Monday, March 19, 2012

16/03/2012 * ตลาดหุ้นยังไปต่อ ดัชนีอุตฯดาวโจนส์ทำคลื่นเกิน จับตาราคาสินค้าโภคภัณฑ์

ค่าเงินวันนี้ 19/03/2012 (รายงานวันเทรดที่ 16/03/2012)


มาดูค่าเงินยามบ่ายกันก่อนที่จะไปคุยเรื่องอื่น บ่ายนี้ 19/03/2012 usd index อยู่ที่ 79.8 จุด เงินยูโรอยู่ที่ 1.317 ยูโร/ดอลลาร์ สรอ เงินเยนอยู่ที่ 83.4 เยน/ดอลลาร์ สรอ เงินบาท 30.6 บาท/ดอลลาร์ สรอ

น้ำมันดิบ wti อยู่ที่ 107.2 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล น้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 123.6 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล ทองคำอยู่ที่ 1663 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์



ตลาดหุ้นยังไปต่อ ดัชนีอุตฯดาวโจนส์ทำคลื่นเกิน จับตาราคาสินค้าโภคภัณฑ์

สัปดาห์หนึ่งก็มาดูสรุปตลาดกันสักที สัปดาห์ที่ 12/03/2012-16/03/2012 นี้ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐดูดีขึ้น อย่างเช่นอัตราว่างงาน ส่วนทางด้านยุโรปก็ยังไม่มีข่าวร้ายอะไร ดังนั้นสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นจึงขึ้นกันเสียเป็นส่วนใหญ่ ตลาดหุ้นเวเนซุเอลาขึ้่นแรง +5.6% ที่แรงรองลงมาก็เป็นตุรกี +5.2% เยอรมนี +4.0% อาร์เจนตินา +3.8% เฉพาะทางด้านยุโรปสัปดาห์นี้ดูจะขึ้นแรงกันหลายประเทศ นอกจากเยอรมนีแล้วยังมี อิตาลี ฮังการี ฝรั่งเศส เบลเยียม ฟินแลนด์ สวีเดน ฯลฯ ที่ขึ้นกันในระดับกว่า +3% โดยเฉลี่ยแล้วกลุ่มสหภาพยุโรปนี้หุ้นขึ้นกัน +3.7% เลยทีเดียว และที่เพิ่งเกิดสัญญาณซื้อในสัปดาห์นี้ก็ได้แก่ ออสเตรีย เบลเยียม เยอรมนี กรีซ อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สวีเดน และอังกฤษ

ทางด้านสหรัฐอเมริกา ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ +2.4% เกิดสัญญาณซื้อเช่นกัน ส่วนทางฝั่งเอเชียแปซิฟิก ตลาดหุ้นขึ้นไม่แรงเท่ากับกลุ่มยุโรป ออสเตรเลีย +1.5% ญี่ปุ่น 2.0% สิงคโปร์ +1.6% ไทย +2.7% ตลาดหุ้นที่ลงก็มีจีน -1.4% ตลาดหุ้นจีนสัปดาห์นี้มีลงแรงอยู่หนึ่งวัน ประกอบกับมีบทวิเคราะห์จากที่ไหนสักแห่งระบุว่าจีนตลาดหุ้นจีนจะถดถอยอย่างแรงหรือที่เรียกว่า hard ladning นอกจากนี้ การเมืองภายในของจีนเองก็ยุ่งๆโดยเฉพาะในระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์

ตลาดตราสารหนี้ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น น่าจะเกิดจากเงินไหลออกจากตลาดพันธบัตรไปเข้าตลาดหุ้น พันธบัตรของไทยผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 0.29 จุด

