Saturday, October 27, 2012

27/10/2012 เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ เที่ยวงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ







ลุงแมวน้ำว่างเว้นไม่ได้เขียนสารคดีเช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำเสียนาน ช่วงนี้งานพอจะคลายออกจากพุงของลุงแมวน้ำได้บ้าง จึงรีบมาเขียนให้อ่านกัน ^__^

สัปดาห์นี้เดิมทีว่าจะเขียนเกี่ยวกับธุรกิจของลุงแมวน้ำที่เขียนค้างเอาไว้ยังไม่จบ แต่พอดีลุงแมวน้ำได้ไปเดินงานสัปดาห์หนังสือมา หรือจะเรียกชื่อทางการให้เต็มยศก็ต้องเรียกว่า งานมหกรรมหนังสือสือระดับชาติ ครั้งที่ 17 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์มา งานนี้จัดตั้งแต่วันที่ 18 - 28 ตุลาคม 2555 และเหลืออีกเพียง 2 วันก็จะสิ้นสุดลงแล้ว ลุงแมวน้ำจึงคิดว่ารีบเขียนเรื่องนี้ก่อนดีกว่า เผื่อว่าใครที่ได้อ่านแล้วอยากไปเที่ยวงานขึ้นมาจะได้ไปทัน

สารคดีเรื่องนี้ลุงแมวน้ำถ่ายทำเป็นวิดีโอคลิปด้วย พาเดินงาน 30 นาที ที่จริงลุงแมวน้ำเดินหลายชั่วโมง เดินกันจนเมื่อยพุง แต่ว่าถ่ายทำและตัดต่อมาให้ดูกันเพียง 30 นาที เป็นสีสันและบรรยากาศในวันพฤหสบดีที่ผ่านมา ลุงแมวน้ำไม่ชอบเดินในวันหยุดเพราะว่าคนแน่นมาก เดินเบียดแล้วดูอะไรไม่ค่อยสะดวก สู้เดินวันทำงานดีกว่า คนน้อยดี เมื่อถ่ายทำคลิปเสร็จแล้วจึงจับเป็นภาพนิ่งออกมาอีกทีหนึ่ง ดังนั้นในสารคดีเช้าวันหยุดครั้งนี้พวกเราจะได้ดูกันทั้งคลิปและภาพนิ่ง ภาพนิ่งไม่ชัดเหมือนที่เคยถ่ายผ่านๆมาเนื่องจากทำมาจากคลิปนั่นเอง อีกอย่างก็คือ ลุงแมวน้ำถ่ายคลิปจากโทรศัพท์ครีบถือ ไม่ได้ใช้กล้องวีดิโออย่างมืออาชีพ ดังนั้นคุณภาพก็อยู่ในระดับพอใช้ได้เท่านั้น แต่ก็พอดูได้ละน่า ^__^

เอาละ มาเดินชมงานกันดีกว่า ลุงแมวน้ำจะเลาตามภาพไปเรื่อยๆ ส่วนวีดิโอคลิปก็อยู่ข้างบน มี 2 คลิป ชมกันได้ตามอัธยาศัย ขอให้มีความสุขในวันหยุดกันทุกๆคนคร้าบ

อ้อ เตือนกันไว้ก่อนว่าการไปเดินเที่ยวงานที่มีคนแน่นๆอย่างเช่นงานหนังสือนี้ เรื่องที่ต้องระวังอย่างยิ่งก็คือเรื่องกลุ่มมิจฉาชีพ พวกกรีดกระเป๋า ล้วงกระเป๋า ฉกของ ฯลฯ โดยเฉพาะสุภาพสตรีที่สะพายกระเป๋าไว้ข้างตัว หากถูกกรีดหรือถูกล้วงมักไม่รู้ สุภาพบุรุษที่พกกระเป๋าตังค์ไว้ที่กระเป๋ากางเกงก็เช่นกัน ทั้งกระเป๋าหลังและกระเป๋าหน้ามีโอกาสโดน จุดที่ที่ปลอดภัยจากการถูกกรีดถูกล้วงคือด้านหน้าลำตัวครับ ดังนั้นสตรีควรสะพายกระเป๋าไพล่มากอดไว้หน้าลำตัวดีกว่า ส่วนชายก็อาจจะสะพายย่ามหรือเป้สักใบแล้วไพล่มาด้านหน้าลำตัวเพื่อให้ย่ามบังกระเป๋ากางเกงเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง วิธีนี้จะทำให้การกรีดหรือล้วงกระเป๋าทำได้ยาก ปลอดภัยขึ้นเยอะเลย ^__^


