าเงินดอลลาร์ สรอ อ่อนตัว ทำให้เงินตราสกุลอื่นแข็งค่าขึ้น เงินสกุลยุโรปและเอเชียแข็งค่าขึ้นมากน้อยไม่เท่ากัน ยกเว้นเงินเยนที่อ่อนค่าลงจากการแทรกแซงของธนาคารกลางของญี่ปุ่น



ค่าเงินดอลลาร์ สรอ ดูจาก ดัชนีดอลลาร์ สรอ ขณะนี้กำลังอ่อนค่าลงมาติดแนวรับ ลุงแมวน้ำคาดว่าเงินดอลลาร์จะหลุดแนวรับนี้และอ่อนค่าต่อไป

เงินเยนอ่อนค่าหนัก อันเป็นผลจากการแทรกแซง 



ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนผันผวนมากทีเดียว เพราะผลจากการอัดฉีดสภาพคล่องของประเทศต่างๆ หากพิจารณาด้านความผันผวนจะเห็นว่าทองคำ เงินดอลลาร์ สรอ เงินสกุลยุโรป (เช่น เงินยูโร เงินฟรังก์สวิส ฯลฯ) ช่วงนี้สกุลที่ค่อนข้างเสถียรคือเงินบาทกับดอลลาร์สิงคโปร์ แต่แนวโน้มเงินบาทก็แข็งค่าเช่นกัน



ลองสังเกตดูในตารางอีกครั้ง จะเห็นว่ายางพาราตลาดญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นมากในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ยางพาราของไทยปรับตัวขึ้นน้อย นั่นเป็นเรพาะผลจากอัตราแลกเปลี่ยน เงินเยนอ่อนค่า ทำให้ราคายางพาราไทยขึ้นไม่ได้มากเท่ากับยางญี่ปุ่น ดังนั้นช่วงนี้การลงทุนใดๆในสกุลเงินต่างประเทศหรือสินค้านั้นๆอิงกับสกุลเงินต่างประเทศ ต้องระวังเรืองผลจากอัตราแลกเปลี่ยนให้ดี


Photobucket

Thursday, December 13, 2012

13/12/2012 * ลุงแมวน้ำขึ้นรถไฟสาย 1700

วันนี้มาอัปเดตกันหน่อยนะครับ

ช่วงนี้ลุงแมวน้ำก็วุ่นวายตามเคย ชีวิตทำงานหลายอย่าง ตั้งแต่แสดงละครสัตว์งานประจำ ยังเป็นเถ้าแก่แมวน้ำอีคอมเมิร์ซ แล้วยังจะเป็นเชฟแมวน้ำสอนทำเบเกอรี่อีก ^_^ ลุงแมวน้ำไปซื้อหมวกเชฟมาแล้ว กับผ้ากันเปื้อนผืนใหม่ เวลาถ่ายรูปประกอบการทำอาหารจะได้ดูมีมาดเชฟแมวน้ำหน่อย

แต่ถึงจะวุ่นวายอย่างไร ลุงแมวน้ำก็ยังไม่ลืมมิตรรักแฟนเพลงนักลงทุนรายย่อยทุกคน ที่ช่วงนี้อัปเดตน้อยลงไปบ้างเพราะว่ายังไม่มีอะไรใหม่ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ คือตอนนี้ก็ยังเป็นอะไรเดิมๆดังที่ลุงแมวน้ำเคยกล่าวไปแล้ว ยังไม่เปลี่ยนความคิด ก็เลยห่างๆไปบ้าง แต่ถ้ามีอะไรสำคัญจะรีบมาบอก

เมื่อคืน 12/02/2012 ลุงเบน เบอร์นันกี ประธานเฟด หรือธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา ให้ข่าวจากการประชุมเฟดครั้งล่าสุดว่า จะอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจเดือนละ 85,000 ล้านดอลลาร์ สรอ    โดยแบ่งเป็นเงินจากมาตรการ QE3 เดือนละ 40,000 ล้านดอลลาร์ กับเงินจากมาตรการ operation twist เดือนละ 45,000 ล้านดอลลาร์ เรื่อง opreration twist นั้นจะหมดอายุโครงการเดือนนี้ แต่เมื่อหมดอายุแล้วก็ยังมีมาตรการซื้อพันธบัตรต่อไป ก็เท่ากับต่ออายุดครงการออกไปนั่นเอง

