วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 772.25 จุด ลดลง 2.34 จุด หุ้นขึ้นต่อเนื่องมาหลายวัน วันนี้เช้าและบ่ายหุ้นก็ขึ้นอยู่ดีๆ ตอนท้ายตลาดก็ถูกกระน่ำขายลงมาจนกลายเป็นดัชนีติดลบ ต่างชาติซื้อสุทธิมาประมาณ 21 วันแล้ว
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 45 ตัว
กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
ดัชนีต่างประเทศ วันนี้ดัชนีหั่งเส็งของฮ่องกง (HSK) เกิดสัญญาณขาย และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต (Shanghai composite index, SSECI) ของจีนเกิดสัญญาณซื้อ ปกติดัชนีหั่งเส็งมักจะตามตลาดดาวโจนส์ของสหรัฐอเมริกา แต่มาวันนี้ดัชนีลงแรงจนเกิดสัญญาณขาย ยังไม่ทราบว่าปัจจัยภายในอะไรที่ทำให้ดัชนีหั่งเส็งร่วง แต่ถึงไม่ทราบก็ไม่เป็นไรเพราะว่าการตัดสินใจซื้อขายของโปรแกรมอยู่ที่การติดตามแนวโน้มของราคาปิดหรือดัชนี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับข่าว
วันนี้เราจะมาดูกราฟราคาทองคำ น้ำมันดิบ และเงินดอลลาร์กัน
ก่อนอื่นเรามาดูที่เงินดอลลาร์กันก่อน ซึ่งเราพิจารณาจากกราฟของฟิวเจอร์สดัชนีดอลลาร์ สรอ (DX)
ขณะนี้ US dollar index อยู่ในคลื่นอะไร เมื่อพิจารณาจากกราฟ คลื่น 1 กับ 2 น่าจะผ่านไปแล้ว ปัญหาก็คือคลื่น 3 (สีน้ำตาล) จบไปแล้วหรือยัง ยอดคลื่นที่ผ่านมาเป็นยอดของคลื่น 3 (สีน้ำตาล) หรือไม่ ถ้าตอบว่าใช่ แปลว่าขณะนี้เราอยู่ในคลื่น 4 หรือ 5 (สีน้ำตาล) แต่ถ้าตอบว่าไม่ใช่ ก็แปลว่าขณะนี้เรายังอยู่ในคลื่น 3 (สีน้ำตาล) อยู่ และยอดคลื่นที่ผ่านมาเป็นยอดของคลื่นย่อย 1 (สีม่วง) ของคลื่น 3 อีกทีหนึ่ง ดังภาพบน
การนับแบบใดจะถูกต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ไม่ว่าจะนับคลื่นเป็นแบบแรกหรือแบบหลังก็เป็นคลื่นขาขึ้นทั้งนั้น ดังนั้นในช่วงเวลาต่อไปค่าดัชนีดอลลาร์ สรอ จึงน่าจะขึ้นต่อ
มาดูทางด้านทองคำ จากกราฟ
เดิมทีที่เราประเมินกันว่าเราน่าจะจบคลื่น 4 (สีน้ำตาล) และกำลังอยู่ในคลื่น 5 แต่เมื่อพิจารณาจากคลื่นย่อยที่ปรากฏในช่วงหลัง ลุงแมวน้ำชักไม่มั่นใจ สรุปว่าตอนนี้ยังนับคลื่นไม่ถูก ต้องพึ่งสัญญาณซื้อขายอย่างเดียวไปก่อน อย่างไรก็ดี คงต้องเผื่อใจเอาไว้ด้วยว่ายังไม่จบคลื่น 4 ช่วงคลื่น 4 ต่อเนื่องคลื่น 5 นี้เกิด false signal มาหลายครั้งแล้ว ผู้ที่เทรดฟิวเจอร์สทองอยู่คงคืนกำไรไปโข หากมีกำไรเก่าเก็บก็ดีไป หากเพิ่งเริ่มเข้ามาเทรดคงเจ็บตัว
ทางด้านน้ำมันดิบ (CL) ขณะนี้น่าจะอยู่ในคลื่น 3 (สีน้ำตาล) ดังภาพ
แม้ว่าคลื่น 3 นี้จะดูหน้าตาประหลาด แต่ว่าเมื่อตีกรอบ SEC (standard error channel) เข้าไปแล้วจะพบว่าราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวอยู่ในกรอบ SEC ตราบใดที่ยังไม่หลุดกรอบล่างก็คงยังมองว่าเป็น uptrend ของคลื่น 3 อยู่ แต่ถ้าให้นับคลื่นย่อยลุงแมวน้ำก็ยังนับไม่ถูก คงต้องรอดูไปก่อน
