วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 1,060.21 จุด เพิ่มขึ้น 17.67 จุด
หุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่รวมทั้งสิ้น 21 ตัว
กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย
ตลาดต่างประเทศ วันนี้ตลาดย่านเอเชียส่วนใหญ่ปิดบวก ส่วนตลาดยุโรปและอเมริกาส่วนใหญ่ปิดลบ เยอรมนีปิดลบไปกว่า -5.1% ส่วนดาวโจนส์ลบไป -4.6%
Wednesday, August 17, 2011
Thursday, August 11, 2011
09/08/2011 * ปรับมุมมองสินค้าเกษตรเป็นแนวโน้มขาลง
วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 1,042.54 จุด ลดลง 35.65 จุด หรือ 3.31% ต่างชาติมียอดขายสุทธิ 9,000 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยตอบสนองต่อข่าวสหรัฐอเมริกาถูกปรับลดอันดับเครดิตและดัชนีดาวโจนส์ที่ร่วงแรง ดัชนี SET, SET50 เกิดสัญญาณขายแล้ว
หุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้มีสัญญาณขาย BBL, BTS, ESSO, LH, STA, TCAP, TOP, TPIPL ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่รวมทั้งสิ้น 21 ตัว เนื่องจากลุงแมวน้ำปรับลมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเป็นขาลงไปแล้ว ดังนั้นในครั้งนี้เมื่อ S50 เกิดสัญญาณขายจึงปิดสัญญาซื้อและเปิดสัญญาขายไปด้วย
กลุ่มฟิวเจอร์ส ตลาดภายในประเทศไทย วันนี้มีสัญญาณขาย S50, BBL, ITD, TTA, กลุ่มฟิวเจอร์สตลาดต่างประเทศ ยางตลาดโตคอม (Tocom rubber), โลหะเงิน (SI) เกิดสัญญาณขาย วันนี้ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงต่ำกว่า 80 ดอลลาร์/บาเรลแล้ว
กองทุนอีทีเอฟ TDEX ที่ลงทุนอิงดัชนี SET50 ของตลาดหุ้นไทยเกิดสัญญาณขาย
ตลาดต่างประเทศ หลังจากที่เมื่อคืนดัชนีดาวโจนส์ของสหรัฐอเมริกาปรับตัวลงแรง -5.5% วันนี้ตลาดหุ้นเอเชียจึงร่วงตาม ส่วนใหญ่ปิดแดง ติดลบตั้งแต่ -1% ถึง -5% ดัชนีหั่งเส็งของฮ่องกงปิดแดงไป -5.7% ส่วนดัชนี CSI 300 ของตลาดหุ้นจีนสามารถปิดบวกได้แม้จะบวกเล็กน้อยก็ตาม
ต่อมาตลาดฝั่งยุโรปที่เปิดและปิดหลังจากตลาดหุ้นเอเชียสามารถปิดเขียวได้เป็นส่วนใหญ่ และต่อมาเมื่อตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาเปิดก็มีการรีบาวด์อย่างแรงจากข่าวที่เฟดหรือธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาจะตรึงอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำ 0% ถึง 0.25% ไปตลอดระยะเวลาสองสามปีข้างหน้า ทำให้ดัชนี DJI ปิดบวกไปราว 430 จุด (+4%)
หลายสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาสินค้าเกษตรอ่อนตัวมาตลอด สาเหตุหนึ่งเกิดจากราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวค่อนข้างมาก ดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ก็อ่อนตัว ยกเว้นเพียงทองคำที่ทำสถิติใหม่อยู่เรื่อยๆ
มาดูกราฟราคาสินค้าเกษตรกันโดยดูจากกราฟของกองทุนอีทีเอฟ DBA ที่อิงดัชนีสินค้าเกษตรอันเป็นดัชนีที่คำนวณจากสินค้าเกษตรหลัก 7 ชนิด อาทิ ข้าวโพด ข้าวสาลี ถั่วเหลือง โกโก้ ฝ้าย ฯลฯ ดังภาพต่อไปนี้
จะเห็นว่าราคาในรอบหลายเดือนมานี้อยู่ภายในกรอบ SEC สีดำมาตลอด ต่อมามีการสร้างรูปแบบทางเทคนิคเหมือนกับจะกลับทิศเป็นขาขึ้น (ตามกรอบ SEC สีน้ำเงิน) แต่แล้วก็ไม่สำเร็จ ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงมีความเห็นว่าแนวโน้มของราคาสินค้าเกษตรในขณะนี้เป็นแนวโน้มขาลง และราคาอาจลงไปต่อไปได้มากกว่านี้อีก
มาดูดัชนีสินค้าเกษตรกันอีกดัชนีหนึ่ง นั่นคือ Dow Jones UBS Agriculture Index (DJUBSAG) ดังภาพต่อไปนี้
จะเห็นว่าในระยะหลายเดือนที่ผ่านมาแนวโน้มดัชนีสินค้าเกษตรนี้ก็เป็นขาลงโดยที่ยังไม่สามารถกลับทิศแนวโน้มได้เช่นกัน
ส่วนยางพารานั้นแม้เป็นพืชผลการเกษตร แต่เป็นสินค้าอุตสาหกรรม ในรอบหลายเดือนมานี้ราคาก่อตัวเป็นรูปแบบสามเหลี่ยมชายธง ดังภาพต่อไปนี้