ลุงแบนจะอัดฉีดไปเรื่อยๆจนกว่าอัตราการว่างงานจะเหลือ 6.5% ซึ่งเรืองอัตราการว่างงานนี้ขณะนี้ค่อยๆลดลง แต่ว่าไม่ได้ลดลงจากคนมีงานทำมากขึ้น หากแต่ลดลงจากคนถอดใจเลิกหางานทำ นี่เป็นเรื่องของคณิตศาสตร์

สมมติง่ายๆ แรงงาน 10 คน มีว่างงาน 3 คน อัตราว่างงานคือ 3 ใน 10 หรือ 30%

ทีนี้เอาใหม่ สมมติว่าคนว่างงานถอดใจเลิกหางานไป 2 คน เหลือคนที่ยังดิ้นรนหางานอยู่เพียง 1 คน คนที่ถอดใจไปก็ไม่นับเป็นคนว่างงานแล้ว แรงงานทั้งหมดจึงไม่ได้มี 10 คน แต่มีเพียง 8 คน

ดังนั้นคนที่ว่างงานจริงๆ (คือตกงานแล้วยังดิ้นรนหางานทำอยู่) ก็เหลือเพียงคนเดียว จากแรงงานทั้งหมด 8 คน นั่นคือ อัตราว่างงาน 1 ใน 8 หรือ 12.5%

เห็นไหม แค่นั่งคิดเลขใหม่ อัตราว่างงานก็เปลี่ยนไปแล้ว ทั้งๆที่ไม่ได้มีตำแหน่งงานเพิ่มขึ้น ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงบอกว่าตัวเลขนี้บางทีก็หลอกให้เราเข้าใจผิดได้ ต้องไปดูรายละเอียดลึกๆอีกทีหนึ่ง

เอาละ มาว่าเรื่องลุงเบนกันต่อ เมื่อลุงเบนประกาศเช่นนี้ เงินดอลลาร์ สรอ ก็อ่อน ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาก็อ่อนตัวลงเช่นกัน สาเหตุที่เงินดอลลาร์อ่อนเพราะภายใต้สถานการณ์อัดฉีดเช่นนี้ คือการพิมพ์เงินเพิ่มเข้ามาในระบบมากๆ ผลจะทำให้เงินเฟ้อและค่าเงินลดลง นักลงทุนก็ชิงขายเงินดอลลาร์ออกมา ส่วนตลาดหุ้นนั้นลุงแมวน้ำมองว่าน่าจะไปต่อ เพราะภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ส่งผลให้เงินด้อยค่า หากต้องการรักษามูลค่าของเงินในกระเป๋าเอาไว้ก็ต้องเอาไปลงทุนให้เกิดผลกำไรมากๆ เพื่อให้ชนะเงินเฟ้อ  ซึ่งนั่นก็คือแรงจูงใจให้เงินจำนวนมากเหล่านี้เข้าไปเก็งกำไรในทรัพย์สินเสี่ยงต่างๆทั่วโลก ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงมองว่าตลาดหุ่นกับสินค้าโภคภัณฑ์คงขึ้นทั้งโลก เพียงแต่ว่าภูมิภาคไหนจะแรงกว่ากันเท่านั้นเอง

สำหรับภูมิภาคเอเชีย ตอนนี้ประเทศที่ตลาดหุ้นขึ้นดีมีอยู่ 3 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย ไทย และฟิลิปปินส์

ลุงแมวน้ำจะสรุปจากภาพ ดูตามภาพไปเรื่อยๆนะคร้าบ

เงินดอลลาร์ สรอ หลุดจากกรอบ SEC ใหญ่ (สีดำ) ลงมา ขณะนี้แนวโน้มย่อยเป็นขาขึ้นซึ่งก็เหมือนการรีบาวด์ของขาลง ลุงแมวน้ำคาดว่าเงินดอลลาร์ สรอ ต้องอ่อนค่าต่อไปตามแนวโน้มใหญ่ในที่สุด

เงินบาท หลุดจากกรอบใหญ่ SEC มาแล้ว แนวโน้มแข็งค่าต่อไป


ทองคำ เด้งอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมชายธง ใกล้สุดปลายชายธงแล้ว ช่วงนี้มีกองทุนเก็งกำไรขายทองคำออกมา ทำให้ราคาร่วงและอยู่ในภาวะไร้ทิศทาง หากเงินดอลลาร์ สรอ อ่อนตัวลงอีก ทองคำก็ต้องขึ้น ลุงแมวน้ำมองว่าปลายชายธงนี้มีโอกาสขึ้นต่อมากกว่าลงต่อ ตอนนี้แนวโน้มขาขึ้นยังอ่อนกำลัง ให้รอดูสัญญาณซื้อเสียก่อน