ลุงแมวน้ำลงจากรถไฟฟ้าแล้วก็เดินเข้างาน ที่เห็นในภาพนี้เป็นทางเดินห้องโถงใหญ่ งานหนังสือนี้ใช้พื้นที่เต็มที่ แม้แต่ทางเดิน หรือแม้แต่ถนนนอกอาคารก็ยังมีบู๊ธหนังสือ หนังสือเยอะมากจริงๆ


พื้นที่จัดแสดง ทำเป็นโซนเล็กๆเพื่อให้เต๊ะท่าถ่ายรูปกัน ทำด้วยกระดาษทั้งหมด โซนถ่ายรูปนี้อยู่หน้าแพลนารีฮอลล์ (Planary Hall)


เอาละ เดินเข้ามาในแพลนารีฮอลล์แล้ว ห้องนี้เป็นห้องที่ค่าเช่าพื้นที่แพงที่สุด บู๊ธในนี้ส่วนใหญ่ประชันกันแต่งบ๊ธสุดชีวิต บู๊ธนี้เป็นหนังสือวัยรุ่นแนวหวานแหวว


งานหนังสือสมัยก่อนเป็นเพียงเอาชั้นหนังสือมาตั้ง เอาหนังสือมาวาง เดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้ว จำเป็นต้องมีการจัดดิสเพลย์เข้ามาช่วยเพื่อให้น่าสนใจและเรียกลูกค้า บู๊ธนี้เป็นแนวหนังสืออ่านเล่นของวัยรุ่น หนังสือแปล หนังสือแนววัยรุ่นเป็นแนวที่ขายได้ โดยเฉพาะแนวหวานแหวว รัก โรแมนติก บู๊ธหนังสือแนวนี้มักมีวัยรุ่นมามุงกันแน่น แน่นอน เมื่อเป็นแนวที่นยมกัน สำนักพิมพ์ที่แข่งกันในแนวนี้ก็มีมากเช่นกัน


บู๊ธนี้วัยรุ่นแน่นทุกครั้ง เป็นการ์ตูน และเรื่องแปลจีน นิยายของหวงอี้ขายดีเชียว


บู๊ธนี้เป็นแนวนิยายเรื่องยาว พวกผู้หญิงนิยมอ่านกัน นักเขียนรุ่นใหญ่ก็เช่น ทมยันตี กฤษณา อโศกสินธุ์ แนวผู้ชายอ่านก็มี เช่นเพชรพระอุมาของพนมเทียน เป็นต้น แต่ลุงแมวน้ำไม่เคยอ่าน ยาวมาก อ่านไม่ไหว


นี่ก็แนววัยรุ่นหวานแหวว โรแมนติก


พวกแนวการฝีมือ ทำอาหาร มีคนสนใจเยอะเหมือนกัน โดยเฉพาะหนังสือการฝีมือ เช่นถักโครเชต์ แม่บ้านนิยมกันมาก มีกระแสพอสมควรทีเดียว


หนังสือแนวคอมพิวเตอร์ขายไม่ค่อยดีมาสองสามปีแล้ว นี่เป็นความเห็นส่วนตัวจากการสังเกตของลุงแมวน้ำ สำนักพิมพ์ที่ออกแนวคอมพิวเตอร์ต้องเอามาขายลดราคากัน รววมทั้งออกแนวหนังสืออื่นๆเพิ่มด้วย อาจเป็นเพราะคนรุ่นใหม่คุ้นเคยกับคอมพิวเตอร์มากขึ้นกระมัง โดยเฉพาะพวกระบบมือถือนี่แทบไม่มีใครซื้อคู่มืออ่าน เพราะดูเมนูก็ใช้เป็นแล้ว ส่วนบู๊ธหนังสือแนวสุขภาพการแพทย์แบบหมอชาวบ้าน เมื่อก่อนคนแน่นมาก มาสามสี่ปีมานี้คนแวะชมบางตาลงไป


หนังสือธรรมะเป็นหนังสืออีกแนวหนึ่งที่ขายดีและมีผู้นิยมผลิตกัน บางรายการแจกฟรีก็มี ในโซนซี (zone C) และทางเดินโถงกลางยังมีสำบู๊ธแนวธรรมะอีกหลายบู๊ธ สงสัยจะเป็นเพราะคนในยุคนี้หาที่พึ่งทางใจได้ยากกระมัง จึงหันมาสนใจธรรมะกัน คนนิยมอ่านก็มีสำนักพิมพ์แข่งขักันเยอะเช่นกัน บรรดาพระดังๆทีเทศน์เก่ง เทศน์สนุก ต่างมีสำนักพิมพ์วิ่งเข้าหากันหัวบันไดกุฏิไม่แห้ง


บู๊ธนี้เกาะกระแสเออีซี (AEC) หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ลุงแมวน้่ำไม่ค่อยแน่ใจว่าคนทั่วไปสนใจเรื่องราวเออีซีกันขนาดไหน


บู๊ธนี้ขวัญใจวัยรุ่น คนแน่นทุกครั้งเลย


ออกจากแพลนารีฮอลล์ก็เดินมาชมที่โซนพลาซ่า (Plaza zone) กันต่อ ลุงแมวน้ำจะเดินขึ้นบันไดแล้วนะ ^_^


วัยรุ่นนอกจากสนใจหนังสือการ์ตูน หนังสือหวานแหววแล้ว ยังสนใจหนังสืออีกแนวหนึ่ง นั่นคือแนวติวหรือคู่มือเรียน บู๊ธของสำนักพิม์ที่ขายหนังสือคู่มือเรียนระดับ ม.ปลาย ส่วนใหญ่คึกคักกัน บางคนไม่มาซื้อเอง สั่งให้พ่อแม่มาซื้อให้ พ่อแม่ก็ถือแท็บเบลต ในแท็บเบลตมีรูปหนังสือที่คุณลูกต้องการ มาเดินหาซื้อหนังสือให้คุณลูก สมัยนี้ต้องพกแท็บเบลตมาด้วยจะได้ซื้อไม่ผิดเล่ม


นี่ของสำนักพิมพ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ทำหนังสือหลายแนว อ่านเล่นก็มี วิชาการก็มี การเมืองก็มี ไปจนถึงการฝีมือ ดูดวง โหราศาสตร์ ฯลฯ วันนี้คนบางตาไปบ้าง


นี่แนวหนังสือเด็ก ปกติหนังสือเด็ก เด็กมักไม่ได้ซื้อ แต่พ่อแม่ซื้อให้ หนังสือแนวเด็กอ่านเป็นกลุ่มหนึ่งที่เคยจัดว่าขายดี เพราะพ่อแม่ซื้ออะไรให้ลูกก็ต้องทุ่มกันหน่อย ราคาไม่เกี่ยง แต่หลายปีมานี้ลุงแมวน้ำก็ว่ากลุ่มหนังสือเด็กเงียบเหงาลงไปบ้าง หรือจะเป็นเพราะเด็กเกิดน้อยลงมั้ง


นี่เป็นบู๊ธของกลุ่มอีบุ๊ก (ebook) งานครั้งก่อนเมื่อเดือนเมษายน บู๊ธพวกอีบุ๊กเด่นเชียวเพราะผู้จัดงานเน้นจับกระแสอีบุ๊ก มางานนี้ไม่เน้นแล้ว เลยอยู่กันอย่างเหงาๆ