ทางด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ สัปดาห์นี้กลุ่มสินค้าที่ปรับตัวขึ้นมีมากกว่าที่ปรับตัวลง แต่ก็ยังผันผวนหนัก สินค้าเกษตรเด่นสุดในแง่ความผันผวนคือโกโก้ สัปดาห์นี้ -6.4% (สัปดาห์ที่แล้วบวกแรง) ที่ขึ้นแรงในสัปปดาห์นี้คือน้ำตาลทราย +7.4% ข้าวโพด +4.3% ทองคำตลอดสัปดาห์ปรับตัวลง -3.3% น้ำมันดิบเบรนต์ -0.1% ส่วน น้ำมันดิบ wti -0.3%

สำหรับภาพรวมของอัตราแลกเปลี่ยน สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ดอลลาร์ สรอ แข็งค่าขึ้นในตอนต้นและกลางสัปดาห์ มาอ่อนในตอนท้ายสัปดาห์ เงินสกุลอื่นจึงอ่อนในตอนต้นสัปดาห์และมาแข็งในปลายสัปดาห์ แต่แนวโน้มส่วนใหญ่อ่อนค่าลง ยูโรแข็งค่า +0.4% แต่เกิดสัญญาณขายแล้ว ฟรังก์สวิส +0.24% โครน -0.5% โครนา +0.8% เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย +0.2% เงินเยนอ่อนค่า -1.2% เงินบาท -0.44%

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ผ่าน 13,000 จุดมาแล้ว แต่ยังไม่แน่ว่าจะยืนอยู่ได้หรือไม่ ต้องรอดูอีกหน่อย แต่ที่ดูแปลกๆก็คือการนับคลื่น ดังภาพต่อไปนี้


ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ดูแปลกๆ มีคลื่นย่อยเกิน 3 คลื่น


ตามสมมติฐานเดิมของลุงแมวน้ำก็คือ ขณะนี้ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาอยู่ในคลื่นใหญ่ B ซึ่งปกติคลื่น B มี 3 คลื่นย่อย แต่จากภาพคงสังเกตเห็นกันว่าขณะนี้คลื่นที่คิดว่าเป็นคลื่น B นั้นปัจจุบันมีถึง 5 คลื่นย่อยแล้วและ DJI ก็กำลังอยู่ในคลื่นย่อยที่ 5 ซึ่งหากจะถามว่าหมายความว่าคลื่นที่ DJI กำลังดำเนินอยู่นี้ไม่ใช่คลื่น B และควรต้องนับคลื่นใหม่ใช่หรือไม่ คำตอบก็คือก็ยังไม่แน่ เพราะตลาดหุ้นในปัจจุบันต่างจากเมื่อก่อน สภาพคล่องมีล้นเหลือ สภาพตลาดมีความซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้นอะไรก็อาจเกิดขึ้นได้ คลื่น B อาจมีห้าคลื่นย่อยเป็นกรณียกเว้นก็ได้ หรือคลื่นนี้ไม่ใช่คลื่น B แต่เป็นคลื่น 5 ก็อาจเป็นไปได้อีกเช่นกัน ให้รอดูว่า DJI ผ่าน 14300 จุดได้หรือไม่ก่อน หากผ่านได้ก็ถึงเวลาต้องนับคลื่นกันใหม่ ตอนนี้คงทำได้เพียงตามดูไปก่อน

ช่วงนี้ตลาดหุ้นขึ้นกันทั่วโลก สภาพคล่องในโลกมีสูงอันเนื่องจากจากมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องของยุโรป ธนาคารในยุโรปถือเงินเอาไว้มากก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรจึงต้องหาทางลงทุนเพื่อให้เงินทำงานเกิดดอกผล ส่งผลให้มีการเก็งกำไรกันในตลาดหุ้นอย่างสูงจนหุ้นขึ้นแรง ตลาดหุ้นยังอาจไปต่อได้อีก ตลาดขึ้นก็ตามแนวโน้มไปเรื่อยๆ ไม่ต้องไปคิดมากว่าเมื่อไรตลาดจะลงเพราะว่าตอบยาก

ควรติดตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์เอาไว้ แม้ว่าตอนนี้ยังเป็นรอบของหุ้นอยู่ สินค้าโภคภัณฑ์ดูเหมือนเคลื่อนไหวไม่มากนัก แต่จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค แนวโน้มขาขึ้นของสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มมีกำลังมากขึ้นเรื่อยๆ อีกไม่นานอาจถึงรอบของสินค้าโภคภัณฑ์ที่จะถูกเก็งกำไรอย่างรุนแรงก็ได้ ซึ่งนั่นหมายถึงราคาน้ำมันดิบด้วย และอาจกระทบถึงอัตราเงินเฟ้อและภาวะค่าครองชีพในที่สุด


แนวโน้มขาขึ้นของสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มสะสมกำลังมากขึ้น





กราฟแสดงความสัมพันธ์ของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินสำคัญบางสกุลรวมทั้งทองคำ




ตารางหุ้น ฟิวเจอร์ส และกองทุนรวม และค่าสถิติต่างๆ

Sunday, March 18, 2012

เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ - ว่านหางจระเข้ยามฉุกเฉิน




เช้าวันหยุดวันนี้ลุงแมวน้ำตื่นแต่เช้าเช่นเคย คิดว่าจะไปว่ายน้ำเล่นที่สวนลุมที่สวนลุมเสียหน่อย ลุงว่ายน้ำไม่เสียเงินค่าสระว่ายน้ำเพราะว่าลุงไปลงว่ายน้ำในบึง ที่เขาพายเรือกันเล่นนั่นน่ะ แอบๆลงไป  ^_^ เบื่อสระน้ำแล้วเพราะอยู่กับสระทุกวัน แต่ก่อนไปก็ขอโพสต์อะไรสักนิดหน่อยก่อนละกัน

วันนี้ลุงแมวน้ำชวนปลูกต้นไม้อีกสักต้น นั่นคือว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้นี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่าอะโลเวรา (Aloe vera) เดิมทีเป็นพืชพื้นเมืองทางแอฟริกาใต้ฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียน ต่อมาจึงแพร่ไปตามถิ่นต่างๆทั่วโลก ปัจจุบันมีสายพันธุ์ที่แยกย่อยลงไปอีกถึงกว่า 300 สายพันธุ์ น่าอิจฉาจระเข้จัง มีคนเอาไปตั้งเป็นชื่อต้นไม้ด้วย ทำไมไม่มีต้นหางแมวน้ำบ้างก็ไม่รู้

ว่านหางจระเข้นี้เป็นพืชทำเงินชนิดหนึ่งของไทยเลยทีเดียว พันธุ์ที่เราปลูกกันตามบ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นพันธุ์พื้นบ้าน Aloe Indica Royle สักเกตได้ว่าใบไม่ใหญ่นัก ส่วนที่ปลูกกันในไร่เพื่อการค้านั้นมักใช้สายพันธุ์ Aloe Barbadensis Mill ซึ่งมีใบขนาดใหญ่

ว่านหางจระเข้นั้นมีสรรพคุณมากมาย แบบที่เหลือเชื่อก็มี แต่เอาที่มีผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ยืนยันนั้นได้แก่สรรพคุณด้านการรักษาแผลในกระเพาะอาหาร และช่วยในการระบาย โดยกินเนื้อวุ้นที่อยู่ในใบ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณในการรักษาแผล เพราะสารในวุ้นของว่านหางจระเข้นั้นสามารถยับยั้งการทำลายของเนื้อเยื่อ กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ และลดการอักเสบ ดังนั้นจึงใช้รักษาแผลทั้งแผลทั่วไปและแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก แผลถูกรังสี หรือแผลที่ถูกสารเคมีเช่น กรด ด่าง ได้เป็นอย่างดี