มาดูอัตราส่วนของน้ำมันดิบกับเงินดอลลาร์ (oil-dollar ratio) ขณะนี้อยู่ที่ 1.01 (อัตราส่วนสูงสุดเคยไปถึง 2.01) ในขณะที่อัตราส่วนของทองคำกับเงินดอลลาร์ (gold-dollar ratio) ขณะนี้อยู่ที่ 13.59 (อัตราส่วนสูงสุดเคยไปถึง 16.24) ซึ่งหมายความว่าถ้าดัชนีดอลลาร์ สรอ ขึ้นต่อไป ราคาน้ำมันดิบน่าจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าราคาทองคำ
Tuesday, March 23, 2010
Monday, March 22, 2010
19/03/2010 * DJI, FTSE, DAX, BVSP, SSECI, NIX, BSESN, AORD, Currencies
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 774.59 จุด เพิ่มขึ้น 15.57 จุด หุ้นขึ้นต่อเนื่องมาหลายวัน ต่างชาติซื้อสุทธิมาประมาณ 20 วันแล้ว
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณซื้อ BCP ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 45 ตัว
กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ดัชนีดอลลาร์ สรอ กลับมาเกิดสัญญาณซื้ออีกครั้งหลังจากที่เกิดสัญญาณขายเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งลุงแมวน้ำประเมินว่าสัญญาณขายครั้งก่อนน่าจะเป็น false signal ครั้งนี้จึงเปิดสัญญาซื้อไป
ดัชนีต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ประเทศที่อยู่ในรายงานเป็นสัญญาณซื้อทั้งหมดโดยเกิดสัญญาณซื้อมาสิบกว่าวันแล้ว ยกเว้นเพียงดัชนีของจีนเพียงประเทศเดียวที่เป็นสัญญาณขาย
ดัชนี SET ของไทยขึ้นเอาๆ นักวิเคราะห์บอกว่าต่างชาติคลายกังวลเรื่องการเมือง แต่ลุงแมวน้ำมองว่าต่างชาติชินเสียแล้วและดูจะไม่ได้กังวลมาตั้งแต่ต้นเสียมากกว่า ดังจะเห็นได้จากดัชนี SET ขึ้นมาตั้งแต่ก่อนมีการชุมนุมประท้วงรัฐบาล ซึ่งการขึ้นในครั้งนี้เป็นไปตามกระแสโลกเพราะดัชนีสำคัญในภูมิภาคต่างๆของโลกก็ขึ้นกันหมด เราลองมาดูกัน
ดัชนี FTSE ของอังกฤษ เป็นสัญญาณซื้ออยู่ ทะลุผ่านจุดสูงสุดเดิมที่ทำเอาไว้เมื่อต้นต้นปี 2010 แล้ว
ดัชนี DAX ของเยอรมนี เป็นสัญญาณซื้ออยู่ และกำลังทดสอบจุดสูงสุดเดิมเมื่อเดือน มกราคม 2010 จะผ่านหรือไม่รอดูอีกไม่กี่วันน่าจะรู้
ดัชนีออลออร์ดิแนรีส์ (All Ordinaries) ของออสเตรเลีย เป็นสัญญาณซื้ออยู่ แต่ยังไม่ผ่านจุดสูงสุดเดิม
ดัชนีโบเวสปา (Bovespa Index หรือ Ibovespa) ของประเทศบราซิลก็เป้นสัญญาณซื้อ แต่ยังไม่ทำลายจุดสุงสุดเดิม
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต (Shanghai composite index) ของจีน เป็นสัญญาณขาย เป็นตลาดหลักทรัพย์สำคัญเพียงประเทศเดียวที่เป็นสัญญาณขาย ทั้งนี้ เนื่องจากมาตรการการชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจจีนด้วยการเข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อ รวมทั้งการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อดูดซับสภาพคล่อง
ดัชนีนิกเกอิ (Nikkei) ของประเทศญี่ปุ่น เป็นสัญญาณซื้อ และกำลังทดสอบจุดสูงสุดเดิมอยู่ เหลืออีกเพียงร้อยกว่าจุดก็จะผ่านได้แล้ว
ดัชนีเซนเซกซ์ (SENSEX) ของอินเดียก็กำลังจะทดสอบจุดสูงสุดเดิมและไม่กี่กี่วันก็น่าจะรู้ผลว่าจะทำจุดสูงสุดใหม่ได้หรือไม่
ทางด้านดัชนีดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Index, DJI) ซึ่งเป็นดัชนีที่กำหนดทิศทางของกระแสเศรษฐกิจโลก ก็เป็นสัญญาณซื้อ และผ่านจุดสูงสุดเดิมไปแล้ว
จากการนับคลื่นพบว่า เมื่อ DJI ผ่านจุดสูงสุดเดิมมาได้ ก็น่าจะกำลังอยู่ในคลื่น 5 (สีน้ำตาล) แต่เนื่องจากเรามีสมมติฐานว่าขณะนี้เราอยู่ในคลื่นใหญ่ B (สีน้ำเงิน) ซึ่งหากเป็นคลื่น B จริงจะมีคลื่น 4-5 (สีน้ำตาลไม่ได้) ดังนั้นประเด็นนี้จึงเป็นไปได้สองทางก็คือ
ประการแรก นับคลื่นย่อยผิดไป DJI ยังไม่จบคลื่น B ซึ่งหากเป็นกรณีนี้ดัชนีดาวโจนส์จะไปได้ไม่ไกลเกินกว่า 14,164.5 จุด
ความเป็นไปได้อีกประการหนึ่งคือการนับคลื่นใหญ่ผิด นั่นก็คือ DJI จบคลื่น A-B-C (สีน้ำเงิน) ไปแล้ว และขณะนี้เรากำลังอยู่ในคลื่นขาขึ้น 1-2-3-4-5 หากเป็นในกรณีนี้ดัชนีดาวโจนส์ขาขึ้นในรอบนี้จะไปได้ไกลเกินกว่า 14,164.5 จุด
มาดูด้านค่าเงินกันบ้าง ดังภาพ
ช่วงที่ผ่านมาเงินยูโรอ่อนตัวลงอันเนื่องจากปัญหาหนี้ของกรีซ ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น แต่ล่าสุดเงินยูโรกลับอ่อนตัวอีกทำให้เงินดอลลาร์กลับแข็งค่าขึ้น แต่เมื่อพิจารณาจากกราฟของ US Dollar index เงินดอลลาร์มีแนวโน้มเป็นขาขึ้นอยู่ ดังนั้นถึงอย่างไรน่าจะกลับมาแข็งค่าต่อไปได้อีก ส่วนเงินบาทนั้นมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นด้วยเช่นกันเมื่อพิจารณาจากกราฟ ส่วนทองคำแนวโน้มยังทรงๆเป็นภาวะไร้ทิศทางอยู่
เอาไว้วันพรุ่งนี้มาดูเรื่องทองคำและน้ำมันกันต่อ
สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณซื้อ BCP ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ 45 ตัว
กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ดัชนีดอลลาร์ สรอ กลับมาเกิดสัญญาณซื้ออีกครั้งหลังจากที่เกิดสัญญาณขายเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งลุงแมวน้ำประเมินว่าสัญญาณขายครั้งก่อนน่าจะเป็น false signal ครั้งนี้จึงเปิดสัญญาซื้อไป
ดัชนีต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ประเทศที่อยู่ในรายงานเป็นสัญญาณซื้อทั้งหมดโดยเกิดสัญญาณซื้อมาสิบกว่าวันแล้ว ยกเว้นเพียงดัชนีของจีนเพียงประเทศเดียวที่เป็นสัญญาณขาย
ดัชนี SET ของไทยขึ้นเอาๆ นักวิเคราะห์บอกว่าต่างชาติคลายกังวลเรื่องการเมือง แต่ลุงแมวน้ำมองว่าต่างชาติชินเสียแล้วและดูจะไม่ได้กังวลมาตั้งแต่ต้นเสียมากกว่า ดังจะเห็นได้จากดัชนี SET ขึ้นมาตั้งแต่ก่อนมีการชุมนุมประท้วงรัฐบาล ซึ่งการขึ้นในครั้งนี้เป็นไปตามกระแสโลกเพราะดัชนีสำคัญในภูมิภาคต่างๆของโลกก็ขึ้นกันหมด เราลองมาดูกัน
