Sunday, September 23, 2012

23/09/2012 เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ : ทีวีช่องลุงแมวน้ำ









คอลัมน์เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำนับวันชักจะไม่ค่อยเช้า บางทีก็มาเที่ยง มาบ่าย มาดึกๆก็เคย ^__^

มีภาพมาฝาก อยู่ข้างบนนี้ไง สองภาพนี้ภาพบนเป็นภาพน้ำตกแห่งหนึ่งในประเทศเวียดนาม ชื่อน้ำตก Ponggour falls บางแห่งก็เขียนว่า Pongua falls เป็นภาษาเวียดนาม ลุงแมวน้ำอ่านออกเสียงไม่ถูกเหมือนกัน แต่ว่าเป็นน้ำตกเจ็ดชั้น เป็นน้ำตกที่ใช้ปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง

ส่วนภาพล่างเป็นน้ำตกเหมือนกัน แต่ว่าเป็นน้ำตกเทียมที่เกิดจากน้ำท่วม อยู่ในประเทศไทยนี่เอง จังหวัดสุโขทัย ภาพล่างนี้ได้มาจากหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์


วันนี้คุยเรื่องเบาๆก็แล้วกันเนอะ เรื่องเบาๆนี่ไม่ใช่เรืองนุ่น แต่หมายถึงเรื่องที่ไม่เคร่งเครียด ที่จริงลุงแมวน้ำว่าจะเขียนเรื่องธุรกิจต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว แต่เปลี่ยนใจ ไม่เอาดีกว่า วันนี้ลุงเองก็อยากสบายๆเช่นกัน ช่วงนี้กำลังผ่อนตัวเองลงบ้าง อะไรที่ไม่ทันก็ปล่อยๆไปบ้าง พยายามพักผ่อนให้มากขึ้น อย่างวันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้ เมื่อวานลุงแมวน้ำก็ไปเดินสวนจตุจักรมา ที่ว่าจะไม่ซื้อสินค้ามาตุนแล้วก็ทำไม่ได้ ต้องไปหามาตุนอีกหน่อย แล้วก็ไม่มีอะไรแล้ว ทำตัวให้ว่างๆ ตอนเย็นก็ดูหนังเกาหลี หมู่นี้ชักติดหนังเกาหลีเหมือนกัน

ส่วนวันนี้วันอาทิตย์ ก็ขอพักผ่อนอยู่บนโขดหินไม่ออกไปไหนสักวัน เดี๋ยวเขียนคอลัมน์เสร็จว่าจะจัดโขดหินให้หายรกสักหน่อย แล้วก็จะหัดเต้นกังนัมสไตล์ แมวน้ำเต้นท่าควบม้าคงเก๋ดี ^__^ ตอนนี้โขดหินของลุงแมวน้ำมีสินค้าวางระเกะระกะเต็มไปหมด ให้คนอื่นจัดให้ก็ไม่ได้เพราะเดี๋ยวลุงเองจะสับสน ตอนนี้ก็เริ่มสับสนบ้างแล้วเพราะว่ามีสินค้าหลายชิ้นที่ลุงแมวน้ำลืมจดราคาต้นทุนเอาไว้ ตอนนี้ก็นึกไม่ออกแล้ว คงต้องตั้งราคาขายแบบเดาสุ่ม หวังว่าคงไม่ขาดทุน