ที่ลุงแมวน้ำปลูกเอาไว้มีจุดประสงค์หลักคือเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉินเมื่อถูกไฟไหม้น้ำร้อนลวก ไฟไหม้น้ำร้อนลวกแม้ว่านานๆจะเกิดสักครั้งแต่เมื่อเกิดแล้วมักเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเมื่อถูกไฟไหม้น้ำร้อนลวกนั้นเนื้อเยื่อจะถูกความร้อนทำลาย หากโดนน้อยก็แค่ทำให้ผิวหนังบวมพองและเกิดแผลตื้นๆ แต่หากความร้อนทำลายเนื้อเยื่อลึกลงไปอีกเมื่อแผลหายแล้วก็จะเป็นแผลเป็นและอาจมีพังผืด นอกจากจะไม่สวยงามแล้วยังทำให้เกิดอาการตึงรั้งหรือเคลื่อนไหวไม่สะดวกอีกด้วย

วิธีใช้ว่านหางจระเข้ก็คือเมื่อถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือถูกกรดด่าง ให้เอาเนื้อวุ้นที่อยู่ในใบของว่านหางจระเข้มาล้างให้สะอาดให้หมดคราบยาง จากนั้นเอามาโปะที่แผล (กรณีถูกกรดด่างให้เอาผ้าเช็ดคราบกรดด่างจากผิวหนังให้ได้มากที่สุด ห้ามเอาน้ำล้างแผลทันที เมื่อเช็ดกรดด่างออกไปแล้วจึงใช้น้ำล้างอย่างรวดเร็ว ห้ามล้างนาน จากนั้นจึงค่อยโปะว่านหางจระเข้ลงไป) แล้วเอาผ้าพันไว้ ควรเปลี่ยนวุ้นใหม่ทุกหนึ่งชั่วโมง เปลี่ยนวุ้นสักสองสามครั้งก็จะพบว่าบริเวณที่ถูกไฟไหม้น้ำร้อนลวกนั้นไม่พองแล้ว รวมทั้งไม่รู้สึกแสบร้อนด้วย เป็นอันว่าปลอดภัยแล้ว เท่าที่ลุงแมวน้ำใช้มาพบว่าได้ผลดีทีเดียว ดีพอๆกับครีมเป่าฟูหลิงหรือว่าครีมบัวหิมะของจีนเลย

การปลูกก็ไม่ยากเลย ให้เอาหน่อของหางจระเข้ (หน่อคือต้นอ่อนที่ขึ้นอยู่ข้างๆต้นแม่) ตัดหน่อที่โตพอควรออกมาแล้วปลูกได้เลย ว่านหางจระเข้ชอบดินร่วนปนทรายซึ่งมีการระบายน้ำดี หากรากแฉะว่านจะตาย นอกจากนี้ยังชอบแดดรำไร ปลูกใต้ต้นไม้โปร่งหรือปลูกใต้ชายคาที่ได้รับแดดบางเวลาก็เหมาะเลย อย่าไปปลูกกลางแจ้งแดดส่องทั้งวัน ปลูกในกระถางก็ได้ ดังนั้นแม้มีพื้นที่ไม่มาก เช่น ในคอนโดก็ยังปลูกได้

ในภาพ เป็นว่านหางจระเข้ที่ลุงแมวน้ำปลูกไว้ในกระถางขนาด 6 นิ้ว ถือว่าเป็นกระถางขนาดเล็ก แขวนไว้ใต้ต้นลั่นทม เห็นไหม ต้นโตทีเดียว แค่นี้ก็พอใช้แล้ว มีหน่อแล้วด้วย คือต้นเล็กที่อยู่ข้างๆต้นใหญ่นั่นเอง ต้นนี้ลุงปลูกแบบไร้ดิน ถือวัสดุในกระถางไม่มีดินเลย ดังนั้นเวลาเลี้ยงหรือรดน้ำจึงไม่เกิดคราบดินเลอะเทอะ ดูแลได้สะดวกหน่อย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบากว่่าดินมาก

หากมีเวลาก็ลองปลูกว่านหางจระเข้เอาไว้ในครัวเรือนเผื่อยามฉุกเฉินกันบ้างก็น่าจะดี