Tuesday, April 2, 2013

02/04/2013 * สรุปภาวะตลาดเดือนมีนาคม แนวโน้มโลกชะลอตัว

ลุงแมวน้ำไม่ได้รายงานสถานการณ์การลงทุนมาเสียนาน สาเหตุก็เนื่องมาจากฐานข้อมูลมีปัญหา แล้วยังไม่ได้ซ่อมเสียที ช่วงหลังเว็บยาฮูรวนบ่อยๆ ทำให้ข้อมูลมีปัญหาอยู่เรื่อยๆ แต่ตอนนี้แก้ไขเสร็จแล้ว เลยออกรายงานเดือนมีนาคมมาให้ดูกัน

ภาพรวมของตลาดหุ้นทั่วโลกในเดือนมีนาคมเริ่มแสดงอาการชะลอตัวลง หากเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ก็จะเห็น คือการเปลี่ยนแปลงเป็นแบบขึ้นๆลงๆ ไม่ใช่การขึ้นต่อเนื่อง แสดงว่าภาพใหญ่เริ่มชะลอตัวลงแล้ว ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของอเมริกาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ดัชนีตัวนี้คำนวณจากหุ้น 30 ตัว ส่วนดัชนี S&P 500 ของอเมริกาเช่นกัน ที่คำนวณจากหุ้น 500 ตัว ทำจุดสูงสุดใหม่ได้เมื่อตอนสิ้นเดือนมีนาคมนี้เอง แต่ว่ายืนไม่อยู่ และลุงแมวน้ำคาดว่าตลาดหุ้นอาจปรับตัวลงทั่วโลกในเดือนเมษายนคือเดือนนี้แหละ

ภาพรวมของตลาดหุ้นกลุ่มยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลง กลุ่มละตินอเมริกาหรือว่าอเมริกาใต้ก็ปรับตัวลง โดยเฉพาะตลาดหุ้นอาร์เจนตินาหวือหวามาก ขึ้นลงเดือนละ 10% ทีเดียว

ตลาดหุ้นย่านเอเชียเดือนมีนาคมปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หากดูในรายประเทศเริ่มมีการปรับตัวลงในบางประเทศ โดยเฉพาะจีนปรับตัวลงค่อนข้างแรง ซึ่งการปรับตัวลงของตลาดหุ้นจีนนี้แม้ดูไม่ค่อยกระทบกับตลาดหุ้นอื่นๆ แต่ที่จริงแล้วมีผลกระทบกับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์มากเหมือนกัน โดยเฉพาะตลาดสินค้าเกษตร ถ้าจีนมีการบริโภคหดตัวลง ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหลายโดยเฉพาะสินค้าเกษตรจะร่วงตามไปด้วย รวมทั้งราคายางพารา

สำหรับตลาดหุ้นไทย เมื่อเดือนมีนาคม ดัชนี SET ปรับตัวขึ้น 1% แต่หุ้นที่เกิดสัญญาณขายเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบการกราฟของดัชนี SET ผ่าน 1600 จุดแต่ไม่สามารถยืนอยู่ได้ รวมทั้งดัชนีตลาดหุ้นของอเมริกาเริ่มส่อเค้าว่าจะปรับตัวลง ดังนั้นลุงแมวน้ำคาดว่าในเดือนเมษายนนี้ตลาดหุ้นไทยน่าจะปรับตัวลงไปชั่วระยะหนึ่ง โดยคลื่นขาลงชุดนี้อาจอยู่ในรูปสามเหลี่ยมชายธงก็ได้ คือเด้งขึ้นเด้งลงในกรอบชายธงไปก่อน จากนั้นค่อยหลุดชายธงลงมา การลงรอบนี้หากประเมินด้วยเครื่องมือทางเทคนิคคือฟิโบนาชชีเป้าหมาย (fibonacci targetting) อาจลงไปถึง 1290-1350 จุดก็ได้ ดังนั้นนักลงทุนควรระวัง