นี่ก็นิยาย เป็นแนวโนมานซ์ เห็นภาพหน้าปกไหม กอดจูบกันอุตลุด แต่คนดูไม่เยอะนะ ^__^


งานหนังสือเป็นงานหนึ่งที่มีมาสคอตเยอะมาก เห็นนับสิบตัวเดินกันว่อนทั่วงาน ชุดมาสคอตชุดหนึ่งก็แสนแพง เป็นหลักหมื่นถึงหลักแสน ในภาพนี่มาสคอตถอดรูปออกมานั่งพักเหนื่อย อยู่ในนั้นร้อนนะจะบอกให้ ต้องอดทนและแบกน้ำหนักมากเลยทีเดียว ชีวิตมาสคอตไม่ง่ายเลย ^__^


ลุงแมวน้ำออกจากโซนพลาซ่ามาแล้วนะคร้าบ ตอนนี้เกำลังเดินเข้าโซนซี (Zone C) โซนนี้มีบู๊ตเยอะที่สุด เพราะว่ามีถึงสองชั้น แม้บู๊ธที่อยู่ในโซนนี้จะไม่ตกแต่งอย่างอลังการเท่ากับบู๊ธใหญ่ๆในโซนพลานารีฮอลล์ แต่ก็มีสีสันน่าเดินน่าซื้อแตกต่างกันออกไป ในโซนนีจะมีหนังสือเด็ก ของเล่นเด็ก หนังสือคู่มือเรียน กวดวิชา หนังสือเรียนภาษาจีน ฯลฯ หนังสือวิชาการ สำนักพิมพ์ของหลายมหาวิทยาลัยก็มักมาอยู่ในโซนนี้กัน


สำนักพิมพ์ ทวพ. ชื่อที่คุ้นกันมาตั้งแต่เด็กเพราะในชั้นเรียนประถมมักมีหนังสือของสำนักพิมพ์นี้อยู่ด้วย แต่มาออกบู๊ธในงานหนังสือทีไรคนก็น้อยแบบนี้ทุกที หนังสือที่นำมาแสดงก็มีไม่มากนัก คงเน้นให้คนจำได้มากกว่ามั้ง


บู๊ธนี้ร้านหนังสือและสำนักพิมพ์ใหญ่ รายนี้คงชอบอยู่โซนซีเพราะเห็นอยู่ตรงนี้ทุกที คนแน่นมากทุกครั้ง แต่สองสามครั้งที่ผ่านมาดูบางตาลงไปบ้าง


นี่เป็นแนวคู่มือเรียน กวดวิชา ของระดับนักเรียน บู๊ธแนวนี้มักมีวัยรุ่นสนใจ แต่ก็แล้วแต่ความดังของสำนักพิมพ์ด้วย ในหมู่นักเรียนจะรู้กันดีและแนะนำกันเองว่าควรใช้เล่มไหนของสำนักพิมพ์ไหน 


นี่ก็แนวคู่มือเรียน กวดวิชา กวดกันจนถึงระดับสอบเข้าเรียนปริญญาโทก็มีขาย


หนังสือแนวเด็กเล็ก น่ารัก สีสวยเชียว แต่ทำไมคนชมน้อยนักก็ไม่รู้


นี่แนวอะไรเอ่ย ไม่บอกคงเดาได้ หนังสือเก่าไง อย่าดูถูกโซนหนังสือเก่าเชียว บู๊ธหนังสือเก่าขายดีกันทั้งนั้นเลยจะบอกให้ หนังสือเก่าๆราคาแพง ซื้อขายกันแพงกว่าราคาปกอีก เพราะว่าเป็นหนังสือสะสม โดยเฉพาะหนังสืองานศพบางเล่มหายากและราคาแพงเพราะเป็นที่นิยมในหมู่นักสะสม


ใครบอกว่าคนไทยเฉลี่ยอ่านหนังสือปีละ 8 บรรทัด จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ที่เห็นนี้คือหนอนหนังสือตัวจริง ทั้งถุง ทั้งกระเป๋า เต็มไปด้วยหนังสือ


บู๊ธของ อสท นิตรสารการท่องเที่ยวของ อสท เมื่อก่อนเป็นที่นิยมมาก คนเบียดกันบู๊ธแทบระเบิด แต่หลายปีมานี้เหงาลงไปเรื่อยๆ หนังสือแนวท่องเที่ยวดูจะเหงาลงไปทั้งกลุ่มเลย


มาสคอตมาอีกแล้ว ตัวนี้หัวหนักมากกกกก เดินแล้วเซนิดหน่อย ^__^


ย้อนกลับมาที่ห้องโถงทางเดินอีกครั้ง นี่ของกรมศิลปากร ขายพวกหนังสือประชุมพงศาวดาร จดหมายเหตุลาลูแบร์ ฯลฯ คนน้อยเป็นปกติ


นี่บู๊ธมาใหม่ ขายหนังสือเกี่ยวกับต้านโกงอะไรนี่แหละ มีการแสดงย่อยๆด้วย ได้ยินแต่คำว่าโกงๆๆๆ ตลอดการแสดง


บางคนมาจากต่างจังหวัด ซื้อหนังสือแล้วจะทำอย่างไร จะแบกไปไหนด้วยก็ไม่สะดวก อย่ากระนั้นเลย ไปรษณีย์ไทยมาบริการให้แล้ว ซื้อแล้วใส่กล่อง จ่าหน้ากล่องส่งไปได้เลย แล้วเดินตัวเปล่าออกไปจากงาน ไม่ต้องแบกให้เมื่อย อ้อ อย่าลืมจ่ายเงินค่าส่งด้วย ไม่ได้ส่งฟรีเน้อ


ประมาณสามปีมานี้ ดูเหมือนว่าสำนักพิมพ์ที่ต้องการออกงานจะมีมากขึ้น ผู้จัดงานจึงต้องเสริมบู๊ธด้วยการใช้ถนนหน้าหอประชุมตั้งเต๊นต์เข้า แล้วก็ติดแอร์ เรียกว่าฮอลล์เอ (Hall A) เสร็จงานก็รื้อออกไป ได้บู๊ธเพิ่มมาอีกเยอะเลย


หนังสือในฮอลล์เอส่วนใหญ่เป็นสำนักพิมพ์ที่มาทีหลัง จึงจองบู๊ใธในตึกไม่ได้เพราะที่เต็มหมดแล้ว ในนี้ส่วนใหญ่เป็นแนววัยรุ่น การ์ตูนค่อนข้างเยอะ


การทัวร์งานหนังสือของลุงแมวน้ำก็จบลงที่ฮอลล์เอ เพราะถัดจากนี้ก็เป็นทางเข้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินพอดี ลุงแมวน้ำเมื่อยครีบแล้ว กลับโรงละครสัตว์ดีกว่า ^__^

ใครว่างอย่าลืมไปชมงานกันนะคร้าบ

Wednesday, October 24, 2012

24/10/2012 สรุปภาวะการลงทุนรอบสัปดาห์ (15/10/2012 - 19/10/2012) * อเมริกาฉุดโลก


วันนี้เรามาสรุปความเปลี่ยนแปลงของตลาดในรอบสัปดาห์ที่แล้วกัน แม้ว่าจะช้าไปหน่อยแต่ลุงแมวน้ำคิดว่ายังมีประโยชน์ครับ

สัปดาห์ที่ผ่านมา 15/10/2012 ถึง 19/10/2012 สถานการณ์ในแต่ละภูมิภาคแตกต่างกันไป

มาเริ่มที่ตลาดหุ้นกันก่อน ดูตลาดหุ้นยุโรปก่อนก็แล้วกัน ตลาดหุ้นทางฝั่งยุโรปในสัปดาห์ที่ผ่านมาสดใสทีเดียว ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับขึ้นไป +2.05% สถาบันจัดอันดับมูดีส์คงอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลสเปนเอาไว้ ทำให้สถานการณ์ดูดีมีความหวัง แม้ว่าสถาบันจัดอันดับอื่นจะลดความน่าเชื่อถือของธนาคารสเปนลงไปอีก ตลาดหุ้นสเปน กรีซ อิตาลีขึ้นแรง

