โอบามาแคร์ ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า นโยบายสำคัญของพรรคเดโมแครต คนชอบก็มาก คนชังก็เยอะ |
ช่วงหลังลุงแมวน้ำอัปเดตทางเฟซบุ๊กมาสักพักหนึ่งแล้ว เพราะว่าทำง่ายและคล่องตัวดี การปรับปรุงเว็บบล็อกทำได้ยากกว่า แต่การอัปเดตทาง FB ก็ทำได้สะดวกเฉพาะประเด็นสั้นๆ หากมีภาพประกอบเยอะ ลุงแมวน้ำก็ยังเลือกใช้เว็บบล็อกในการพูดคุยกันมากกว่า
วันนี้เรามาคุยกันหลายเรื่อง เรื่องแรกคือประเด็นอเมริกาชัตดาวน์หรือภาวะรัฐบาลเงินชอร์ตจนหน่วยราชการบางส่วนต้องปิดทำการ
ลุงแมวน้ำทบทวนประเด็นนี้สั้นๆละกัน เพราะคิดว่าพวกเราคงหาอ่านได้ไม่ยาก เรื่องของเรื่องก็คือตอนนี้รัฐบาลเงินขาดมือ รายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง เดิมทีอาศัยการกู้เงินมาเสริมสภาพคล่อง แต่ก็มาติดที่ว่ากู้เงินจนเต็มเพดานแล้ว กู้อีกไม่ได้ ทางออกก็คือต้องแก้ไขกฎหมายเพื่อขยายเพดานหนี้ ให้สามารถก่อหนี้ได้มากขึ้น จะได้กู้เงินต่อไปได้
แต่เนื่องจากการเมืองของอเมริกาตอนนี้ ประธานาธิบดีหรือว่าน้าโอบามาเป็นฝ่ายพรรคเดโมแครต และสมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่ก็เป็นพรรคเดโมแครต แต่ว่าสมาชิกสภาผู้แทนส่วนใหญ่เป็นฝ่ายพรรครีพับลิกัน เมื่อรัฐบาลกับสภาล่างหรือสภาผู้แทนเป็นคนละพวกกันก็ทำงานได้ยาก
กฎหมายสำคัญของรัฐบาลพรรคเดโมแครตฉบับหนึ่งก็คือกฎหมายที่เรารู้จักกันในชื่อเล่นว่าโอบามาแคร์ กฎหมายนี้ก็คือกฎหมายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้านั่นเอง
ตอนนี้หลักประกันสุขภาพของประชาชนคนอเมริกันก็คือการซื้อประกันสุขภาพ ซึ่งคนมีเงินก็ซื้อได้ แต่ว่าคนจนซื้อไม่ไหวเพราะว่าเลี้ยงปากท้องยังไม่พอ จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อประกันสุขภาพ ดังนั้นคนอเมริกันที่ยากจนหลายสิบล้านคนจึงไม่มีประกันสุขภาพ พวกนี้หากเจ็บป่วยขึ้นมาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะว่าค่ารักษาพยาบาลในอเมริกาแพงมาก
พรรคเดโมแครตก็พยายามออกกฎหมายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามาเป็นสิบปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมามีเอาสมัยน้าโอบามา โดยสาระสำคัญของกฎหมายนี้คือ ใครที่ยากจนรัฐจะอุดหนุนเงินให้เพื่อเอาไปซื้อประกันสุขภาพ จะได้มีประกันสุขภาพกันทุกคน แต่พรรคเดโมแครตไม่เคยผลักดันกฎหมายนี้ได้สำเร็จ เพราะว่าพรรครีพับลิกันซึ่งเป็นพรรคของชนชั้นกลางและสูงไม่เอาด้วย เนื่องจากไม่ต้องการเอาเงินภาษีอากรจำนวนมากไปอุ้มคนจน ก็เพิ่งจะมาสำเร็จเอาในยุคน้าโอบามานี่เอง
แต่กฎหมายฉบับนี้มีวิบากกรรม เกือบจะได้บังคับใช้อยู่แล้ว พรรครีพับลิกันที่กุมเสียงสภาล่างส่วนใหญ่อยู่พยายามเตะสกัดแต่ก็ไม่สำเร็จ ก็บังเอิญมามีเรื่องรัฐบาลขาดสภาพคล่องเพราะกู้เต็มเพดานหนี้แล้ว เมื่อจะขยายเพดานเงินกู้ จึงทำให้เกิดการต่อรองกันระหว่างพรรคเดโมแครตต้นสังกัดของน้าโอบามากับพรรครีพับลิกันที่มีฐานเสียงหลักเป็นกลุ่มชนชั้นกลาง โดยตัวประกันของการต่อรองนี้ก็คือกฎหมายประกันสุขภาพถ้วนหน้าโอบามาแคร์นี่เอง แต่ต่อรองกันยังไม่สำเร็จเพราะเรื่องมันยาวมาก แต่เงินก็ขาดมืออยู่ พรรคเดโมแครตกับรีพับลิกันก็เลยตกลงกันว่าถ้ายังงั้นออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวกันก่อนละกัน โดยกฎหมายนี้ไม่ได้ทำให้ก่อหนี้เพิ่ม แต่ช่วยในแง่ให้รัฐบาลสามารถดึงเงินรายได้บางส่วนมาใช้ได้ก่อน
กฎหมายงบประมาณชั่วคราวนี้ใช้มาแล้วฉบับหนึ่ง ก็มีสภาพคล่องมาได้ชั่วระยะหนึ่ง มาตอนนี้เงินสดขาดมืออีกแล้ว ก็ต้องอาศัยกฎหมายงบประมาณชั่วคราวอีกฉบับ ซึ่งเป็นฉบับที่เป็นเรื่องกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง เนื่องจากสภาล่างผ่านกฎหมายนี้แต่ว่ามีการแปรญัตติ (ฝีมือพรรครีพับลิกันนั่นเอง) ให้เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายโอบามาแคร์ไปอีกหนึ่งปี
กฏหมายงบประมาณชั่วคราวนี้จึงเป็นเหมือนกฎหมายที่วางยาพรรคเดโมแครตเอาไว้เนื่องจากพ่วงเรื่องการเลื่อนบังคับใช้กฎหมายโอบามาแคร์ไว้ด้วย แน่นอน พรรคเดโมแครตก็ไม่เอา เพราะต้องการบังคับใช้โอบามาแคร์ทันที น้าโอบามาบอกว่าหากจะต่อรองเรื่องโอบามาแคร์ก็ไม่ต้องคุยกัน
ดังนั้น ในขั้นตอนการอนุมัติกฎหมายของวุฒิสภา (ซึ่งพรรคเดโมแครตกุมเสียงข้างมากอยู่) วุฒิสภาจึงไม่เห็นชอบกับกฎหมายฉบับนี้ เป็นไงเป็นกัน เมื่อต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อ ก็แปลว่าคราวนี้เงินต้องชอร์ตจริงๆ
เมื่อกฎหมายงบประมาณชั่วคราวไม่ผ่าน ปัญหาเรื่องรัฐบาลเงินชอร์ตก็แก้ไม่ตก เมื่อเงินชอร์ตก็ปล่อยให้ชอร์ตไป ก็ต้องปิดหน่วยงานบางส่วนลงเพื่อรักษากระแสเงินสดที่มีเหลือเพียงน้อยนิดเอาไว้ รวมทั้งน้าโอบามาเองยังงดเดินทางไปเยือนต่างประเทศเพื่อต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย
การต่อรองทางการเมืองในครั้งนี้ ตอนนี้เปรียบเสมือนรีพับลิกันกำลังตัดไม้ข่มนามเดโมแครต เพราะว่ากฎหมายงบประมาณชั่วคราวนี้เป็นแค่หนังตัวอย่าง หนังฉายจริงคือกฎหมายขยายเพดานหนี้ที่จะเข้าสภาในเร็วๆนี้ หากฎหมายขยายเพดานหนี้ผ่านสภาไม่ได้ ปัญหาจะบานปลายใหญ่กว่าตอนนี้มากนัก อย่างเช่น พันธบัตรรัฐบาลอาจต้องผิดนัดชำระหนี้ หรือพันธบัตรเด้งได้ นอกจากนี้ประเทศยังอาจถูกลดอันดับเครดิต ฯลฯ ดังนั้นคงต้องรอดูกันไปก่อนว่าฝ่ายการเมืองจะเจรจาต่อรองกันได้มากน้อยเพียงใด
แนวโน้มราคาทองคำ และเงินดอลลาร์ สรอ ยูโร และเยน
เมื่อรู้ที่มาที่ไปของความปั่นป่วนในสหรัฐอเมริกาแล้ว คราวนี้มาดูค่าเงินกับราคาทองคำกัน ดูภาพตามไปเลยคร้าบ ภาพมาก่อน คำบรรยายตามหลัง
หากมองในแง่ปัจจัยพื้นฐาน เงินดอลลาร์ สรอ ก็น่าจะอ่อนค่า เพราะว่าตอนนี้รัฐบาลเสี่ยงที่จะเสียเครดิตการเงิน ประกอบกับลุงเบนยังไม่ลดวงเงินอัดฉีด ดังนั้นดอลลาร์ สรอ จึงอ่อนค่าลง
เงินยูโร แนวโน้มใหญ่เป็นขาลงอยู่ แนวโน้มกลางเป็นขาขึ้น และกำลังพยายามฝ่าด่านอยู่ ล่าสุดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เงินยูโรผ่านแนวต้านสำคัญพร้อมทั้งเกิดหน้าต่างขาขึ้น (rising window) ล่าสุดยังแข็งค่าต่อเนื่อง
จับตาดูกันต่อไป ค่าเงินยูโรนี้เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญ หากเงินยูโรสามารถแข็งค่าผ่าน 1.3700 ยูโร/ดอลลาร์ สรอ ได้ก็เท่ากับว่าฝ่าแนวต้านสำคัญและทะลุกรอบขาลงใหญ่ได้สำเร็จ เงินยูโรก็จะเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นใหญ่ และแปลว่าเงินดอลลาร์ สรอ จะอ่อนตัวลงอีกมาก
เงินเยน ตอนนี้กำลังทะลุปลายสามเหลี่ยมชายธงขึ้นมา หากทะลุได้จริง ก็แปลว่าในระยะสั้นเงินเยนมีแนวโน้มแข็งค่า
เงินเยน แนวโน้มใหญ่ของเงินเยนเป็นขาขึ้น คือเป็นแนวโน้มแข็งค่า แต่ผลจากนโยบายอัดฉีดเงินจำนวนมหาศาลของนายกรัฐมนตรีอาเบะ ซึ่งก็คือเป็นคิวอีฉบับญี่ปุ่นนั่นเอง ทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง หากเทียบเคียงกับมาตรการคิวอีของลุงเบนแล้ว คิวอีของลุงอาบะน่าจะทำให้เงินเยนกลับทิศเป็นแนวโน้มใหญ่ขาลง
แต่ว่าจากรูปแบบทางเทคนิคกลับไม่เป็นเช่นนั้น ตอนนี้รูปแบบแนวโน้มใหญ่ยังไม่เปลี่ยน นั่นคือเงินเยนยังมีแนวโน้มใหญ่และแนวโน้มระยะสั้นเป็นแนวโน้มแข็งค่าอยู่ ดังนั้นใครที่คิดว่าในระยะยาวเงินเยนต้องอ่อนค่า ลุงแมวน้ำบอกว่าไม่แน่ รูปแบบทางเทคนิคยังไม่เป็นยังงั้น
ทองคำ ราคาทองคำนี่ก็แปลก ธรรมชาติของราคาทองคำสวนทางกับเงินดอลลาร์ สรอ แต่ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา เงินดอลลาร์ สรอ อ่อนค่า พร้อมไปกับราคาทองคำที่อ่อนตัวลง ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น คือปรากฏการณ์เงินดอลลาร์ สรอ กับราคาทองคำคล้อยตามกันนั้นเกิดขึ้นได้แต่ไม่ควรนานนัก
สำหรับกรณีเช่นตอนนี้ ลุงแมวน้ำก็ว่าผิดปกติ สัปดาห์ที่แล้ว SPDR gold trust ซึ่งเป็นกองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก ก็ยังขายสุทธิอยู่ นักวิเคราะห์บางคนตั้งสมมติฐานว่าอเมริกากดราคาทองคำลงเพื่อพยุงค่าเงินดอลลาร์ สรอ เอาไว้ เพราะตามจริงแล้ว ดอลลาร์ สรอ ควรจะอ่อนค่ามากกว่านี้ แต่เนื่องจากราคาทองคำร่วงลง จึงช่วยชะลอเงินดอลลาร์ สรอ ไม่ให้อ่อนค่าเร็วนัก ซึ่งเรื่องนี้จะจริงหรือไม่คงไม่มีใครยืนยันได้ แต่ในทางเทคนิค ตอนนี้ทองคำเป็นแนวโน้มขาลงอยู่
ระวังเอาไว้บ้าง สองวันมานี้ ราคาทองคำร่วงแรงตามมาด้วยขึ้นแรง คือเกิดแท่งเทียนดำใหญ่ แล้วตามติดมาด้วยแท่งเทียนขาวใหญ่ แปลว่าอาจกลับทิศได้
แนวโน้มเงินบาท
เงินบาทจะไปทางไหน จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค เงินบาทแข็งค่าจนหลุดเส้นแนวโน้มและเกิดช่อง (gap) แม้ว่าหลังจากนั้นจะอ่อนค่าลง แต่สิบวันแล้วก็ยังอ่อนค่ามาปิดช่องไม่ได้ ดังนั้นต้องมองว่าที่เงินบาทอ่อนค่าในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นเพียงการเด้งชั่วคราว แนวโน้มน่าจะแข็งค่าต่อไป
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยน่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดของช่วงนี้มาแล้ว เมื่อพิจารณาจากเครื่องมือด้านโมเมนตัม ตอนนี้อยู่ในภาวะไร้ทิศทาง แต่หากพิจารณาด้วยการนับคลื่น เราน่าจะอยู่ในคลื่นขาขึ้น ส่วนจะจบคลื่น 4 แล้วหรือไม่ยังยากตอบได้ เพราะว่าคลื่น 4 น่าเวียนหัว อาจไม่จบง่ายๆ
หากเงินบาทแข็งค่าก็จะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นไทยในแง่มีเงินทุนไหลเข้ามา รวมทั้งน่าจะมีส่วนช่วยให้ตลาดหุ้นเข้าสู่คลื่น 5 ได้เร็วขึ้น
ทางที่ดีก็ดูไปกันทีละด่าน ตอนนี้เราผ่าน 1400 จุดมาแล้ว ต่อไปก็ดูที่ด่าน 1513 จุด ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญ และเป็นยอดคลื่น B เดิม หากผ่านได้แปลว่าน่าจะเข้าคลื่น 5 แล้ว คราวนี้ไปโลด ^_^
ยังคร้าบ ยังอาจไม่โลด เพราะว่าปัจจัยเสี่ยงหรือว่าภัยคุกคามของตลาดหุ้นไทยยังมีอยู่ นั่นคือ เรื่องการเมือง ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ความเสี่ยงทางการเมืองยังมากอยู่ ทางโหราศาสตร์ก็บอกว่า ตอนนี้ดาวเสาร์กับราหูกำลังเล็งลัคนาดวงเมืองอยู่ อาจเกิดเรื่องไม่คาดหมายได้ นี่ลุงแมวน้ำเอาทุกศาสตร์มาวิเคราะห์เลยนะเนี่ย ^_^ ดังนั้นก็เผื่อทางหนีทีไล่เอาไว้ด้วย