ช่วงนี้ลุงแมวน้ำก็วุ่นวายตามเคย ชีวิตทำงานหลายอย่าง ตั้งแต่แสดงละครสัตว์งานประจำ ยังเป็นเถ้าแก่แมวน้ำอีคอมเมิร์ซ แล้วยังจะเป็นเชฟแมวน้ำสอนทำเบเกอรี่อีก ^_^ ลุงแมวน้ำไปซื้อหมวกเชฟมาแล้ว กับผ้ากันเปื้อนผืนใหม่ เวลาถ่ายรูปประกอบการทำอาหารจะได้ดูมีมาดเชฟแมวน้ำหน่อย
แต่ถึงจะวุ่นวายอย่างไร ลุงแมวน้ำก็ยังไม่ลืมมิตรรักแฟนเพลงนักลงทุนรายย่อยทุกคน ที่ช่วงนี้อัปเดตน้อยลงไปบ้างเพราะว่ายังไม่มีอะไรใหม่ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ คือตอนนี้ก็ยังเป็นอะไรเดิมๆดังที่ลุงแมวน้ำเคยกล่าวไปแล้ว ยังไม่เปลี่ยนความคิด ก็เลยห่างๆไปบ้าง แต่ถ้ามีอะไรสำคัญจะรีบมาบอก
เมื่อคืน 12/02/2012 ลุงเบน เบอร์นันกี ประธานเฟด หรือธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา ให้ข่าวจากการประชุมเฟดครั้งล่าสุดว่า จะอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจเดือนละ 85,000 ล้านดอลลาร์ สรอ โดยแบ่งเป็นเงินจากมาตรการ QE3 เดือนละ 40,000 ล้านดอลลาร์ กับเงินจากมาตรการ operation twist เดือนละ 45,000 ล้านดอลลาร์ เรื่อง opreration twist นั้นจะหมดอายุโครงการเดือนนี้ แต่เมื่อหมดอายุแล้วก็ยังมีมาตรการซื้อพันธบัตรต่อไป ก็เท่ากับต่ออายุดครงการออกไปนั่นเอง
ลุงแบนจะอัดฉีดไปเรื่อยๆจนกว่าอัตราการว่างงานจะเหลือ 6.5% ซึ่งเรืองอัตราการว่างงานนี้ขณะนี้ค่อยๆลดลง แต่ว่าไม่ได้ลดลงจากคนมีงานทำมากขึ้น หากแต่ลดลงจากคนถอดใจเลิกหางานทำ นี่เป็นเรื่องของคณิตศาสตร์
สมมติง่ายๆ แรงงาน 10 คน มีว่างงาน 3 คน อัตราว่างงานคือ 3 ใน 10 หรือ 30%
ทีนี้เอาใหม่ สมมติว่าคนว่างงานถอดใจเลิกหางานไป 2 คน เหลือคนที่ยังดิ้นรนหางานอยู่เพียง 1 คน คนที่ถอดใจไปก็ไม่นับเป็นคนว่างงานแล้ว แรงงานทั้งหมดจึงไม่ได้มี 10 คน แต่มีเพียง 8 คน
ดังนั้นคนที่ว่างงานจริงๆ (คือตกงานแล้วยังดิ้นรนหางานทำอยู่) ก็เหลือเพียงคนเดียว จากแรงงานทั้งหมด 8 คน นั่นคือ อัตราว่างงาน 1 ใน 8 หรือ 12.5%
เห็นไหม แค่นั่งคิดเลขใหม่ อัตราว่างงานก็เปลี่ยนไปแล้ว ทั้งๆที่ไม่ได้มีตำแหน่งงานเพิ่มขึ้น ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงบอกว่าตัวเลขนี้บางทีก็หลอกให้เราเข้าใจผิดได้ ต้องไปดูรายละเอียดลึกๆอีกทีหนึ่ง
เอาละ มาว่าเรื่องลุงเบนกันต่อ เมื่อลุงเบนประกาศเช่นนี้ เงินดอลลาร์ สรอ ก็อ่อน ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาก็อ่อนตัวลงเช่นกัน สาเหตุที่เงินดอลลาร์อ่อนเพราะภายใต้สถานการณ์อัดฉีดเช่นนี้ คือการพิมพ์เงินเพิ่มเข้ามาในระบบมากๆ ผลจะทำให้เงินเฟ้อและค่าเงินลดลง นักลงทุนก็ชิงขายเงินดอลลาร์ออกมา ส่วนตลาดหุ้นนั้นลุงแมวน้ำมองว่าน่าจะไปต่อ เพราะภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ส่งผลให้เงินด้อยค่า หากต้องการรักษามูลค่าของเงินในกระเป๋าเอาไว้ก็ต้องเอาไปลงทุนให้เกิดผลกำไรมากๆ เพื่อให้ชนะเงินเฟ้อ ซึ่งนั่นก็คือแรงจูงใจให้เงินจำนวนมากเหล่านี้เข้าไปเก็งกำไรในทรัพย์สินเสี่ยงต่างๆทั่วโลก ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงมองว่าตลาดหุ่นกับสินค้าโภคภัณฑ์คงขึ้นทั้งโลก เพียงแต่ว่าภูมิภาคไหนจะแรงกว่ากันเท่านั้นเอง
สำหรับภูมิภาคเอเชีย ตอนนี้ประเทศที่ตลาดหุ้นขึ้นดีมีอยู่ 3 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย ไทย และฟิลิปปินส์
ลุงแมวน้ำจะสรุปจากภาพ ดูตามภาพไปเรื่อยๆนะคร้าบ
เงินดอลลาร์ สรอ หลุดจากกรอบ SEC ใหญ่ (สีดำ) ลงมา ขณะนี้แนวโน้มย่อยเป็นขาขึ้นซึ่งก็เหมือนการรีบาวด์ของขาลง ลุงแมวน้ำคาดว่าเงินดอลลาร์ สรอ ต้องอ่อนค่าต่อไปตามแนวโน้มใหญ่ในที่สุด |
เงินบาท หลุดจากกรอบใหญ่ SEC มาแล้ว แนวโน้มแข็งค่าต่อไป |
น้ำมันดิบ wti ก็เช่นกัน ตอนนี้ดูจากเส้นแนวโน้มเป็นขาขึ้น แต่ว่ายังอ่อนกำลัง ต้องรอสัญญาณซื้อ |
สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้น ไม่ควรซื้อเพียงตัวหรือสองตัว ควรกระจายสัก 5-7 ตัว คนละกลุ่มกัน ทำแบบนี้จะช่วยให้พอร์ตการลงทุนเสถียร ลดความผันผวนจากภาวะตลาดได้ส่วนหนึ่ง ในทางวิชาการคือการเพิ่มค่าอัลฟาของหุ้นด้วยการซื้อหุ้นเป็นกลุ่มนั่นเอง รวมทั้งการจัดพอร์ตหุ้นหลายตัวให้กระจายกลุ่มมักให้ผลตอบแทนดีกว่าลงทุนในดัชนีอีกด้วย
และอย่าลืมว่าหุ้นไม่ได้ขึ้นทุกวัน ดังนั้นอย่าซื้อเพลินเชียว ต้องรักษาวินัยในการเทรดและทบทวนกลยุทธ์การลงทุนไว้เสมอ ^_^
และอย่าลืมว่าหุ้นไม่ได้ขึ้นทุกวัน ดังนั้นอย่าซื้อเพลินเชียว ต้องรักษาวินัยในการเทรดและทบทวนกลยุทธ์การลงทุนไว้เสมอ ^_^