เรื่องการจัดหาสินค้าของลุงแมวน้ำนั้นใช้เวลาค่อนข้างมาก ก็ดังที่บอกว่าลุงแมวน้ำอยากทำธุรกิจตาม แนวคิดทุนนิยมที่เอื้ออาทรต่อกัน (compassionate capitalism) อย่างที่ลุงฝันเอาไว้ ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงมีวางสเป็กเอาไว้อย่างที่ใจต้องการ นั่นคือ ลุงแมวน้ำไม่ขายสินค้าที่เกี่ยวกับสัตว์ อย่างเช่น เครื่องหนังไม่ขาย (กระเป๋าหนังขายดีเสียด้วย แต่ลุงก็ไม่เสียดายหรอก) อาหารที่เป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ นม ไข่ ก็ไม่ขาย พยายามเน้นสินค้าที่มีค่าคาร์บอนฟู้ตพรินต์ต่ำ (low carbon footprint) ย่อยสลายได้ในธรรมชาติ สนับสนุนผลิตภัณฑ์คนพิการหรือผู้ด้อยโอกาส โอย... สเป็กแบบนี้แล้วจะหาสินค้ามาขายได้ไหมเนี่ย ก็ถึงบอกว่ายากไง แต่ลุงก็พอหาได้หลายอย่างแล้ว และที่สำคัญคือลุงแมวน้ำไม่สนับสนุนการบริโภคที่ล้นเกิน อยากให้ซื้อแต่พอควร ไม่ต้องซื้อมาก พออ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงคิดในใจว่าธุรกิจลุงแมวน้ำไม่รอดแน่ ขายของแล้วบอกลูกค้าว่าไม่ต้องซื้อมาก... ก็คงต้องดูกันต่อไป ลุงแมวน้ำเพิ่งเริ่มต้น ต้องสู้กันต่อไป

ร้านค้าออนไลน์ของลุงแมวน้ำค่อยๆไปอย่างช้า ช้ามากๆเลยแหละ เมื่อได้ทำแล้วจึงได้รู้แจ้งเห็นจริงว่าการเป็นผู้ประกอบการรายเล็กนั้นยากกว่าเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่มาก หากเป็นรายใหญ่ก็มีเงินจ้างลูกน้อง ใครถนัดอะไรก็เอาอย่างนั้นไปทำ แต่ผู้ประกอบการรายย่อยหรือรายเล็กๆนั้นต้องทำเองหมดทุกอย่างตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ งานแอดมิน งานบัญชี การเงิน สต็อกสินค้า การตลาด การติดต่อ ฯลฯ แม้แต่ถูพื้นออฟฟิสก็ต้องทำเอง อย่างนี้ไม่เรียกว่าอัจฉริยะแล้วจะให้เรียกว่าอะไร แต่ก็อีกนั่นแหละ เพราะว่าไม่มีใครเก่งไปหมดทุกอย่าง คนเราก็เก่งได้เพียงไม่กี่อย่าง ดังนั้นการเป็นผู้ประกอบการรายย่อยจึงอยู่รอดได้ค่อนข้างยากเนื่องจากก้าวข้ามข้อจำกัดนี้ไปไม่ได้ เพราะโดยสภาพการณ์แล้วจำเป็นต้องเก่งหมดทุกอย่าง แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้น รวมทั้งต่อไปเมื่อเปิดเสรีเออีซี (AEC) หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เศรษฐกิจแบบทุนนิยมกระแสหลักไม่ได้ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ แต่ตรงกันข้าม มีงานวิจัยมากมายที่ชี้ให้เราเห็นว่าเศรษฐกิจแบบทุนนิยมกระแสหลักเอื้อให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น นั่นคือ ยิ่งทำให้รวยกระจุก จนกระจายนั่นเอง

ลุงแมวน้ำเห็นว่าต่อไปผู้ประกอบการรายกลางจะถูกรายใหญ่เทกโอเวอร์ไปเป็นส่วนใหญ่ ส่วนรายเล็กก็คงล้มหายตายจากไปค่อนข้างมากเนื่องจากแข่งขันไม่ไหว สายป่าน ความรู้ และปัจจัยเกื้อหนุนต่างๆก็สู้รายใหญ่ไม่ได้ อีกทั้งรายเล็กจะไม่มีคนทำงานด้วย คือหาพนักงานไม่ได้นั่นเอง
แล้วจะอยู่ยังไงไหว ดังนั้นต่อไปธุรกิจส่วนใหญ่คงเป็นรายใหญ่กับรายจิ๋ว คือเหลือแต่ปลาใหญ่กับเหาฉลามเท่านั้น อ้อ ยังเหลืออยู่อีกชนิดหนึ่งที่น่าจะรอดได้ นั่นคือแมวน้ำไง คุยเขื่องเสียอีก ^__^

