Thursday, July 12, 2012

12/07/2012 * ราคาทองคำเข้าสู่ปลายสามเหลี่ยมชายธงแล้ว


วันนี้ลุงแมวน้ำอัปเดตรายละเอียดไม่ทัน ขอสรุปสาระสำคัญบางประเด็นก่อนละกัน

กลุ่มโอเปกประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพื่อพยุงราคาน้ำมันดิบเอาไว้ไม่ให้ต่ำเกินไป (หากต่ำเกินไปจะกระทบกับรายได้ของกลุ่มโอเปก) ดังนั้นราคาน้ำมันดิบทั้ง wti และ brent จึงปรับตัวขึ้น ลุงแมวน้ำประเมินจากการวิเคราะห์ทางเทคนิค คิดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนต์อาจไปได้ถึง 105-107 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล

ราคาทองคำขณะนี้ในทางเทคนิคเกิดรูปแบบสามเหลี่ยมชายธงและราคาเข้าสู่ปลายชายธงแล้ว อีกไม่กี่วันคงได้รู้กันว่าราคาจะทะลุขึ้นหรือลงที่ปลายชายธง แต่ถ้าน้ำมันดิบขึ้นลุงแมวน้ำคิดว่าราคาทองคำมีโอกาสขึ้นมากกว่าลง ประกอบกับพิจารณาอัตราส่วน gold/us dollar ratio กับ oil/usd ratio ยังมีสัดส่วนที่สูงได้มากกว่านี้อีก ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าในระยะสั้นๆต่อไปราคาทองคำกับน้ำมันดิบ อาจไปต่อได้อีกในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ สรอ ไม่ร่วง คือแค่ทรงตัวหรือลงเล็กน้อย

ตลาดหุ้นโดยรวมน่าจะไปต่อได้อีกช่วงหนึ่งสั้นๆเพื่อให้จบคลื่นย่อย ทั้งของ สรอ ยุโรป เอเชีย ส่วนของไทยยังนับคลื่นย่อยไม่ค่อยถูกแต่น่าจะไปตามกระแสโลกครับ



Wednesday, July 11, 2012

สรุปภาวะการลงทุนรอบสัปดาห์ 02/07/2012 - 06/07/2012 โลกยังไร้ทิศทาง



สัปดาห์นี้ลุงแมวน้ำสรุปในรอบสัปดาห์ช้านิดหน่อย แต่ก็คิดว่ายังมีประโยชน์ ข้อมูล yahoo รวนอีกแล้ว ใครที่ดูข้อมูลราคาหุ้นหรือดัชนีต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นข้อมูลย้อนหลังหรือ historical quotes ควรระวัง เพราะข้อมูลมีทั้งผิดและถูกผสมกัน ต้องดูดีๆ

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา 02/07/2012 - 06/07/2012 ตลาดโลกในภาพรวมในระยะสั้นยังไร้ทิศทาง เพราะว่าทรงตัวบ้าง ขึ้นนิด ลงหน่อย บ้าง ดูไม่ออกว่าจะไปต่ออย่างไร ถ้าพิจารณาในแง่ทฤษฎีคลื่นของอีเลียตก็ต้องอธิบายว่าแนวโน้มตลาดทุนโลกยังอยู่ในคลื่นชุด reactive wave อยู่ แต่เมื่อไรที่จบคลื่นชุดนี้ แนวโน้มจะค่อยๆชัดเจนขึ้น แต่ภาพในระยะกลางและยาวยังคงเป็นเช่นเดิม

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางด้านตลาดหุ้น ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นลงกันไม่มากนัก รวมๆแล้วติดลบไปนิดหน่อย แต่หากแยกเป็นรายภูมิภาค สหรัฐอเมริกาลงนิดหน่อย อเมริกาใต้ขึ้นพอสมควร ยุโรปมีทั้งขึ้นแรงและลงแรง ตัวฉุดคืออิตาลีและสเปน แต่ถัวเฉลี่ยกันแล้วก็ปรับตัวลงพอสมควร กลุ่มโลกอาหรับขึ้นนิดหน่อย แอฟริกาขึ้นนิดหน่อย เอเชียขึ้นได้พอสมควร

ตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET index ปรับตัวขึ้นตลอดสัปดาห์ +2.4% หุ้นในกลุ่ม SET 50 เกิดสัญญาณซื้อเพิ่มอีก 2 หุ้น รวมเป็น 35 ตัวแล้ว หุ้นที่ขึ้นแรงเป็นกลุ่มโรงพยาบาล เนื่องจากกลุ่มบำรุงราษฎร์ขายกลุ่มเกษมราษฎร์ให้นักลงทุนต่างชาติ เลยมีแรงเก็งกำไรกันระยะหนึ่ง

ด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย แรงฉุดให้ขึ้นมาจากกลุ่มสินค้าเกษตรที่ขึ้นไปประมาณ +6% ส่วนกลุ่มพลังงานและโลหะนั้นปรับตัวลง

ด้านตลาดพันธบัตร อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอเมริกันอายุ 10 ปีลดลง 12 จุดเบสิส (bps) ขณะนี้อยู่ที่ 1.54% ปรับตัวลดลงมาพอสมควรทีเดียว ส่วนพันธบัตรอายุ 10 ปีของไทยอัตราผลตอบแทนลดลง 3 จุดเบสิส อยู่ที่ 3.54% แรงซื้อไหลเข้ามาในตลาดพันธบัตรบ่งบอกอาการของตลาดหุ้นได้เป็นอย่างดี

ด้านอัตราแลกเปลี่ยน เงินยูโรอ่อนค่าหนัก -3.0% ค่าเงินยูโรตอนนี้พอกับช่วงต้นปี 2010 ถือว่าอ่อนสุดในรอบ 2 ปีเงินเยนแข็งค่า +0.4% เงินดอลลาร์สิงคโปร์อ่อนค่า -0.4% และที่สวนกระแสคือเงินบาท สัปดาห์ที่ผ่านมาแข็งค่า +0.4% พอๆกับเงินเยนทีเดียว

สัปดาห์ที่ผ่านมามีงานตลาดนัดกองทุนรวม หลายคนคงไปมา ส่วนใหญ่เชียร์ซื้อกันสะบั้นหั่นแหลก ไม่เห็นใครบอกให้ชะลอการลงทุน แต่ลุงแมวน้ำอยากบอกว่าตอนนี้ควรชะลอการลงทุนไปก่อน พักเงินไว้ในกองทุนตลาดเงินดีที่สุด

กองทุนรวมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะกองทุนประเภท FIF ที่ลงทุนในต่างประเทศทั้งหลาย แต่ละกองทุนมีรายละเอียดภายในที่ต้องศึกษามาก ยุ่งยากกว่าตัวหุ้นอีก เพราะกองทุนรวมชื่อก็บอกแล้วว่ารวม คือหลายๆอย่างมารวมกัน ยิ่งมีรายละเอียดมากกว่าหุ้นรายตัว และส่วนใหญ่การซื้อขายกองทุนรวมในบ้านราผู้ลงทุนมักรู้รายละเอียดไม่มากนัก ไส้ในของกองทุนมักไม่ค่อยมีใครสนใจ มาร์เกตติงที่ขายหน่วยลงทุนเองบางคนให้ข้อมูลได้... จะบอกยังไงดีล่ะ ถ้าลุงแมวน้ำเป็นครูลุงต้องให้สอบตก ดังนั้นผู้ลงทุนต้องพึ่งตนเองเป็นหลัก อย่าซื้อเพราะคำเชิญชวนระรื่นหูหรือของขวัญล่อตาล่อใจ

มีอีกเรื่องที่อยากฝากเตือน คือเรื่องการใช้ MACD ในการตัดสินใจซื้อขาย เครื่องมือตัวนี้ต้องรู้จักวิธีและจังหวะเวลาในการใช้ ไม่ได้ใช้ได้ทุกกาละเทศะ MACD แม้จะนำเอา moving average มาใช้ ทำให้เสมือนกับอินดิเคเตอร์ที่ใช้ตอนมีแนวโน้ม แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ MACD เอง เป็นเครื่องมือประเภท oscillator คือใช้ตอนไม่มีแนวโน้มหรือตอนที่ตลาดไร้ทิศทาง ถ้าใช้ตอนมีแนวโน้มแล้วจะเจ็บกระเป๋า เอาไว้วันหลังลุงแมวน้ำจะเขียนรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง