ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ (ทองคำ น้ำมันดิบ สินค้าเกษตร) ฟื้นตัว
วันนี้ลุงแมวน้ำเกี่ยวกับสัญญาณบางประการในกคลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ มีภาพมาฝากหลายภาพเช่นเคย เรามาดูกันทีละภาพ
จากกราฟ DBO เราจะเห็นว่าเมื่อน้ำมันดิบ WTI ร่วงมาอยู่ที่ 44 ดอล ในวันที่ 18 มีนาคม 2115 ราคาอีทีเอฟร่วงลงมาและเกิดแรงรับซื้อในปริมาณมาก ดูแท่งปริมาณซื้อขายจะเห้นว่าแรงซื้อโดดเด่น (volume spike) ขึ้นมา และหลังจากนั้นราคาก็ไม่ลงต่อ ทำให้เกิดเป็นรูปแบบท้องคลื่นคู่ (bouble bottom) สองกรณีนี้ประกอบกันบ่งชี้ว่าแนวรับทางจิตวิทยาที่ระดับนี้แข็งแรงมาก หากไม่มีเหตุการณ์พิเศษอื่นๆ ก็คาดว่าตรงนี้อาจเป็นจุดกลับแนวโน้มขาขึ้น
หากราคาน้ำมันดิบกลับเป็นขาขึ้นจริง WTI อาจไปได้ถึง 60-70 ดอลลาร์จากโมเมนตัมของแรงเก็งกำไร น่าจะทำให้ช่วงครึ่งหลังของปีมีอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี จะเป็นกลุ่มที่ดันดัชนี และแน่นอน ป้าเจนคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟดกลางปีนี้หรือปลายปี แต่ลุงคิดว่าขึ้นก็ดี ไม่ขึ้นก็ได้ ไม่ค่อยมีผลอะไรแล้ว
ต่อมาดูที่กราฟ DBA อันเป็นอีทีเอฟสินค้าเกษตร จะเห็นว่าในวันที่ 18 มีนาคม วันเดียวกับที่น้ำมันดิบเด้ง ราคาอีทีเอฟสินค้าเกษตรก็เด้ง และมีปริมาณซื้อขายพุ่งพรวด (volume spike) ทำนองเดียวกับน้ำมันดิบ แสดงว่าระดับราคาแถวนี้เป็นแนวรับทางจิตวิทยาที่สำคัญมาก และเป็นไปได้ว่าราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกจะฟื้นตัวขึ้นและกลับเป็นแนวโน้มขาขึ้นแล้ว
หากสินค้าเกษตรในตลาดโลกขึ้น (ส่วนใหญ่เป็นพวกถั่วเหลือง ข้าวโพด ข้าวสาลี โกโก้ กาแฟ น้ำตาล ฝ้าย ฯลฯ) โมเมนตัมนี้มาจากราคาน้ำมันดิบ ก็จะช่วยให้ราคาพืชผลเกษตรโดยรวมดีขึ้น ราคายางพารา น้ำมันปาล์ม น่าจะดีขึ้น จะดีมากหรือน้อยก็ตาม แต่น่าจะทำให้เกษตรกรไทยหายใจได้คล่องขึ้น ยกเว้นข้าว ลุงไม่ค่อยแน่ใจนัก เพราะแข่งขันราคากันหนัก >.<
ทีนี้ก็มาดูราคาทองคำ ดูกราฟ GC ผลจากดอลลาร์ สรอ อ่อนค่าทำให้ราคาทองคำขึ้น แต่เท่าที่ลุงสังเกต ราคาทองคำปรับตัวแรงกว่าการอ่อนค่าของดอลลาร์ แปลว่ามีแรงเก็งกำไรเข้ามาในทองคำค่อนข้างเยอะ
ประกอบกับตอนนี้เงินคิวอีล้นโลก เงินดอลลาร์ สรอ ที่ทำคิวอียังไม่ได้เก็บกลับ ยังหมุนเวียนอยู่ในตลาด เงินคิวอีญี่ปุ่นกับยูโรไหลเพิ่มเข้ามาในตลาด แต่ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เก็งกำไรได้จำกัดแล้ว ดังนั้น แรงเก็งกำไรส่วนหนึ่งจึงย้ายมาในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์เพราะตกต่ำมาหลายปีแล้ว อาจเป็นการเก็งกำไรในช่วงเพียงไม่กี่เดือน แต่การขึ้นก็มีกรอบการขึ้นที่จำกัด เช่น น้ำมันดิบคงไม่เกิน 70 ดอล ทองคำคงไม่เกิน 1340 ดอล แต่เงินไม่มีที่ไปน่ะ ดังนั้นตลาดไหนพอมีช่องทางให้เก็งกำไรได้เงินก็จะไหลไป
ดังนั้นลุงแมวน้ำมองว่าตลาดกระทิงน่าจะมาแล้ว เร็วกว่าที่คิดสองสามเดือน กระจายไปทั้งตลาดหุ้นในตลาดเกิดใหม่เอเชียกับสินค้าโภคภัณฑ์ ตลาดหุ้นไทยและเศรษฐกิจไทยจะได้อานิสงส์ไปด้วย ส่วนตลาดหุ้นอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น คงขึ้นได้นิดหน่อย ไม่แรงเท่าเอเชีย ติดแนวต้านบ้างอะไรบ้างก็ย่อตัวลงไปแล้วขึ้นต่อ
ดัชนีเซ็ต SET Index อาจเห็น 1700 จุดในปี 2015
สำหรับตลาดหุ้นไทย ดูกราฟ SET หากเป็นไปตามสมมติฐานข้างบนนี้ ดัชนีคงไปที่ 1700 จุดได้ในปีนี้ แต่ลุงแมวน้ำไม่ได้มองแค่นั้น ลุงแมวน้ำตีตั๋วนั่งรถไฟสาย 2000 อยู่ ยังไม่เปลี่ยน ภายในสองสามปีคงเห็น ^_^
ลองติดตามดูกันนะคร้าบ อีกไม่นานสภาพความจริงจะยืนยัน
5 comments:
ขอบคุณครับ วิเคราะห์เยี่ยมจริงๆครับ ถ้าไงวิเคราะห์รายตัวด้วยได้ไหมครับ ว่าตัวไหนดียังไง เพราะอะไร จะได้พอมีแนวทางศึกษาที่ถูกต้องบ้างครับ
วิเคราะห์รายตัวลุงก็ทำบ้างเป็นกรณีศึกษา ส่วนใหญ่ยกตัวอย่างรายตัวเมื่อมองลงไปในระดับกลุ่มอุตสาหกรรม แต่ถ้ามองภาพรวมในระดับประเทศหรือระดับภูมิภาคมักไม่ค่อยได้ลงถึงหุ้นรายตัว ดูแค่ดัชนีตลาดหุ้น
สนใจตัวไหนลองยกมาคุยกันสิคร้าบ
TSE ตัวนี้เป็นยังไงบ้างครับ ดูเหมือนว่ากำลังจะล้างขาดทุนสะสมนะครับ
TSE : บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นเข้าใหม่เมื่อปีที่แล้ว ยังใหม่เกินไปลุงยังดูไม่ออกคร้าบ
ขอบคุณครับ
Post a Comment