สินค้าโภคภัณฑ์โดยรวมตลาดยังไม่เล่นกัน ตอนนี้มาเน้นกันที่ตลาดหุ้น ดังนั้นสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆจึงไม่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นราคาทองคำ น้ำมันดิบ ล้วนแต่แกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบ ลักษณะเป็นตลาดไร้ทิศทางอยู่ แต่เมื่อไรที่ตลาดหุ้นปรับตัวลง สินค้าโภคภัณฑ์พวกนี้จะร่วงตามไปด้วย ดังนั้นลุงแมวน้ำคิดว่ายังไม่น่าเทรด ควรหลีกเลี่ยงชั่วคราว ยกเว้นอยู่อย่างเดียว คือราคาน้ำมันดิบ หากมีกรณีสงครามรบพุ่งกัน ราคาน้ำมันดิบอาจปรับตัวขึ้น แต่ก็พูดเผื่อไว้เท่านั้นเอง กรณีเกาหลีเหนือที่ออกมาแสดงท่าทีเกเรนั้นยังไม่มีน้ำหนักต่อราคาน้ำมันดิบ

ด้านสินค้าเกษตร เมื่อเดือนมีนาคมปรับตัวลง -2.4% จากนั้นตอนสิ้นเดือนมีนาคมต่อเนื่องต้นเดือนเมษายน คือเมื่อสองสามวันที่ผ่านมานี้เอง ราคาสินค้าเกษตรข้าวโพด ข้าวสาลี ลงหนัก เพราะสต็อกสินค้าเกษตรในอเมริกามีสูง เมื่ออุปทานมากมาย ราคาก็ย่อมร่วง ตอนนี้รูปแบบทางเทคนิคเสียหายหมดแล้ว ใครที่ถือไว้ควรพิจารณากระโดดออกมาได้แล้ว



 photo s5002042013monthlyreportmarch2013copy-3.gif


Sunday, March 24, 2013

24/03/2013 เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ กายกรรมกระรอกน้อย

นับตั้งแต่วันที่ลุงแมวน้ำรับกระรอกน้อยสองพี่น้องวัยแบเบาะมาอุปการะ จนถึงวันนี้ก็ 19 วันเข้าไปแล้ว ตัวหนึ่งมีแผลฉกรรจ์เสียด้วย แต่ในที่สุดทุกอย่างก็ผ่านมาได้ ตอนนี้กระรอกน้อยทั้งสองตัวกินอิ่ม นอนหลับ ดูแข็งแรงดี แต่ลุงคิดว่าตัวเล็กไปหน่อยเพราะเลี้ยงด้วยนมแพะไม่เหมือนนมแม่

การดูแลนี่ก็ต้องประคบประหงมกันพอสมควร เริ่มตั้งแต่การป้อนนม ต้องค่อยๆป้อน ใจเย็นๆ ใช้หลอดหยดยาต่อปลายด้วยสายยางเล็กอีกทีหนึ่ง เพราะว่าปลายหลอดหยดใหญ่และแข็งเกินไปหน่อย ตอนป้อนนมนี่วุ่นวายเอาการ เพราะเจ้าสองตัวนี้ไม่ยอมอยู่เฉย ทั้งดิ้น ทั้งซน กว่าจะป้อนได้แต่ละมื้อหมดไปกว่าครึ่งชั่วโมง วันหนึ่งป้อนตั้ง 7 มื้อ บางทีก็ต้องเอาผ้าชุบน้ำอุ่นมาลูบตัวเด็กๆเพื่อเลียนแบบการเลียของแม่กระรอก ทั้งยังเป็นการเช็ดตัวทำความสะอาดไปด้วย แล้วก็ต้องนวดพุง นวดก้น กระตุ้นการขับถ่าย (ตอนนี้ไม่ต้องนวดก้นแล้วเพราะว่าขับถ่ายเองได้)  นอกจากนี้ยังต้องให้เด็กๆนอนหลับบนครีบด้วย เพื่อเลียนแบบไออุ่นจากแม่กระรอกนั่นเอง

เรื่องนมกับการป้อนนมต้องระวังเป็นพิเศษ หากป้อนไม่ดีจะสำลัก หากสำลักบ่อยๆจะเป็นปอดบวม โอกาสเสียชีวิตมีสูง นมวัวก็ไม่ได้นะ ต้องนมแพะ เพราะส่วนประกอบในนมไม่เหมือนกัน กระรอกหากกินนมวัวจะท้องเสีย

