วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 781.13 จุด เพิ่มขึ้น 11.58 จุด
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้มีมีสัญญาณซื้อ BANPU, PTTCH, QH, SCC, THAI ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวมทั้งหมด 28 ตัว
กองทุนอีทีเอฟ TDEX, TFTSE เกิดสัญญาณซื้อ
สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ข้าวโพด (C) เกิดสัญญาณซื้อ ฟิวเจอร์สของหุ้นเดี่ยว ITD, LH, QH ก็เกิดสัญญาณซื้อ
ด้านดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้ดัชนีเซนเซกซ์ (SENSEX, BSESN) ของอินเดียเกิดสัญญาณซื้อ ดัชนีต่างประเทศทยอยเกิดสัญญาณซื้อนับเป็นเรื่องที่น่าจับตา
แม้ดัชนีของตลาดต่างประเทศหลายตลาดจะทยอยเกิดสัญญาณซื้อ แต่ว่ารูปแบบของกราฟยังไม่อาจพูดได้ว่ามีการกลับทิศเป็นขาขึ้น ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงยังไม่เปลี่ยนมุมมองที่เคยเอาไว้ เพียงแค่จับตาดูเอาไว้ก่อน จะเปลี่ยนมุมมองก็ต่อเมื่อมีสัญญาณกลับทิศที่ชัดเจนเสียก่อน
ทางด้านสินค้าเกษตรกลับน่าสนใจ ซึ่งลุงแมวน้ำมองว่ามีการกลับทิศของแนวโน้มจากขาลงเป็นขาขึ้นแล้ว ดังภาพ
กราฟข้างบนนี้คำนวณเลียนแบบดัชนีราคาสินค้าเกษตรของดอยทช์แบงค์ (Deutsch Bank Agriculture USD Index) เป็นกราฟที่เกิดจากราคาสินค้าเกษตรหลัก 7 ชนิดเอามาถัวเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักกัน ได้แก่ ข้าวสาลี ข้าวโพด ถั่วเหลือง น้ำตาลทราย โกโก้ กาแฟ และฝ้าย ซึ่งกองทุนด้านสินค้าเกษตรในบ้านเราใช้เป็นดัชนีอ้างอิง จากการนับคลื่นของลุงแมวน้ำ คาดว่าในระดับคลื่นใหญ่ เราน่าจะอยู่ในคลื่น 5 (สีน้ำเงิน) ซึ่งในระดับคลื่นรอง เราน่าจะจบคลื่น 2 (สีน้ำตาล) ไปแล้วและกำลังดำเนินอยู่ในคลื่น 3 (สีน้ำตาล) สัญญาณกลับทิศที่แสดงให้เห็นการจบคลื่น 2 แลเข้าคลื่น 3 ก็มีหลายประการ เช่น การรีบาวด์ที่ระดับ fibonacci 61.8% การนับคลื่นย่อย เกิด divergence ของราคากับ rsi และการทะลุกรอบของ standard error channel
จากภาพ วันนี้เกิดสัญญาณซื้อขึ้น คาดว่าราคาสินค้าเกษตรน่าจะไปได้อีกไกลพอสมควรเนื่องจากยังอีกนานกว่าจะจบคลื่น 5 (สีน้ำเงิน)
จากสินค้าเกษตรมาดูที่น้ำมันดิบกันบ้าง ดังที่เคยบอกเอาไว้ว่าน้ำมันดิบตอนนี้นับคลื่นยากเพราะเป็นทรงกะทะคว่ำ แต่ในภาพใหญ่ลุงแมวน้ำเคยนับเอาไว้และคาดว่าราคาน้ำมันดิบในระดับคลื่นใหญ่น่าจะอยู่ในคลื่น B ดังนี้
แต่เมื่อพิจารณาจากคลื่นใหญ่ของราคาสินค้าเกษตร ทำให้ลุงแมวน้ำปรับมุมมองใหม่ในการนับคลื่นของราคาน้ำมันดิบ (CL) ลุงแมวน้ำขอเสนอการนับคลื่นใหม่เผื่อเอาไว้เป็นทางเลือก นั่นคือขณะนี้เรากำลังอยู่ในคลื่น 5 (สีน้ำเงิน) ดังนี้
ซึ่งถ้าเป็นตามการนับแบบหลังนี้ ขณะนี้เราน่าจะใกล้จบคลื่น 2 (สีน้ำตาล) หรืออาจเพิ่งจบคลื่น 2 (สีน้ำตาล) และกำลังอยู่ในคลื่น 3 (สีน้ำตาล) ซึ่งหากเป็นการนับอย่างแรกหรืออย่างหลังก็ตาม ขณะนี้เราก็ยังอยู่ในคลื่นขาขึ้น แต่ว่าการนับอย่างหลังจะทำใหเราประเมินต่อไปได้อีกว่าราคาน้ำมันดิบยังไปต่อได้อีกไกล
อย่างไรก็ดี ลุงแมวน้ำเองก็ยังไม่ปักใจหรือฟันธงว่าจะเป็นรูปแบบใด คงต้องตามตามดูกันต่อไป
ที่คุยกันไปด้านบนคือความเป็นไปได้ในเชิงเทคนิค ทีนี้เราลองมาดูข้อเท็จจริงกันบ้าง ข้อเท็จจริงที่ว่าก็คือค่า TED Spread ซึ่งอยู่ในคอลัมน์ด้านขวาของบล็อกนี้ TED Spread คือส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ย LIBOR 3 เดือน (3 month LIBOR) กับอัตราดอกเบี้ยของตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนของสหรัฐอเมริกา (3 month T-Bill) ค่า TED Spread นี้เป็นตัวบ่งชี้ภาวะด้านเศรษฐกิจได้ หาก TED Spread มีค่าสูงหมายความว่าเงินกู้หายาก ไม่มีใครอยากปล่อยกู้เพราะว่ากลัวความเสี่ยง ใครๆก็พยายามหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง ต่างพยายามพักเงินเอาไว้ ดังนั้นในภาวะที่ TED Spread มีค่าสูง เงินมักไหลออกจากตลาดหุ้นและตลาดฟิวเจอร์สสินค้าโภคภัณฑ์
TED Spread ในตอนนี้มีค่าพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว พิจารณาแล้วไม่น่ามีผลดีต่อตลาดหุ้นและตลาดฟิวเจอร์สทั้งหลาย ดังนั้นแม้ในทางเทคนิคเกิดสัญญาณซื้อแต่อาจเป็นสัญญาณหลอกหรือ false signal ก็ได้ ดังนั้นนักลงทุนควรเทรดด้วยความระมัดระวัง อย่าย่ามใจ รักษาระบบอย่างเคร่งครัดและไม่ควรเพิ่มพอร์ตลงทุน