ช่วงที่ผ่านมารถติดมาก ฝนตกรถติด ไปไหนมาไหนใช้เวลาเยอะมาก เหนื่อยกว่าเดิมเยอะเลย เสียดายพลังงานที่ถูกเผาไปในท้องถนนจัง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ลุงแมวน้ำเองก็พยายามลดการเดินทางลง จะไปไหนทีก็พยายามแวะไปหลายๆที่ จะได้ประหยัดการเดินทาง บางวันจะได้ไม่ต้องออกไปไหน เสียดายเวลาเนอะ เอาไปไปออกกำลังกายดีกว่า หรือแม้แต่นอนเล่นพักผ่อนก็ยังได้ประโยชน์กว่าไปนั่งหรือยืนรถติดอยู่บนท้องถนน

พูดถึงการออกกำลังกาย ลุงแมวน้ำอยากเป็นกำลังใจให้พวกเราออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างลุงแมวน้ำเองจัดลำดับความสำคัญของการออกกำลังกายอยู่ต้นๆเลย ชอบไปสวนลุม แต่ช่วงนี้ฝนตกรถติดก็ไปยากขึ้น ก็หย่อนๆลงมาบ้าง การมีสุขภาพทีดีนั้นการออกกำลังกายสำคัญเป็นที่สอง ในความคิดของลุงแมวน้ำ สิ่งสำคัญอันดับแรกคือเรื่องการบริโภค หากกินมากออกกำลังเท่าไรก็เผาไม่ทัน นอกจากนี้ หากพยายามออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อเผาแคลอรี่ที่กินเข้าไปมาก สุดท้ายก็แก่เร็วนะจะบอกให้ ลองสังเกตดูสิ พวกนักเพาะกล้าม นักกีฬาอาชีพ ฯลฯ พวกที่ต้องออกกำลังกายหนัก ส่วนใหญ่มักแก่เร็ว ที่เป็นอย่างนี้อธิบายได้ด้วยทฤษฎีความชราของเซลล์ ใช้งานมากก็เสื่อมมาก ดังนั้นการออกกำลังกายหนักหรือหักโหม หรือทำงานหนักหักโหม ล้วนแต่ไม่ดีต่อสุขภาพ อะไรที่เกินไปก็ไม่ดี

สัปดาห์ที่แล้วลุงแมวน้ำกลับเข้าไปลงทุนในตลาดอีก ครั้งนี้ลุงระวังตัวมากทีเดียว เพราะดูอะไรๆมันไม่ค่อยชอบมาพากลเท่าไรนัก ดังนั้นต้องพยายามกระจายการลงทุน ครั้งนี้ลุงแมวน้ำลงทุนในตราสารหนี้ในสัดส่วนสูงเพราะระวังตัวมาก ที่จริงลุงแมวน้ำยังไม่ได้เปลี่ยนมุมมองเลย คือยังมองในระยะยาวว่าเป็นคลื่น C เช่นเดิม ยังไม่เปลี่ยนมุมมองระยะยาวเพราะว่ายังไม่ถึงจุดที่จะเปลี่ยน แต่ที่เข้าลงทุนเพราะว่าระยะสั้นกับระยะกลางน่าจะเป็นขาขึ้น การเทรดด้วยระบบสัญญาณจะใช้แนวโน้มระยะยาวมาตัดสินใจลงทุนไม่ได้ ต้องใช้แนวโน้มระยะสั้นเป็นหลัก และแนวโน้มระยะกลางประกอบ

อ้อ เกือบลืมบอกไป ตอนนี้ลุงแมวน้ำมีช่องทีวีเป็นของตนเองแล้วนะ ทีวีช่องลุงแมวน้ำ uncaseal channel เท่จริงๆ ดูได้ทางยูทูป ตอนนี้เพิ่งโพสต์คลิปไปได้คลิปเดียว แต่ต่อไปก็มีเพิ่มเติม ช่วงที่ผ่านมาลุงแมวน้ำแบ่งเวลาไปหัดทำคลิป ทั้งการตัดต่อ ใส่คำบรรยาย ใส่เสียงประกอบ ฯลฯ สนุกดีเหมือนกัน นอกจากนี้ลุงยังหัดใช้งานโปรแกรมบัญชีอีกด้วย ไม่ใช่นักบัญชีแต่ก็ต้องทำบัญชีเอง อันนี้ไม่ค่อยสนุก แต่ก็ต้องทนๆไป

