Thursday, December 6, 2012

06/11/2012 สรุปภาวะการลงทุนประจำเดือนพฤศจิกายน (11/2012)

วันนี้ลุงแมวน้ำนำสรุปภาวะตลาดในรอบเดือนมาให้ดูกัน

ในรอบเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกเฉลี่ยแล้วปรับตัวขึ้นไม่มาก ประมาณ 1% กลุ่มที่ขึ้นแรงกว่าเพื่อนคือกลุ่มยูโรโซน ประมาณ +3% ตามมาด้วยกลุ่มเอเชีย ส่วนสหรัฐอเมริกานั้นปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ส่วนไทยนั้นปรับตัว +1.9%

สำหรับจีนนั้น แม้ว่าดัชนีภาคการผลิต (PMI) ของจีนจะเกินกว่า 50% ต่อเนื่องกันสองเดือนแล้ว คือถ้าต่ำกว่า 50% ถือว่าถดถอย นี่ถือว่าเกือบจะหลุดจากภาวะถดถอยแล้ว แต่ว่าดัชนีตลาดหุ้นของจีนไม่ตอบสนองเลย เดือนที่ผ่านมานี้ดัชนี CSI 300 ของจีนปรับตัวลงไป -5% และยังทำจุดต่ำสุดใหม่อีก ไม่ตอบสนองต่อข่าวนี้เลย ดัชนี PMI ที่เพิ่มขึ้นอาจเป็นภาวะชั่วคราวก็ได้เนื่องจากภาคการผลิตมักมีการผลิตสินค้าเพิ่มมากขึ้นเพื่อรับเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน พ้นจากตรุษจีนแล้วอาจถดถอยลงไปอีก ส่วนดัชนีการผลิตของสหรัฐอเมริกาก็ดีขึ้นเช่นกัน แต่ก็อีกนั่นแหละ อาจเป็นเพราะเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ก็ได้ ดังนั้นจึงไม่อาจแน่ใจได้ว่าเศรษฐกิจของ จีน และ สรอ ฟื้นตัวแล้ว

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ กลุ่มน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น โลหะก็ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนสินค้าเกษตรปรับตัวลดลง

ด้านอัตราแลกเปลี่ยน เดือนที่แล้วเงินดอลลาร์ สรอ แข็งค่าขึ้นนิดหน่อย เงินเยนอ่อนค่า เงินบาททรงตัว

ด้านตลาดพันธบัตร เดือนที่แล้วพันธบัตรอเมริกัน อายุ 10 ปี มีอัตราผลตอบแทนลดลง ส่วนเส้นอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไทยนั้น ถ้าเป็นพันธบัตรอายุยาว 3 ปีขึ้นไป เส้นอัตราผลตอบแทนปรับสูงขึ้น ส่วนที่ต่ำกว่า 3 ปีเส้นอัตราผลตอบแทนปรับลดลง หมายความว่ามีกาารขายพันธบัตรอายุยาวออกไป น่าจะเป็นเพราะต้องการนำไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างอื่นที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า  ส่วนพันธบัตรอายุสั้นและกลางที่มีอัตราผลตอบแทนต่ำลงนั้นเพราะว่าเงินไหลมาพักในพันธบัตรอายุสั้นและกลางเพื่อรอจังหวะย้ายไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างอื่นนั่นเอง



Photobucket

Tuesday, November 27, 2012

27/11/2012 สรุปภาวะการลงทุนรอบสัปดาห์ (19/11/2012 - 23/11/2012) * แนวโน้มขาขึ้นเริ่มมีกำลัง


อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอเมริกัน อายุ 10 ปี เกิดสัญญาณซื้อ และน่าจะอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น บ่งชี้ว่าเงินไหลออกจากตลาดพันธบัตรมาเก็งกำไรในตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ นี่เป็นสัญญาณประการหนึ่งที่บ่งชี้ภาวะเก็งกำไร แต่อย่างไรก็ตาม แนวโน้มใหญ่ของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรน่าจะยังเป็นขาลงอยู่เพราะเฟดต้องการกดอัตราดอกเบี้ยเอาไว้


ดัชนีดอลลาร์ สรอ (USD index) อ่อนตัวในช่วงปลายสัปดาห์ เกิดเป็นรูปแบบแท่งเทียนที่เรียกว่าหน้าต่างขาลง (falling window) และแท่งเทียนดำใหญ่ (big black candle) เงินดอลลาร์ สรอ อาจกำลังกลับทิศแนวโน้มเป็นขาลง


ช่วงนี้ลุงแมวน้ำยุ่งกับเรื่องเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซครับ เดือนพฤศจิกายนนี้งานอีคอมเมิร์ซไม่ค่อยคืบหน้าเอาเลย พอปลายเดือนก็เริ่มเป็นห่วง ขอเวลาไปทุ่มงานอีคอมเมิร์ซสักระยะนะคร้าบ การอัปเดตอาจจะล่าช้าไปบ้าง แต่ต้นเดือนธันวาคมคงเข้าที่เสียที ก็จะได้กลับมาอัปเดตเว็บบล็อกให้ถี่ขึ้น

ช่วงนี้วุ่นจนแทบไม่มีเวลาหายใจ เว่อไปไหม ^__^ เอาเป็นว่าวุ่นจนน้ำหนักขึ้นก็ได้

มาดูอัปเดตในรอบสัปดาห์กันเลยคร้าบ สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดการลงทุนสดใส ทั้งหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ ขยับขึ้นกันแรงทีเดียว ส่วนตลาดพันธบัตรก็ซบเซาลงไป นอกจากนี้ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนที่ทรงตัวมาหลายสัปดาห์ เริ่มหวือหวาขึ้นบ้างแล้ว 

