Monday, January 23, 2012

20/12/2012 * DJI, DAX, FTSEMib, Currencies

วันนี้เป็นวันสุดท้ายในรอบสัปดาห์ อีกทั้งยังเป็นวันทำการสุดท้ายก่อนเทศกาลตรุษจีนอันเป็นเทศกาลปีใหม่ของชาวจีน ในสัปดาห์หน้าจะมีตลาดหุ้นหลายชาติที่มีเชื้อสายจีนหยุดทำการ โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนหยุดทำการหลายวัน

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 1,058.66 จุด ลดลง 0.28 จุด

หุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้มีสัญญาณซื้อ BAY และมีสัญญาณขาย BIGC ส่วนเมื่อวานมีสัญญาณซื้อ BBL, KBANK, PTTGC ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่รวมทั้งสิ้น 39 ตัว

กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขายน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (CL) น้ำมันดิบเบรนต์ยังไม่เกิดสัญญาณขาย ส่วนกองทุนอีทีเอฟต่างประเทศ DBO ก็เกิดสัญญาณขาย

ตลาดต่างประเทศในรอบสัปดาห์นี้จุดสนใจของนักลงทุนทั่วโลกยังอยู่ที่สถานการณ์ในยุโรป ซึ่งมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายผสมปนเปกัน ข่าวร้ายก็คือกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือที่เรียกว่า IMF เรียกร้องให้ชาติต่างๆใส่เงินเข้ามาในกองทุนเพิ่มเพราะลำพังเงินทุนที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่พอกับการรับมือวิกฤติเศรษฐกิจของยุโรป ส่วนทางด้านธนาคารโลกก็เตือนถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่จะเกิดขึ้นในปีนี้อันเกิดจากปัญหายุโรปซึ่งอาจจะรุนแรงกว่าวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ส่วนข่าวดีก็คือฝรั่งเศสและสเปนขายพันธบัตรได้อย่างราบรื่นแม้ว่าจะถูกลดอันดับเครดิตก็ตาม

หากนักลงทุนติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้คงทราบดีแล้วว่าองค์กรทางเศรษฐกิจระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นธนาคารโลก ธนาคารแห่งสหภาพยุโรป หรือแม้แต่บริษัทจัดอันดับเครดิตต่างๆ ต่างก็คาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ว่าเผาจริง (ปีที่แล้วเผาหลอก) เพราะชาติที่มีปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปมีหนี้ที่ถึงกำหนดชำระในปีนี้รออยู่เป็นมูลค่ามหาศาล หลายๆชาติไม่น่ามีขีดความสามารถที่จะชำระหนี้ได้ แต่ปัญหาที่นักลงทุนรายย่อยอย่างพวกเราอาจสงสัยก็คือ ในเมื่อปีนี้เผาจริง แต่เหตุใดตลาดหุ้นทั่วโลกจึงได้ขึ้นเอาและขึ้นเอา

สำหรับข้อนี้เองลุงแมวน้ำก็อธิบายไม่ได้ หากประเมินจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจลุงแมวน้ำก็คิดว่าขณะนี้เปรียบเสมือนระเบิดเวลาที่กำลังทำงานอยู่ รอเพียงให้ถึงเวลาที่จะระเบิดเท่านั้น โอกาสที่จะไม่ระเบิดนั้นคงยาก แต่ตลาดหุ้นในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาค่อยๆปรับตัวขึ้น ซึ่งหากนักลงทุนที่หวั่นไหวไปกับข่าวอาจจะขายหุ้นแล้วทำพอร์ตให้ว่าง ข้อนี้ก็ยังไม่มีอะไรเสียหาย แค่เสียดายโอกาสทำกำไรในช่วงที่ผ่านมา แต่ผู้ที่ลงทุนในฟิวเจอร์สโดยเปิดสัญญาขายหรือถือสัญญาด้านชอร์ตเอาไว้คงเจ็บตัวไปพอสมควร