ดัชนี FTSE ของอังกฤษ เป็นสัญญาณซื้ออยู่ ทะลุผ่านจุดสูงสุดเดิมที่ทำเอาไว้เมื่อต้นต้นปี 2010 แล้ว
ดัชนี DAX ของเยอรมนี เป็นสัญญาณซื้ออยู่ และกำลังทดสอบจุดสูงสุดเดิมเมื่อเดือน มกราคม 2010 จะผ่านหรือไม่รอดูอีกไม่กี่วันน่าจะรู้
ดัชนีออลออร์ดิแนรีส์ (All Ordinaries) ของออสเตรเลีย เป็นสัญญาณซื้ออยู่ แต่ยังไม่ผ่านจุดสูงสุดเดิม
ดัชนีโบเวสปา (Bovespa Index หรือ Ibovespa) ของประเทศบราซิลก็เป้นสัญญาณซื้อ แต่ยังไม่ทำลายจุดสุงสุดเดิม
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต (Shanghai composite index) ของจีน เป็นสัญญาณขาย เป็นตลาดหลักทรัพย์สำคัญเพียงประเทศเดียวที่เป็นสัญญาณขาย ทั้งนี้ เนื่องจากมาตรการการชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจจีนด้วยการเข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อ รวมทั้งการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อดูดซับสภาพคล่อง
ดัชนีนิกเกอิ (Nikkei) ของประเทศญี่ปุ่น เป็นสัญญาณซื้อ และกำลังทดสอบจุดสูงสุดเดิมอยู่ เหลืออีกเพียงร้อยกว่าจุดก็จะผ่านได้แล้ว
ดัชนีเซนเซกซ์ (SENSEX) ของอินเดียก็กำลังจะทดสอบจุดสูงสุดเดิมและไม่กี่กี่วันก็น่าจะรู้ผลว่าจะทำจุดสูงสุดใหม่ได้หรือไม่
ทางด้านดัชนีดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Index, DJI) ซึ่งเป็นดัชนีที่กำหนดทิศทางของกระแสเศรษฐกิจโลก ก็เป็นสัญญาณซื้อ และผ่านจุดสูงสุดเดิมไปแล้ว
จากการนับคลื่นพบว่า เมื่อ DJI ผ่านจุดสูงสุดเดิมมาได้ ก็น่าจะกำลังอยู่ในคลื่น 5 (สีน้ำตาล) แต่เนื่องจากเรามีสมมติฐานว่าขณะนี้เราอยู่ในคลื่นใหญ่ B (สีน้ำเงิน) ซึ่งหากเป็นคลื่น B จริงจะมีคลื่น 4-5 (สีน้ำตาลไม่ได้) ดังนั้นประเด็นนี้จึงเป็นไปได้สองทางก็คือ
ประการแรก นับคลื่นย่อยผิดไป DJI ยังไม่จบคลื่น B ซึ่งหากเป็นกรณีนี้ดัชนีดาวโจนส์จะไปได้ไม่ไกลเกินกว่า 14,164.5 จุด
ความเป็นไปได้อีกประการหนึ่งคือการนับคลื่นใหญ่ผิด นั่นก็คือ DJI จบคลื่น A-B-C (สีน้ำเงิน) ไปแล้ว และขณะนี้เรากำลังอยู่ในคลื่นขาขึ้น 1-2-3-4-5 หากเป็นในกรณีนี้ดัชนีดาวโจนส์ขาขึ้นในรอบนี้จะไปได้ไกลเกินกว่า 14,164.5 จุด
มาดูด้านค่าเงินกันบ้าง ดังภาพ
ช่วงที่ผ่านมาเงินยูโรอ่อนตัวลงอันเนื่องจากปัญหาหนี้ของกรีซ ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น แต่ล่าสุดเงินยูโรกลับอ่อนตัวอีกทำให้เงินดอลลาร์กลับแข็งค่าขึ้น แต่เมื่อพิจารณาจากกราฟของ US Dollar index เงินดอลลาร์มีแนวโน้มเป็นขาขึ้นอยู่ ดังนั้นถึงอย่างไรน่าจะกลับมาแข็งค่าต่อไปได้อีก ส่วนเงินบาทนั้นมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นด้วยเช่นกันเมื่อพิจารณาจากกราฟ ส่วนทองคำแนวโน้มยังทรงๆเป็นภาวะไร้ทิศทางอยู่
เอาไว้วันพรุ่งนี้มาดูเรื่องทองคำและน้ำมันกันต่อ
Subscribe to:
Posts (Atom)