ราคาทองคำ ไม่ว่าจะเป็นทองคำแท่ง ฟิวเจอร์สทองคำ อีทีเอฟทองคำ ภายใต้ภาวะเงินบาทแข็ง ดอลลาร์ สรอ อ่อน หากเทรดเป็นเงินบาทจะเสียกำไรจากค่าเงินไปโข ทางออกคือกองทุนทองคำที่ปิดความเสี่ยงค่าเงินเอาไว้ หรือนักลงทุนเทรดทองคำแล้วชอร์ตฟิวเจอร์สของดอลลาร์ สรอ ไปด้วย


น้ำมันดิบ นักวิเคราะห์บอกว่าราคาน้ำมันเป็นทิศทางขาลง เพราะเศรษฐกิจไม่ดี การบริโภคน้ำมันลดลง แต่ตามเทคนิคเป็นขาขึ้น ลุงแมวน้ำประเมินว่าโอกาสขึ้นต่อมีมากกว่าลง แต่อย่างไรก็ดี ตอนนี้แนวโน้มขาขึ้นยังอ่อนกำลัง ต้องรอสัญญาณซื้อเสียก่อน การเทรดน้ำมันดิบเป็นเงินบาทก็เสียเปรียบอัตราแลกเปลี่ยนเช่นเดียวกับทองคำ ทางออกก็เช่นเดียวกัน คือกองทุนน้ำมันดิบที่มีการเฮดจ์ค่าเงินหรือนักลงทุนชอร์ต usd futures ไว้ด้วย

น้ำมันดิบ wti ก็เช่นกัน ตอนนี้ดูจากเส้นแนวโน้มเป็นขาขึ้น แต่ว่ายังอ่อนกำลัง ต้องรอสัญญาณซื้อ


ยางพารา ตอนนี้ทุกคนกลัวยางพารา เพราะปัจจัยพื้นฐานมองว่าเป็นขาลง แต่ในทางเทคนิคเห็นได้ค่อนข้างชัดว่าเป็นคลื่นขาขึ้น ตอนนี้กำลังเข้าคลื่น 3 ประกอบกับหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ราคายางพาราค่อยๆขึ้นแบบซื้อขายกันน้อยมาก คือมูลค่าการซื้อขายต่ำ ลุงแมวน้ำประเมินว่าอีกไม่นานวอลุ่มจะมา แล้วเข้าสู่คลื่น 3 เต็มตัว 



ตลาดหุ้นไทย ผ่านแนวต้าน 1,330 จุด (โดยประมาณ) มาแล้ว ไม่เหลือแนวต้านระยะสั้นแล้ว  แนวต้านถัดไปคือ 1400 จุด, 1450, 1550, 1700 จุด ซึ่งเป็นแนวต้านใหญ่ของเมื่อ 16 ปีกว่ามาแล้วทั้งสิ้น

ตั้งแต่วันที่ 28 พย. ที่ผ่านมา ต่างชาติกลับลำ จากขายสุทธิอย่างต่อเนื่องมานานนับเดือน มาเป็นซื้อสุทธิ 9 วันทำการที่ผ่านมา ฝรั่งขายแค่วันเดียว อีก 8 วันเป็นซื้อสุทธิ หุ้นมาร์เก็ตแคปสูงปรับตัวขึ้น ตัวเล็กตัวน้อยไม่ขึ้น แสดงว่าฝรั่งก็น่าจะกำลังเข้าซื้อ หากฝรั่งเข้าก็ซื้อเป็นเดือนเช่นเดียวกันกับตอนขาย ช่วงนี้ต้องเทรดหุ้นที่ฝรั่งลงทุน ว่าไปตามน้ำดีกว่า
สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้น ไม่ควรซื้อเพียงตัวหรือสองตัว ควรกระจายสัก 5-7 ตัว คนละกลุ่มกัน ทำแบบนี้จะช่วยให้พอร์ตการลงทุนเสถียร ลดความผันผวนจากภาวะตลาดได้ส่วนหนึ่ง ในทางวิชาการคือการเพิ่มค่าอัลฟาของหุ้นด้วยการซื้อหุ้นเป็นกลุ่มนั่นเอง รวมทั้งการจัดพอร์ตหุ้นหลายตัวให้กระจายกลุ่มมักให้ผลตอบแทนดีกว่าลงทุนในดัชนีอีกด้วย

และอย่าลืมว่าหุ้นไม่ได้ขึ้นทุกวัน ดังนั้นอย่าซื้อเพลินเชียว ต้องรักษาวินัยในการเทรดและทบทวนกลยุทธ์การลงทุนไว้เสมอ ^_^