Wednesday, December 8, 2010

07/12/2010 * CL, ปรับปรุงพอร์ตการลงทุนเืพื่อการเกษียณอายุ

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 1040.72 จุด เพิ่มขึ้น 6.66 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้มีสัญญาณซื้อ PTT ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวมทั้งหมด 34 ตัว

กองทุนอีทีเอฟ ENGY เกิดสัญญาณซื้อ

กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

ด้านตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ตลาดต่างประเทศมีทั้งปิดเขียวและปิดแดงคละกันไป

ช่วงนี้คงเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อทั้งตลาดไทยและตลาดต่างประเทศ จะขึ้นต่อหรือว่าจะลงอีกไม่นานคงได้รู้กัน

ทางด้านน้ำมันดิบ (CL) ผ่านแนวต้านหรือว่าแนวของยอดคลื่นเดิมมาได้ แต่เมื่อพิจารณาจากกราฟจะเห็นว่ายังไม่สามารถทะลุกรอบ SEC ได้ ดังนั้นแม้ขาขึ้นก็ยังเป็น sideway up หรือเป็นลักษณะของต้นคลื่น 3 (หรือคลื่น 5) อยู่ ยังไม่ได้เข้าสู่กลางคลื่น 3 (หรืออาจเป็นกลางคลื่น 5) เมื่อได้ที่เข้าสู่กลางคลื่นเราจะเห็นราคาไปแบบแทบไม่มีพักเหมือนกับตลาดหุ้น SET และราคายางพาราที่ผ่านมา



ทางด้าน โครงการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ บำนาญสร้างเองของลุงแมวน้ำ นั้น ในรอบเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาลุงแมวน้ำปรับพอร์ตการลงทุน ดำเนินการไปหลายอย่าง ตั้งแต่นำกำไรจากการเทรดฟิวเจอร์สยางพารา (RSS3) และขายกองทุน K-Agriculture มาเพิ่มการลงทุนในฟิวเจอร์ส SET50 (S50) จากนั้นนำเงินที่สำรองไว้เพื่อการเทรดฟิวเจอร์สส่วนหนึ่งมาพักไว้ในกองทุนตราสารหนี้ กองทุนเปิดกรุงศรีโทเทิลรีเทิร์นบอนด์ (KF-TRB) เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าฝากในบัญชีออมทรัพย์

และที่สำคัญก็คือ ลุงแมวน้ำแบ่งเงินกำไรส่วนหนึ่ง จำนวน 10,000 บาทไปซื้อ ปฏิทินสงเคราะห์สัตว์ - โครงการเพื่อนข้างถนน ได้ปฏิทินมาร้อยกว่าเล่ม เพื่อเอาไว้แจกเด็กๆที่มาชมการแสดงของลุงแมวน้ำถือเป็นของขวัญปีใหม่ รวมทั้งได้ช่วยเหลือสุนัขและแมวจรจัดด้วยอันเป็นการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขและแบ่งปันเพื่อช่วยเหลือชีวิตอื่นๆ ดังที่ลุงแมวน้ำเคยบอกเอาไว้ว่าเงินกำไรที่ได้มาจากการลงทุนในตลาดหุ้นหรือตลาดฟิวเจอร์สนั้นส่วนหนึ่งมาจากหยาดเหงื่อและน้ำตาของผู้อื่น ดังนั้นควรเทรดด้วยความเมตตา ควรรู้จักพอประมาณ รวมทั้งเมื่อได้มาแล้วควรมีการแบ่งปันด้วยจึงจะถือได้ว่าเป็นการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขกัน ไม่จำเป็นต้องรอให้รวยก่อนแล้วจึงค่อยช่วย เพราะการลงทุนแบบลุงแมวน้ำไม่ได้สร้างความร่ำรวย รวมทั้งอย่าคิดว่าขอให้กำไรเพิ่มขึ้นอีกหน่อยเสียก่อนจึงค่อยมาช่วย ทั้งนี้เพราะการแบ่งปันไม่จำเป็นต้องรอ มีน้อยก็แบ่งปันน้อย ถึงไม่แบ่งปันเป็นเงิน เราก็ยังสามารถแบ่งปันด้วยแรงงานของเราก็ได้ เช่น งานจิตอาสาต่างๆ เป็นต้น