นมแพะลุงแมวน้ำก็ไปซื้อนมแพะ ยูเอชที มาเลี้ยง มื้อหนึ่งกินนิดเดียว นมกล่องหนึ่งกินได้หลายสิบมื้อ แต่จะเอาแช่เย็นไว้แล้วทยอยกินจนหมดนั้นไม่ได้ เพราะว่านมแพะที่เปิดแล้วแม้เช่นตู้เย็นแต่ก็เสียไวมาก หากเอานมแพะที่เปิดแล้วมาเลี้ยงอาจทำให้เด็กๆท้องเสีย ก็ถึงชีวิตได้อีก ครั้งจะกินสองสามมื้อแล้วทิ้งทั้งกล่องก็เสียดายเงิน ลุงก็เลยเอานมแพะไปใส่ในถาดทำน้ำแข็ง ทำเป็นน้ำแข็งนมแพะก้อนเล็กๆเสียเลย แต่ละมื้อก็เอานมแพะน้ำแข็งมาก้อนหนึ่ง แล้วเอาไปอุ่น จากนั้นก็มาป้อนเด็กๆ หากทำเป็นน้ำแข็งก็สามารถเก็บไว้ได้นาน ไม่เสีย ปลอดภัย ถูกอนามัยแก่เด็กๆด้วย

ตอนนี้เด็กๆยังไม่ลืมตา ลุงแมวน้ำไปอ่านตำราเลี้ยงลูกกระรอกดู พบว่าต้องอายุประมาณ 4-5 สัปดาห์จึงจะเริ่มลืมตา ดังนั้นคงอีกหลายวันทีเดียว คงเป็นสัปดาห์หน้ามั้ง

ภาพต่อไปนี้แอบถ่ายเด็กๆเมื่อเช้านี้เอง แล้วตามด้วยวีดิโอคลิปเด็กๆหัดเล่นกายกรรม เชิญชมกันได้เลยคร้าบ


เด็กๆกระรอกน้อยกำลังนอนหลับสบาย ประมาณตี 4 ลุงแมวน้ำกำลังจะปลุกขึ้นมากินนม


ตื่นแล้่วก็เริ่มปีนป่าย ซนจริงๆ เด็กๆนอกจากมีหนวดแล้วฟันยังขึ้นสองซี่แล้ว อีกไม่นานคงแทะแหลก กระรอกฟันคมเสียด้วย


ว่างๆก็เตะถีบและหยียบกันเล่น ภาพนี้เจ้าขาเจ็บกำลังเหยียบเจ้าหัวโนเพื่อจะปีนป่ายอยู่ สังเกตเท้าที่มีรอยแผลเป็นสีเหลืองๆ นั่นคือเท้าที่เป็นแผลและหายแล้วนั่นเอง ตอนนี้เกือบปกติแล้ว

ภาพนี้กินนมอิ่มแล้ว ลุงแมวน้ำเช็ดตัวและนวดตัวด้วยน้ำอุ่นกับผ้านุ่มๆ ทำสปากระรอกเสียเลย ^__^




และสุดท้าย เป็นคลิปกระรอกน้อยฝึกกายกรรม คลิปนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 19/03/2013 เป็นวันที่กระรอกน้อยสองพี่น้องมาอยู่กับลุงแมวน้ำได้ 14 วัน อายุกระรอกก็คงประมาณ 15-16 วัน ไม่เกินนี้หรอก

กระรอกน้อยยังไม่ลืมตา แต่เริ่มฉายแววนักแสดงแล้ว ว่างๆก็ชอบปีนป่าย ดุ๊กดิ๊กไปเรื่อย ลุงแมวน้ำจึงขอให้ครูฝึกละครสัตว์ช่วยฝึกอ­ะไรง่ายๆให้กระน้อยหน่อย เผื่อจะพอแสดงหาค่าขนมได้บ้าง ลุงแมวน้ำก็จะชักเปอร์เซ็นต์เก็บไว้บางส่ว­น ใช้แรงงานเด็กอีกแล้ว ^__^

คลิปนี้ครูฝึกหัดให้กระรอกน้อยแสดงการกรรม­ง่ายๆ ฝีมือไม่เลวทีเดียว ตัวที่ห้อยโหนคือเจ้าหัวโน ส่วนตัวที่กลิ้งอยู่ที่พื้นคือเจ้าขาเจ็บ ทั้งสองตัวนี้เพิ่งกินนมอิ่ม ขาเจ็บอยากนอนเต็มทีจึงไม่ยอมให้ความร่วมม­ือ ส่วนหัวโนยอมฝึกนิดหน่อย แต่หัดไปหัดมาก็หลับปุ๋ยหล่นลงมาจากนิ้วขอ­งครูฝึกเสียยังงั้นแหละ เลยต้องเลิกฝึกเพราะกระรอกน้อยหลับกันหมด ^__^