ทางด้านสหรัฐอเมริกา เป็นช่วงที่ผลประกอบการไตรมาสสามทยอยออกมา บริษัทยักษ์ใหญ่ของ สรอ หลายแห่งมีผลประกอบการที่ดี แต่หลายแห่งที่ปล่อยออกมาในตอนท้ายสัปดาห์ก็น่าผิดหวัง และหลายแห่งที่น่าผิดหวังนี้เองที่ฉุดตลาดหุ้นอเมริกันและยุโรปในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ไม่ให้ไปไหน ส่งผลทำให้ตลาดโลกโดยรวมพลอยถูกฉุดลงมาด้วย บริษัทยักษ์ที่ผลประกอบการน่าผิดหวังก็เช่น Microsoft, General Electric, McDonald's, Google, DuPont, United Technologies, 3M ฯลฯ

ทางด้านตลาดหุ้นเอเชียก็ปรับตัวขึ้น แต่รวมแล้วยังไม่แรงเท่ายุโรป ตลาดหุ้นญี่ปุ่นขึ้นแรง +5.5% ตามมาด้วยตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง ปัญหาเรื่องการพิพาทหมู่เกาะเตียวหยูระหว่างจีนกับญี่ปุ่นก่อนหน้านี้แรงกันทั้งคู่ ส่งผลให้คนจีนแอนตี้สินค้าญี่ปุ่นจนญี่ปุ่นอ่วม แถมสื่อมวลชนจีนยังเขียนวิจารณ์อีกว่ารัฐบาลจีนน่าจะขายพันธบัตรญี่ปุ่นออกมาเพื่อสั่งสอนญี่ปุ่นเสียหน่อย เนื่องจากจีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ ถือพันธบัตรญี่ปุ่นเอาไว้เยอะมาก แต่ญี่ปุ่นไม่กลัวเรื่องนี้เพราะหากขายออกมาจริงเงินเยนจะอ่อน ญี่ปุ่นชอบมาก ที่ไม่ชอบคือถูกจีนแอนตี้สินค้ามากกว่า จากกรณีพิพาทดังกล่าว ตอนนี้ดูมีแนวโน้มว่าจะเจรจากันได้เพราะทะเลาะกันจนเศรษฐกิจเจ็บตัวไปบ้างแล้วทั้งคู่

ด้านตะวันออกกลาง เหตุการณ์ยังไม่ค่อยสงบ เรื่องซีเรียยังคาราคาซังอยู่

ตลาดหุ้นไทย SETI ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย +0.83% น้อยกว่าเพื่อนบ้าน ต่างชาติยังขายสุทธิสลับซื้อสุทธิ แสดงว่าต่างชาติเองก็ยังรีๆรอๆดูอยู่

มาดูทางด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์กันบ้าง ในสัปดาห์ที่แล้วสินค้าโภคภัณฑ์ดูแปลกๆและยุ่งๆชอบกล โลหะมีค่ากับน้ำมันดิบไม่ค่อยดี ทองคำร่วง -2% โลหะเงินร่วง -4.7% น้ำมันิบเบรนต์ร่วง -3% ส่วนสินค้าเกษตรกลับปรับตัวขึ้น ฝ้ายขึ้นแรง +7.7% ตามมาด้วยโกโก้ +5.2% ข้าวสาลี ข้าวโพด ถั่วเหลือง ขึ้นหมด ส่วนยางพาราร่วงแรง

ด้านตลาดอัตราแลกเปลี่ยน สัปดาห์ที่แล้วเงินดอลลาร์ สรอ ทรงตัว แกว่งไปมาในกรอบ ไม่ได้ไปไหน แต่ราคาน้ำมันดิบกับทองคำร่วงแรงกว่าค่าเงิน เงินสกุลยุโรปแข็งค่า ส่วนเงินสกุลเอเชียไม่แน่นอน ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่า เงินเยนอ่อนค่า ส่วนเงินบาทอ่อนค่าลง -0.26%