ปรากฏการณ์ราคากับระดับดัชนีนี้เป็นผลจากปัจจัยทางจิตวิทยา แม้ว่าต่อไปตลาดหุ้นทั่วโลกอาจจะลงหนัก แต่เราก็ไม่รู้ว่าตลาดจะลงหนักในวันใด รู้แต่ว่าตอนนี้ตลาดกำลังขึ้นอยู่ หากลงทุนผิดทางกว่าจะถึงวันที่ตลาดลงหนักอีกรอบเราอาจเสียหายหนักไปแล้ว ดังนั้นการลงทุนควรลงทุนตามแนวโน้มของตลาดในระยะกลางๆ ไม่ควรลงทุนตามแนวโน้มใหญ่เพราะว่ากรอบเวลานานเกินไป (สมมติเช่นแนวโน้มใหญ่เป็นคลื่น C แต่ว่าขณะนี้คลื่นระยะกลางเป็นแนวโน้มขาขึ้นอันเป็นคลื่นย่อยในคลื่น C แบบนี้ก็ควรลงทุนตามแนวโน้มระยะกลางคือเทรดเป็นขาขึ้นไป) รวมทั้งไม่ควรลงทุนตามแนวโน้มระยะสั้นมากเพราะกรอบเวลาสั้นเกินไป อีกทั้งไม่ควรไปคิดดักทางตลาดเพราะมีโอกาสพลาดพลั้งได้

เราลองมาดูดัชนีสำคัญในโลกว่าขณะนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง เริ่มต้นด้วยดัชนีเดาวโจนส์ (DJI) ของสหรัฐอเมริกา


จากภาพจะเห็นว่าขณะนี้ DJI มาถึงระดับฟิโบนาชชี 78.6% อีกแล้ว หากขณะนี้ DJI อยู่ในคลื่น C จริง ดัชนีควรจะไปต่อไม่ไหวและเริ่มไหลลงที่ระดับดัชนีแถวๆนี้แล้ว ติดตามดูอีกไม่นานก็คงรู้

ต่อมาก็เป็นดัชนี DAX ของเยอรมนี ดังภาพต่อไปนี้


จากภาพ ระดับดัชนียังไม่ถึงระดับฟิโบนาชชี 61.8% ดังนั้นตลาดหุ้นเยอรมนีและกลุ่มยุโรปน่าจะขึ้นต่อได้อีกจึงค่อยลง ดัชนี DAX น่าจะไปได้ถึง 6600 จุด หรือหากแรงกว่านั้นก็อาจไปได้ถึง 7000 จุด จากนั้นจึงค่อยลง

มาดูดัชนีของอิตาลีกันบ้าง ดังภาพต่อไปนี้


จากภาพ รูปแบบคลื่นไม่ปกติ ลุงแมวน้ำยังนับคลื่นไม่ถูกเหมือนกัน แต่สังเกตว่าช่วงปลายปี 2011 ต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ กราฟของดัชนีมีท้องคลื่นทียกสูงขึ้น (higher trough) อันเป็นรูปแบบของคลื่นขาขึ้น ก็อาจตั้งเป็นข้อสังเกตไว้ได้ว่าช่วงนี้ตลาดหุ้นอิตาลีอาจมีสถานการณ์ดีขึ้นและเป็นขาขึ้นไปได้ระยะหนึ่ง ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดหุ้นของเยอรมนีที่ยังขึ้นต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง

มาดูทางด้านอัตราแลกเปลี่ยนกันบ้าง สัปดาห์นี้เงินดอลลาร์ทรงตัวไม่ไปต่อ กลายเป็นแกว่งในช่วงแคบ เงินตราสกุลอื่นจึงแกว่งในช่วงแคบด้วยเช่นกัน สัปดาห์นี้เงินบาทดูอ่อนค่า ส่วนดอลลาร์สิงคโปร์ เยน และดอลลาร์ออสเตรเลียค่อนข้างนิ่ง












Wednesday, January 18, 2012

17/01/2012 * ปรับมุมมองตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน และสินค้าเกษตร