โดยหลักการแล้วต้องรอให้ราคาทะลุปลายชายธงเสียก่อนจึงจะรู้ว่าทิศทางต่อไปเป็นแนวโน้มใด แต่ลุงแมวน้ำพิจารณาดัชนีราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในแนวโน้มขาลง จึงประเมินว่าราคายางพารา (RSS3) น่าจะแกว่งต่อไปอีกไม่นานจากนั้นราคาน่าจะลงมากกว่าขึ้น จึงมองเป็นแนวโน้มขาลงมากกว่า
หุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้มีสัญญาณขาย BBL, BTS, ESSO, LH, STA, TCAP, TOP, TPIPL ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่รวมทั้งสิ้น 21 ตัว เนื่องจากลุงแมวน้ำปรับลมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเป็นขาลงไปแล้ว ดังนั้นในครั้งนี้เมื่อ S50 เกิดสัญญาณขายจึงปิดสัญญาซื้อและเปิดสัญญาขายไปด้วย
กลุ่มฟิวเจอร์ส ตลาดภายในประเทศไทย วันนี้มีสัญญาณขาย S50, BBL, ITD, TTA, กลุ่มฟิวเจอร์สตลาดต่างประเทศ ยางตลาดโตคอม (Tocom rubber), โลหะเงิน (SI) เกิดสัญญาณขาย วันนี้ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงต่ำกว่า 80 ดอลลาร์/บาเรลแล้ว
กองทุนอีทีเอฟ TDEX ที่ลงทุนอิงดัชนี SET50 ของตลาดหุ้นไทยเกิดสัญญาณขาย
ตลาดต่างประเทศ หลังจากที่เมื่อคืนดัชนีดาวโจนส์ของสหรัฐอเมริกาปรับตัวลงแรง -5.5% วันนี้ตลาดหุ้นเอเชียจึงร่วงตาม ส่วนใหญ่ปิดแดง ติดลบตั้งแต่ -1% ถึง -5% ดัชนีหั่งเส็งของฮ่องกงปิดแดงไป -5.7% ส่วนดัชนี CSI 300 ของตลาดหุ้นจีนสามารถปิดบวกได้แม้จะบวกเล็กน้อยก็ตาม
ต่อมาตลาดฝั่งยุโรปที่เปิดและปิดหลังจากตลาดหุ้นเอเชียสามารถปิดเขียวได้เป็นส่วนใหญ่ และต่อมาเมื่อตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาเปิดก็มีการรีบาวด์อย่างแรงจากข่าวที่เฟดหรือธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาจะตรึงอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำ 0% ถึง 0.25% ไปตลอดระยะเวลาสองสามปีข้างหน้า ทำให้ดัชนี DJI ปิดบวกไปราว 430 จุด (+4%)
ปรับมุมมองสินค้าเกษตรเป็นแนวโน้มขาลง
หลายสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาสินค้าเกษตรอ่อนตัวมาตลอด สาเหตุหนึ่งเกิดจากราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวค่อนข้างมาก ดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ก็อ่อนตัว ยกเว้นเพียงทองคำที่ทำสถิติใหม่อยู่เรื่อยๆ
มาดูกราฟราคาสินค้าเกษตรกันโดยดูจากกราฟของกองทุนอีทีเอฟ DBA ที่อิงดัชนีสินค้าเกษตรอันเป็นดัชนีที่คำนวณจากสินค้าเกษตรหลัก 7 ชนิด อาทิ ข้าวโพด ข้าวสาลี ถั่วเหลือง โกโก้ ฝ้าย ฯลฯ ดังภาพต่อไปนี้
จะเห็นว่าราคาในรอบหลายเดือนมานี้อยู่ภายในกรอบ SEC สีดำมาตลอด ต่อมามีการสร้างรูปแบบทางเทคนิคเหมือนกับจะกลับทิศเป็นขาขึ้น (ตามกรอบ SEC สีน้ำเงิน) แต่แล้วก็ไม่สำเร็จ ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงมีความเห็นว่าแนวโน้มของราคาสินค้าเกษตรในขณะนี้เป็นแนวโน้มขาลง และราคาอาจลงไปต่อไปได้มากกว่านี้อีก
มาดูดัชนีสินค้าเกษตรกันอีกดัชนีหนึ่ง นั่นคือ Dow Jones UBS Agriculture Index (DJUBSAG) ดังภาพต่อไปนี้
จะเห็นว่าในระยะหลายเดือนที่ผ่านมาแนวโน้มดัชนีสินค้าเกษตรนี้ก็เป็นขาลงโดยที่ยังไม่สามารถกลับทิศแนวโน้มได้เช่นกัน
ส่วนยางพารานั้นแม้เป็นพืชผลการเกษตร แต่เป็นสินค้าอุตสาหกรรม ในรอบหลายเดือนมานี้ราคาก่อตัวเป็นรูปแบบสามเหลี่ยมชายธง ดังภาพต่อไปนี้
โดยหลักการแล้วต้องรอให้ราคาทะลุปลายชายธงเสียก่อนจึงจะรู้ว่าทิศทางต่อไปเป็นแนวโน้มใด แต่ลุงแมวน้ำพิจารณาดัชนีราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในแนวโน้มขาลง จึงประเมินว่าราคายางพารา (RSS3) น่าจะแกว่งต่อไปอีกไม่นานจากนั้นราคาน่าจะลงมากกว่าขึ้น จึงมองเป็นแนวโน้มขาลงมากกว่า
Subscribe to:
Posts (Atom)