ด้านตลาดตราสารหนี้ สัปดาห์ที่แล้วผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอเมริกันอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 11 จุดเบสิส ส่วนตลาดพันธบัตรไทยนั้นเมื่อวันที่ 17/10/2012 ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 1 สลึง เหลือ 2.75 บาท ทำให้วันนั้นเพียงวันเดียวเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลงตลอดทั้งเส้นค่อนข้างมาก ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุคงเหลือ 10 ปีลดลง 16 จุดเบสิส (basis point, bp) ในวันเดียว ทำให้อัตราผลตอบแทนไม่ค่อยน่าจูงใจแล้วเพราะคงแพ้เงินเฟ้อ แต่ก็น่าจะมีผลด้านการสกัดเงินทุนไหลเข้าจากต่างชาติลงได้บ้าง แนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอเมริกันค่อยๆปรับสูงขึ้นแสดงว่าเงินไหลออกจากตลาดพันธบัตรไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างอื่นมากขึ้น ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยนั้นลดต่ำลงจนไม่ค่อยจูงใจแล้ว แบบนี้หมายความว่าเงินเก่าที่ลงทุนอยู่ในตลาดพันธบัตรก็ยังคงอยู่ต่อไป แต่เงินใหม่ที่จะเข้ามาคงคิดหนักเพราะผลตอบแทนไม่ดีแล้ว เงินใหม่ที่เข้ามามีแนวโน้มกระจายไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอื่นมากขึ้น

อ้อ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุคงเหลือ 10 ปี ณ 19/10/2012 อยู่ที่ 3.41% ลดลงทั้งสัปดาห์คิดเป็น -9 จุดเบสิส ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเมื่อเดือนกันยายน 2555 เทียบกับเดือนกันยายน 2554 (คือรอบหนึ่งปี ล่าสุด) อยู่ที่ 3.38%

วันนี้ลุงแมวน้ำมีภาพมาฝากหลายภาพ ลุงแมวน้ำทำตารางสรุปรายสัปดาห์เวอร์ชันใหม่มาให้ดูกัน แต่ก่อนจะดูขอให้มา อัปเดตตลาดเมื่อวันที่ 23/10/2012 กันก่อน วันที่ 23 นี้ไทยเราหยุดราชการ ตลาดไม่ได้เทรด แต่ตลาดชาติอื่นยังทำการ ลุงแมวน้ำจึงนำภาพสรุปมาให้ดู ตลาดวันที่ 23 นี้ไม่ค่อยดีเท่าไร ผลประกอบการของสหรัฐอเมริกาเป็นตัวฉุดตลาด


สรุปตลาดหุ้นที่สำคัญทั่วโลก 23/10/2012


สรุปอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลสำคัญทั่วโลก 23/10/2012


สองภาพนี้ลุงแมวน้ำเอามาจาก CNN ดูง่ายดีกว่าของ yahoo เสียอีก


เอาละ หลังจากดูสรุปรายวันไปแล้ว คราวนี้มาดูตารางสรุปรายสัปดาห์กัน วันนี้มี 2 ตาราง หน้าตาคล้ายๆกันแต่คำนวณไม่เหมือนกัน ตารางแรกที่เห็นต่อไปนี้คือสรุปแบบเดิมที่เราดูกันเป็นประจำทุกสัปดาห์

ดูตารางแรกแล้วแล้วเลื่อนลงไปดูตารางที่สองด้วยนะคร้าบ


Photobucket



ข้างล่างต่อไปนี้เป็นตารางสรุปรายสัปดาห์แบบเพิ่มเติม ลุงแมวน้ำคำนวณขึ้นมาใหม่ ความแตกต่างอยู่ตรงที่ราคาปิดหรือดัชนี (ในคอลัม close price) ปกติจะเป็นราคาปิดหรือดัชนีปิด ณ วันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ แต่สำหรับตารางข้างล่างนี้ลุงแมวน้ำคำนวณเป็นคะแนนมาตรฐาน (standard score) นั่นคือ เมื่อแปลงเป็นคะแนนมาตรฐานแล้วสามารถเปรียบเทียบกันได้ เอาไว้ใช้ดูความแรงของตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ในเชิงเปรียบเทียบกันนั่นเองว่าใครแรงกว่าใครและใครน่าลงทุนกว่าใคร