สถานการณ์โลกในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้านสหรัฐอเมริกา ปัญหาหน้าผาการคลังก็ยังวนไปวนมาเช่นเดิม เดี๋ยวกังวล เดี๋ยวก็ไม่กังวล ตลาดหุ้นก็เลยขึ้นๆลงๆ เหมือนอารมณ์แปรปรวน  แต่ในสัปดาห์ที่แล้วดูเหมือนจะเป็นช่วงอารมณ์ดี เพราะว่านักวิเคราะห์และสื่อต่างๆส่วนใหญ่วิเคราะห์ในทำนองว่าในที่สุดพรรคเดโมแครตกับรีพับลิกันก็ต้องตกลงกันจนได้ ส่วนลุงเบน เฮลิคอปเตอร์ ประธานเฟด ก็บอกว่ารอให้ผ่านเรื่องหน้าผาการคลังก่อน จะอัดฉีดสภาพคล่องให้หนำใจ 

ด้านยุโรป เรื่องกรีซ กับเงินกู้เสริมสภาพคล่องงวดใหม่ยังไม่ลงตัว มาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลกรีซออกฤทธิ์หนัก สภาพภายในประเทศค่อนข้างวุ่นวาย ผู้คนประท้วง ก่อความวุ่นวาย และฆ่าตัวตายเพราะหมดหนทางในชีวิต แต่ตลาดหุ้นกรีซดูเหมือนจะไม่กังวลกับเรื่องเงินกู้กับสภาพความวุ่นวายภายใน เพราะตลาดหุ้นกรีซขึ้นไป +6.9% ขณะเดียวกัน ฝรั่งเศสถูกมูดีส์ลดอันดับเครดิต แต่ยุโรปสัปดาห์นี้ก็ไม่กังวลเช่นกัน ตลาดหุ้นยุโรปขึ้นแรง เฉลี่ยแล้วกว่า 6% ทีเดียว 

ตลาดหุ้นเอเชียสัปดาห์ที่ผ่านมากลับไม่แรง โดยเฉลี่ยแล้วขึ้นประมาณ 2% กว่าๆ แต่บางตลาดที่ลงก็มี ญี่ปุ่นมีปัญหาเรื่องบริษัทยักษ์ใหญ่ถูกลดอันดับเครดิต เช่น ชาร์ป พานาโซนิก แต่ดัชนีนิกเกอิก็ขึ้นได้แรงพอควร ส่วนจีนนั้นแม้ดัชนี HSBC PMI อันเป็นดัชนีบ่งชี้การผลิตของจีนจะโงหัวมาเกิน 50% อยู่ที่ 50.4% แต่ตลาดหุ้นจีนดูไม่มีแรงเอาเลย ลุงแมวน้ำคิดว่าตอนนี้เศรษฐกิจจีนน่าจะมีปัญหาหนักที่ไม่มีใครรู้ซ่อนอยู่

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นแรง ทองคำ +2.14% โลหะเงิน +5.67% น้ำมันดิบเบรนต์ +2.23% สินค้าเกษตร +1.7%

ด้านตลาดพันธบัตร เส้นอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอเมริกันปรับตัวขึ้นตลอดทั้งเส้น คือปรับขึ้นทุกช่วงอายุนั่นเอง ส่วนเส้นอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรไทยคงตัว อัตราผลตอบแทนพันธบัตร สรอ อายุ 10 ปี ดูจากกราฟเหมือนกำลังเป็นแนวโน้มขาขึ้น นั่นเป็นสัญญาณบ่งชี้ประการหนึ่งที่บ่งชี้ถึงการเก็งกำไรในตลาดหุ้นกำลังเริ่มขึ้น เนื่องจากเงินไหลออกจากตลาดพันธบัตรเข้าไปเก็งกำไรในตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ ลองตามดูอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอเมริกันไปเรื่อยๆจะเห็นชัดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม แนวโน้มขาขึ้นนี้น่าจะเป็นเรื่องชั่วคราว เนื่องจากเฟดได้ต่ออายุมาตรการ operation  twist ออกไป อีกทั้งยังอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจด้วยมาตรการ QE3 ซึ่งเฟดหวังผลเพื่อกดอัตราดอกเบี้ยในระบบการเงินให้ต่ำลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นในที่สุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะถูกกดให้ต่ำลงมาอีก เป็นการทำลายแรงจูงใจในการออมด้วยพันธบัตร แต่ไปสร้างแรงจูงใจให้เกิดการเก็งกำไรในตลาดทุน คือ ตลาดหุ้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์แทน ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงเห็นว่าตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์น่าจะยังไปต่อได้ เพราะวัตถุประสงค์ของเฟดและลุงเบนเองก็คือต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการสร้างแรงจูงใจในการใช้จ่าย ลงทุน และเก็งกำไร นั่นเอง

สำหรับอัตราแลกเปลี่ยน เงินดอลลาร์ สรอ เริ่มอ่อนตัวในตอนท้ายสัปดาห์  USD index หลุด 81 หน่วยลงมาแล้ว ให้ระวังการกลับทิศแนวโน้ม หากดอลลาร์ สรอ กลับทิศ แปลว่าเงินสกุลเอเชียจะแข็งค่าขึ้นอีก 



Photobucket