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 1,056.54 จุด เพิ่มขึ้น 19.53 จุด ตลาดหุ้นไทยและเอเชียได้อานิสงส์จากการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีน

หุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้มีสัญญาณขาย BGH ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่รวมทั้งสิ้น 37 ตัว

กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อทองคำ (GC) และฝ้าย (CT) กองทุนอีทีเอฟต่างประเทศ GLD ก็เกิดสัญญาณซื้อ ส่วนฟิวเจอร์สของไทยนั้น BANPU ทองคำ (GF) และโลหะเงิน (SV) เกิดสัญญาณซื้อ

ตลาดต่างประเทศตลาดหุ้นเขียวสดใสทั้งสามภูมิภาค แต่อาจจะมาจากคนละประเด็นกัน ทางด้านเอเชียตลาดหุ้นขึ้นเพราะการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนที่ดีขึ้น ตลาดหุ้นจีนเองก็ขึ้นต่อไปจากเมื่อวานอีก +2.8% ส่วนตลาดหุ้นฝั่งยุโรปน่าจะเกิดจากฝรั่งเศสสามารถประมูลขายพันธบัตรได้อย่างราบรื่นแม้จะถูกลดอันดับเครดิตก็ตาม ส่วนทางสหรัฐอเมริกาตลาดหุ้นขึ้นไม่มาก ไม่ได้ข่าวอะไรพิเศษ แต่ตลาดหุ้น สรอ ขึ้นรับข่าวจากฝั่งยุโรปและเอเชียมากกว่า

ทางด้านราคาน้ำมันดิบช่วงนี้คงเป็นไปตามข่าวที่เกี่ยวกับอิหร่าน สถานการณ์ค่อนข้างวุ่นวาย อิหร่านขู่จะปิดช่องแคบ ส่วนซาอุดิอาระเบียก็บอกว่าหากอิหร่านลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงเพื่อสร้างกระแสกดดันโลก ซาอุจะเพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอเอง ทรรศนะของซาอุเช่นนี้ทำให้อุณหภูมิระหว่างโลกอาหรับด้วยกันเองร้อนแรงขึ้น ขณะเดียวกันทางฝั่งสหภาพยุโรป ผู้นำของฝรั่งเศสก็เร่งรัดชาติในอียูให้เร่งคว่ำบาตรอิหร่านให้เร็วขึ้น จากเดิมภายใน 6 เดือนให้เป็นภายใน 3 เดือน เมื่อมีเรื่องร้อนอยู่หลายเรื่องราคาน้ำมันดิบทั้ง wti และเบรนต์จึงขยับขึ้นมาอีก

ช่วงที่ผ่านมานักลงทุนไม่ค่อยไว้ใจตลาดหุ้นนัก (ที่จริงปกติตลาดหุ้นก็วางใจไม่ค่อยได้อยู่แล้ว เพราะไม่มีอะไรแน่นอน) ข่าวร้ายจากทางยุโรปมีออกมาเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเรื่องหนี้สาธารณะ เรื่องปรับลดอันดับเครดิต เรื่องตัวเลขทางเศรษฐกิจ ฯลฯ ตลาดหุ้นทั่วโลกจึงผันผวน มีซึมบ้าง มีขึ้นลงแรงบ้าง ตามอารมณ์ของข่าวรายวัน

แม้ว่าลุงแมวน้ำจะมองแนวโน้มใหญ่ของตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐอเมริกาว่าอยู่ในคลื่นใหญ่ C แต่คลื่นใหญ่ C ไม่ได้หมายความว่าหุ้นจะลงเอาลงเอาทุกวัน ในระยะสั้นๆสองเดือนที่ผ่านมา แนวโน้มตลาดหุ้นลดความผันผวนลง ดัชนีตลาดหุ้นแต่ละประเทศค่อยๆสะสมโมเมนตัมขาขึ้นอย่างช้าๆ ทำให้ตลาดหุ้นค่อยๆขึ้นทีละน้อยอย่างช้าๆ ลุงแมวน้ำประเมินว่าตลาดหุ้นขาขึ้นนี้น่าจะยังคงไปต่อได้อีกระยะหนึ่ง ซึ่งหากมีสัญญาณซื้อเข้ามาก็น่าจะพอเทรดได้ เพราะว่าแม้เป็นคลื่นใหญ่ C แต่หากคลื่นย่อยขาขึ้นกินระยะวลานานพอก็ยังพอเทรดได้ แม้ยุโรปจะมีข่าวร้ายรายวันก็ตามแต่เมื่อประเมินทางเทคนิคแล้วคิดว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้นก็ต้องถือเอาปัจจัยทางเทคนิคเป็นหลัก ไม่ต้องไปกลัวข่าว