วิธีคิดของลุงแมวน้ำก็คือ ให้ราคาหรือดัชนีของทุกรายการ ตั้งต้นที่ก้นเหวของวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ราคาหรือดัชนีที่ก้นเหวคิดเป็น 0 ก้นเหวของแต่ละตัวจะอยู่ที่ประมาณปลายปี 2008 ถึง 2009 ไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียวกัน

ลองมาดูตัวอย่างกัน อย่างดัชนี SET ของไทย ก้นเหวอยู่ที่วันที่ 29/10/2008 ดัชนี SETi ณ วันนั้นคิดเป็น 0 จากวันนี้ถึงวันนี้ SETi ปรับขึ้นขึ้นมาแล้วเป็น 240.42% จากวันฐานหรือวันก้นเหว ดังนั้นคะแนนมาตรฐานของ SETi ในตารางข้างล่างนี้จะรายงานเป็น 240.42 จุด

เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เทียบกันได้ในแง่ความแรง อย่างเช่นดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ DJI ตอนนี้มีคะแนนมาตรฐานที่ 103.81 จุด แสดงว่าตลาดหุ้นไทยแรงกว่า DJI เยอะทีเดียว ส่วนตลาดหุ้นอินโดนีเซีย (JKSE) ได้ 289.71 จุด สรุปได้ว่าตลาดหุ้นย่านเอเชียนั้นตลาดหุ้นไทยที่ผ่านมาเด่นมาก แรงสุด เป็นรองแค่ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเท่านั้น 

ทองคำ GC คะแนนเป็น 144.54 จุด แสดงว่าเทรดหุ้นไทยกำไรดีกว่าเทรดทองอีก ส่วนโลหะเงิน SI 265.15 จุด เงินแรงกว่าทอง แรงกว่าหุ้นไทยด้วยนิดหน่อย

สรุปแล้วหากดูจากอดีต สวรรค์ก็อยู่ที่ตลาดหุ้นไทยนี่เอง ไม่ต้องดิ้นรนไปเทรดที่ไหนให้ไกลหรอก แต่อย่าลืมว่านี่คือเรื่องอดีต อดีตไม่ได้รับประกันอนาคตนะคร้าบ แต่ก็พอใช้เป็นแนวทางอะไรได้บ้างละน่า ^_^

มีข้อควรระวังอยู่บ้าง ตลาดหุ้นบางตลาดก้นเหวไม่ได้อยู่ในช่วงปี 2008-2009 หรือก้นเหวไม่ได้อยู่ในช่วงแฮมเบอร์เกอร์ ยกตัวอย่างเช่นตลาดหุ้นจีน ก้นเหวของตลาดหุ้นจีนเพิ่งเกิดไม่กี่วันมานี้เอง หรืออย่างตลาดหุ้นกรีซ ก้นเหวเกิดขึ้นในปีนี้เอง นี่คือข้อยกเว้น ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่รายการเท่านั้น

รายการที่เป็น #N/A แปลว่าข้อมูลไม่พอ ส่วนใหญ่มักหมายถึงฐานข้อมูลที่ลุงแมวน้ำมีอยู่มีไม่ถึงปี 2008 นั่นคือ เลยคำนวณไม่ได้

ลองดูตารางข้างล่างนี้ให้คุ้นในเชิงการเปรียบเทียบ เพราะต่อไปลุงแมวน้ำจะเขียนบทความเรื่องการสแกนหาหุ้นเด่น ต้องใช้คะแนนมาตรฐานทำนองนี้ด้วยคร้าบ ^__^



Photobucket