ทีวีช่องลุงแมวน้ำอยู่ด้านบนคร้าบ คลิปแรกนี้เป็นวงดนตรีบุคคลพิเศษ ถ่ายทำจากตลาดนัดสวนจตุจักร เมื่อวานนี้เอง ยังร้อนๆอยู่เลย เสียงร้องใช้ได้นะ มีความสามารถทีเดียว



วันนี้คุยสบายๆ ไม่มีสาระอะไรมากมาย พรุ่งนี้ลุงแมวน้ำต้องเดินทาง รับจ๊อบงานแสดงเอาไว้ที่โคราช ไม่อยากไปเลย ฝนตกถนนลื่น อันตรายอยู่เหมือนกัน พยายามเลี่ยงแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ ก็คงต้องไปนั่นแหละ แต่ยังไงก็ตามพรุ่งนี้จะอัปเดตเรื่องการลงทุนทาง FB ส่วนเว็บบล็อกจะอัปเดตอีกครั้งวันอังคาร

ไปละคร้าบ ^__^

Tuesday, September 18, 2012

18/09/2012 สรุปภาวะการลงทุนรอบสัปดาห์ (10/08/2012 - 14/08/2012) * ขึ้นกระจายรับ QE3



สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์แห่งความผันผวนจริงๆ ผลจากการประกาศมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรกลุ่มยูโณโซนของ ECB กับการประกาศ QE3 ของสหรัฐอเมริกา ทำให้ตลาดหุ้นขึ้นกันกระจาย บางตลาดขึ้นถึงประมาณ +7% ทีเดียว ส่วนสินค้าโภคภัณฑ์ ทองคำกกับน้ำมันดิบขึ้นไม่มาก +2% ถึง +3% โดยประมาณ สินค้าเกษตรขึ้นแรงเป็นบางชนิด เช่น กาแฟ ยางพารา ประมาณ +10% l่วนสินค้าเกษตรหลัก ได้แก่ ข้าวสาลี ข้าวโพด ถั่วเหลือง ขึ้นเพียงนิดหน่อยเท่านั้น

อัตราแลกเปลี่ยนก็ผันผวน เงินดอลลาร์ สรอ อ่อน เงินสกุลอื่นแข็งค่ากันถ้วนหน้า แต่หากดูในรายละเอียดจะพบว่าเงินสกุลเอเชียแข็งค่ากว่าสกุลยุโรป นั่นคือ เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ดอลลาร์สิงคโปร์ เงินบาท แข็งค่ามากกว่าเงินสกุลมั่นคงของยุโรป เช่น ฟรังก์สวิส สวีเดนโครน นอร์เวย์โครนา ส่วนเงินยูโรนั้น +2.45% แปละเงินรูเบิลรัสเซีย +3.5% สองสกุลนี้ผันผวนหนัก

เงินบาทแข็งค่าถึง +1.5% ในสัปดาห์เดียว ต่อไปธุรกิจส่งออกคงลำบากขึ้นอีกเพราะค่าเงินบาทแข็งอีกทั้งคงยังไม่นิ่ง ลุงแมวน้ำขายสินค้าต่างประเทศก็คงลำบากขึ้นเหมือนกัน แต่ก็ยังต้องสู้ต่อไป ลุงแมวน้ำเฮดจ์ค่าเงินไว้ที่ 31.0 บาท/ดอลลาร์ สรอ ด้วยการเปิดสัญญาขาย (open short position) ฟิวเจอร์สของดอลลาร์ สรอ (USD futures) ไว้จำนวนหนึ่ง ดังนั้นต่อไปลุงแมวน้ำขายของก็คิดค่าเงินคงตัวที่ 31.0 บาท/ดอลลาร์ สรอ ก็พอ ไม่ต้องคอยปรับราคาขายตามอัตราแลกเปลี่ยน และช่วยให้ราคาสินค้าของลุงแมวน้ำไม่แพงนักด้วย