นอกจากนี้ ลุงแมวน้ำยังปรับมุมมองเกี่ยวกับน้ำมันดิบ ตอนนี้เป็นแนวโน้มขาขึ้นแล้ว น้ำมันดิบ wti คงได้เห็น 113-115 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล เป็นขั้นแรก หลังจากนั้นค่อยมาดูกันอีกที ภาพต่อไปนี้เป็นกราฟของราคาน้ำมันดิบเบรนต์ (BZ) น้ำมันดิบเบรนต์แกว่งตัวไม่แรง เกิดสัญญาณหลอกน้อยกว่าน้ำมันดิบ WTI (CL) ทำให้ BZ ดูน่าเทรดกว่า (สองภาพข้างล่างนี้หากดูผ่านๆเหมือนกับว่า BZ เกิดสัญญาณหลอกมากกว่า CL แต่ที่จริงไม่ใช่เช่นนั้นเพราะพล็อตคนละกรอบเวลากันเลยทำให้ดูหลอกตา)




ทองคำ (GC) รูปแบบทางเทคนิคยังดูไม่ชัดนัก ตอนนี้ยังเป็นภาวะไร้ทิศทางอยู่ แต่ลุงแมวน้ำคิดว่าสินค้าโภคภัณฑ์คงขึ้นทั้งกลุ่ม ดังนั้นทองคำและโลหะมีค่ากับโลหะอุตสาหกรรมอื่นๆคงราคาขึ้นไปด้วยกัน ดังนั้นราคาทองคำน่าจะเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นได้ต่อไป ส่วนจะขึ้นไปนานเท่าใดคงตอบไม่ได้ ต้องตามดูไปเรื่อยๆ



สินค้าเกษตร รูปแบบทางเทคนิคยังเป็นภาวะไร้ทิศทางเช่นกัน แต่คาดว่าน่าจะเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นต่อไปได้ตามทิศทางของราคาน้ำมันดิบ



ยางพารา RSS3 ขณะนี้เป็นแนวโน้มขาขึ้นแล้ว ดูเหมือนว่ายางพาราจะเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นค่อนข้างเร็ว



เงินดอลลาร์ สรอ -ขณะนี้รูปแบบทางเทคนิคเป็นแนวโน้มขาขึ้นชัดเจน แต่ให้ระวังเอาไว้บ้าง เพราะหากตลาดหุ้นขึ้น น้ำมันดิบขึ้น เงินดอลลาร์ สรอ อาจทรงตัวเป็นภาวะไร้ทิศทางหรือเป็นแนวโน้มขาลงไประยะหนึ่งได้




นักลงทุนต้องหมั่นทบทวนรูปแบบทางเทคนิคอยู่เสมอ แม้รูปแบบทางเทคนิคอาจไม่ถูกใจเรา เช่น เราคิดว่าข่าวร้ายเยอะน่าจะเป็นขาลง แต่เมื่อรูปแบบเป็นขาขึ้นก็ต้องเทรดเป็นขาขึ้นไปก่อน ไม่ควรกลัวข่าวหรือกลัวตลาด รวมทั้งหากสถานการณ์เปลี่ยน รูปแบบเปลี่ยน เราก็ควรทบทวนมุมมองของเราและอาจต้องปรับมุมมองใหม่ มิฉะนั้นอาจเสียจังหวะการลงทุนไป