ผลการลงทุนในเดือนพฤศจิกายนนี้ พอร์ตลงทุนของลุงแมวน้ำสามารถเลี้ยงลุงแมวน้ำหลังจากเกษียณไปแล้วเดือนละ 1,799 บาทเป็นเวลา 25 ปี เทียบกับเมื่อตอนเริ่มต้นโครงการเมื่อต้นปี 2009 ด้วยเงินลงทุน 120,000 บาท ซึ่งเท่ากับรายได้หลังเกษียณเดือนละ 400 บาทตลอด 25 ปี

อ่านรายละเอียดได้ที่ โครงการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ บำนาญสร้างเองของลุงแมวน้ำ






Tuesday, December 7, 2010

03/12/2010 - 06/12/2010 * DX, 10 yr T-note yield

03/12/2010

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 1034.06 จุด เพิ่มขึ้น 2.09 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้มีสัญญาณซื้อ BAY, BGH, HANA, TMB ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวมทั้งหมด 33 ตัว

กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อฝ้าย (CT)

ด้านตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย



06/12/2010

วันตลาดของไทย ทั้งตลาด SET, TFEX, AFET หยุดทำการ มีรายงานเฉพาะตลาดต่างประเทศ

กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อโกโก้ (CC) ขณะนี้กลุ่มสินค้าเกษตรในรายงานกลับกลายเป็นสัญญาณแล้วทั้งหมด

ด้านตลาดต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

ขณะนี้ประเด็นที่ทั่วโลกต่างจับตามองก็คือสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและยุโรป อันส่งผลกระทบต่อค่าเงิน เดิมทีนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าผลจากมาตรการพิมพ์เงินเพิ่มและอัดฉีดเงินรอบสองหรือที่เรียกว่า QE2 ของสหรัฐอเมริกา รวมทั้งอัตราการว่างงานที่ใกล้ถึง 10% จะทำให้ค่าของเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง แต่กลับกลายเป็นว่าปัญหาวิกฤติหนี้ของกลุ่มสหภาพยุโรปทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง เมื่อค่าเงินแข่งกันอ่อน ใครอ่อนมากกว่าก็ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งกลายเป็นแข็งค่าขึ้นมาโดยปริยาย ผลก็คือขณะนี้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมา ใครจะอ่อนใครจะแข็งการวิเคราะห์เชิงเศรษฐกศาสตร์คงตอบได้ยากเพราะขึ้นกับปัจจัยจำนวนมาก แต่หากมองรูปแบบกราฟค่าเงินและใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้วเงินดอลลาร์น่าจะแข็งค่าต่อไปเนื่องจากอยู่ในคลื่นขาขึ้น



ปรากฏการณ์แปลกอีกประการณ์ที่ผิดความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์นั่นก็คือ ตั้งแต่มีการประกาศมาตรการ QE2 เมื่อต้นเพือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่าเมื่ออัดฉีดเงินเข้ามาในระบบจะทำให้มีสภาพคล่องมากขึ้นและอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะคงต่ำอยู่อย่างที่เป็นอยู่นี้ไปอีก ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจะทำให้ประชาชนพยายามถือครองพันธบัตรรัฐบาลเอาไว้เนื่องจากให้ผลตอบแทนดีกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก แต่กลับปรากฏว่าอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี (10 year treasury note) กลับสูงขึ้น อันแปลความหมายได้ว่าคนไม่อยากเก็บพันธบัตรเอาไว้และพยายามขายออกไปเพื่อถือเงินสด (พันธบัตรก็ซื้อขายได้ในตลาดรองเหมือนกับหุ้น) สาเหตุอาจเป็นไปได้ว่านักลงทุนกำลังมองว่าอัตราดอกเบี้ยกำลังจะกลายเป็นขาขึ้น กับอีกสาเหตุหนึ่งก็คืออยากได้เงินสดเอาไว้ใช้จ่ายหรือต้องการนำเงินสดไปหา่ช่องทางลงทุนที่ดีกว่าการถือพันธบัตร ปรากฏการณ์นี้เป็นเรื่องที่ควรติดตามต่อไป แต่เรื่องหนึ่งที่ลุงแมวน้ำคิดก็คือตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาอาจจะขึ้นแรงได้อีกสักรอบหนึ่งในเร็วๆนี้เพื่อให้จบคลื่น B


ลุงแมวน้ำกำลังเตรียมบทความตอนใหม่อยู่ เป็นมุมมองของลุงแมวน้ำเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการลงทุนในปีต่อไป ดังที่เคยเกริ่นเอาไว้แล้ว คาดว่าอีกไม่กี่วันน่าจะทยอยนำเสนอได้