ตลาดหุ้นไทยก็ขึ้นได้พอควร +2.4% ต่างชาติซื้อบ้าง ขายบ้าง แต่ช่วงหลังดูจะซื้อมากกว่าขาย แต่หากพูดถึงเงินเข้าตอนนี้เงินต่างชาติยังอยู่ในประเทศไทยอยู่มาก โดยอยู่ในตลาดพันธบัตร คงต้องตามดูความเปลี่ยนแปลง

ทางด้านตลาดตราสารหนี้ การประกาศมาตรการ QE3 ทำให้มีแรงขายตราสารหนี้ออกมา ซึ่งเป็นเรื่องที่พอคาดเดาได้ เนื่องจากทุกคนต่างก็คิดไปในทางเดียวกันว่าผลจาก QE ทั้งในภาคยูโรและในภาคสหรัฐอเมริกาจะทำให้เงินเฟ้อ ผลตอบแทนพันธบัตรอาจไม่เพียงพอที่จะสู้เงินเฟ้อ เงินจึงไหลไปสู่สินทรัพย์เสี่ยงเพื่อเก็งกำไรในตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอเมริกันที่อายุมากกว่า 5 ปีปรับตัวสูงขึ้น และเช่นเดียวกับเส้นอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรไทยที่มีอัตราผลตอบแทนสูงขึ้นตลอดทั้งเส้น โดยเฉพาะในกลุ่มพันธบัตรไทยที่อายุ 7 ปีขึ้นไปนั้นอัตราผลตอบแทนสูงขึ้น 10-20 จุดเบสิส


มาดูกราฟบางตัวกันดีกว่า แต่แนวโน้มคงเปลี่ยน ลุงเบนเฮลิคอปเตอร์สั่ง QE3 ผลคงทำให้ตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น เงินเฟ้อคงเพิ่มสูงขึ้นตามมา คิดว่าคงต้องนับคลื่นใหญ่กันใหม่ ตลาดขาขึ้นในครั้งนี้ (หากเกิดขึ้นจริง) ลุงแมวน้ำเข้าลงทุนด้วยความสลดหดหู่ใจ นี่พูดจากใจจริง ไม่ได้ดราม่า คนรวยจะรวยยิ่งขึ้น ส่วนคนจนจะยิ่งจนลง ลุงแมวน้ำไม่คิดว่าลุงเบนสามารถใช้วิธีนี้แก้ปัญหาปากท้องของคนจนได้ มีแต่จะยิ่งจนลง รวมทั้งยังกระทบถึงประเทศอื่นๆให้ปั่นป่วนไปด้วย

ตอนนี้สหรัฐอเมริกากับยูโรโซนคือคนขับรถบรรทุกที่ง่วงนอนแล้วไม่ยอมนอนพักผ่อน กินกาแฟไปสองสามแก้วแล้วก็ยังง่วงอยู่ จึงตัดสินใจกินยาบ้าลงไป กินแล้วตาสว่าง ขับรถต่อได้ ต่อไปเมื่อคนขับรถคนนี้ฝืนไม่ไหวก็จะลืมตาขับแต่สมองไม่สั่งการ คือหลับในนั่นเอง แล้วอุบัติเหตุก็จะเกิดขึ้น รถบรรทุกคันนี้คงชนรถคันอื่นหรือชนคนเดินถนน หรือทะลวงเข้าไปในร้านค้าข้างทาง จะมีผู้บริสุทธิ์ต้องมารับเคราะห์กรรมไปด้วยเพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาดของคนขับรถบรรทุกนี้




ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาผ่านแนวต้านสำคัญไปได้แล้ว



ตลาดหุ้นไทยก็ผ่านแนวต้านสำคัญไปได้ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 16 ปี



สินค้าเกษตร ถั่วเหลือง ทำราคาสูงสุดตลอดกาลใหม่ ช่วงปลายเดือนสิงหาคมกับต้นเดือนกันยายน ถั่วเหลืองกับข้าวโพดทำสถิติราคาสูงสุดใหม่ พร้อมกับภาวะเงินเฟ้อในเดือนสิงหาคมที่เพิ่งสูงขึ้นในหลายๆประเทศ






Photobucket