สัปดาห์ก่อนหน้านี้เมื่อประกาศ QE3 ออกมาทั้งตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ก็วิ่งกันฝุ่นตลบ ค่าเงินดอลลาร์ สรอ อ่อนตัวหนัก แต่ในสัปดาห์ที่แล้วสถานการณ์กลับเป็นตรงกันข้าม พอฝุ่นเริ่มหายตลบ สัปดาห์ที่แล้วก็เริ่มมาตั้งสติกันว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดี
มาดูฝั่งตะวันตกกันก่อนก็แล้วกัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์ในยุโรปกลับมาอึมครึม เนื่องจากเยอรมนีกับฝรั่งเศสยังตกลงเรื่องการจัดตั้งสหภาพธนาคารยุโรปไม่ได้ ดังนั้นการแก้ปัญหาต่างๆจึงยังไม่คืบ ซึ่งในความเป็นจริงก็ควรเป็นเช่นนั้น ปัญหาหมักหมมมานานจะแก้วันในช่วงเวลาสั้นๆคงไม่ได้ ดังนั้นเรื่องวิกฤตยุโรปถึงอย่างไรก็เป็นภาพยนตร์เรื่องยาวมาก
ทางด้านสหรัฐอเมริกาก็ยังไม่ค่อยมีอะไรหวือหวาตามมาอีก แต่ความอึมครึมเริ่มกลับเข้ามาอีกครั้ง นักลงทุนก็เริ่มพูดถึงหน้าผาทางการคลัง fiscal cliff อันหมายถึงมาตรการทางการคลังหลายๆอย่างจะสิ้นสุดลงภายในปีนี้ ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
ทางด้านเอเชีย ญี่ปุ่นประกาศอัดฉีดสภาพคล่องบ้าง ทั้งนี้ เพื่อต้องการทำให้เงินเยนอ่อนตัวลง และช่วยให้ธุรกิจต่างๆขับเคลื่อนต่อไปได้ ช่วงหลังบริษัทต่างๆในญี่ปุ่นขาดทุนกันทีละเยอะๆทีเดียว เพราะเสียเปรียบการแข่งขัน ค่าเงินเยนที่แข็งก็เป็นส่วนหนึ่ง
ส่วนจีน จีนนี่ไม่ปกติ ลุงแมวน้ำขอเก็บไว้เล่าในวันถัดไป เรื่องเรื่องยาวอยู่เหมือนกัน เขียนเป็นรื่องต่างหากเลยดีกว่า
สรุปแล้วในสัปดาห์ที่แล้ว ภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงทุกภูมิภาค ส่วนตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้ยเล็กน้อย +0.79% ต่างชาติซื้อและขายสุทธิสลับกัน สงสัยว่าฝรั่งเองคงงงเหมือนกันว่าจะเอาอย่างไรต่อดี
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ก็ปรับตัวลง สินค้าเกษตรกับน้ำมันดิบลงแรง ทองคำเฉยๆ ทรงตัว
ด้านพันธบัตรหรือตลาดตราสารหนี้ เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอเมริกันปรับตัวลงขึ้นเล็กน้อย หมายถึงมีแรงซื้อพันธบัตรกลับเข้ามาอีก อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอเมริกัน 10 ปี ลดลง 11 จุดเบสิส มาอยู่ที่ 1.76% ช่วงนี้พันธบัตรอเมริกันราคาผันผวนมากทีเดียว ส่วนเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยปรับตัวขึ้นเล็กน้อยตลอดทั้งเส้น หมายความว่ามีแรงขายพันธบัตรออกมาบ้าง พันธบัตรไทยอายุ 10 ปี มีอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 3.71% ปรับตัวขึ้น 5 จุดเบสิส ลุงแมวน้ำได้ข้อมูลมาแล้ว ที่วันก่อนมีคนถาม ขณะนี้มีเงินทุนไหลเข้ามามากแค่ไหน หากดูจากพันธบัตร ตั้งแต่ต้นปีมามีเงินต่างชาติเข้ามาซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 7.5 แสนล้านบาทแล้ว
ด้านอัตราแลกเปลี่ยน สัปดาห์ที่แล้วเงินดอลลาร์ สรอ กลับแข็งค่าขึ้นมา เงินตราสกุลอื่นๆจึงอ่อนค่าลงไปบ้าง รวมทั้งเงินเยนอ่อนตัวจากการแทรกแซงของธนาคารชาติญี่ปุ่น แต่ลุงแมวน้ำคิดว่าญี่ปุ่นคงทานไม่อยู่ ต่อไปค่าเงินเยนคงแข็งอีก
ลุงแมวน้ำยังปรับพอร์ตตัวเองไม่เสร็จเลย ยุ่งนั่นยุ่งนี่หลายอย่าง พอร์ตเล็กแต่วุ่นวายราวกับพอร์ตร้อยล้าน เพราะว่าลุงแมวน้ำค่อยๆดู ค่อยๆเข้า ค่อยๆเลือก พวกสินค้าโภคภัณฑ์ลุงแมวน้ำลงทุนในกองทุนรวมที่มีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน เพราะทำกำไรได้ดีกว่ากรณีดอลลาร์ สรอ อ่อนตัว ไม่ไปเสียกับอัตราแลกเปลี่ยน ผลตอบแทนจึงดีกว่าลงทุนในฟิวเจอร์ส อีทีเอฟ ดังที่ลุงแมวน้ำเคยเล่าให้ฟังไปแล้ว ซื้อกองทุนรวมนี่ก็วุ่นวายนิดหน่อย แต่ก็อาศัยพวกโบรกเกอร์ตลาดกองทุนรวม ทำให้ซื้อขายได้ง่ายขึ้นเยอะเลย
Tuesday, September 25, 2012
Sunday, September 23, 2012
23/09/2012 เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ : ทีวีช่องลุงแมวน้ำ
คอลัมน์เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำนับวันชักจะไม่ค่อยเช้า บางทีก็มาเที่ยง มาบ่าย มาดึกๆก็เคย ^__^
มีภาพมาฝาก อยู่ข้างบนนี้ไง สองภาพนี้ภาพบนเป็นภาพน้ำตกแห่งหนึ่งในประเทศเวียดนาม ชื่อน้ำตก Ponggour falls บางแห่งก็เขียนว่า Pongua falls เป็นภาษาเวียดนาม ลุงแมวน้ำอ่านออกเสียงไม่ถูกเหมือนกัน แต่ว่าเป็นน้ำตกเจ็ดชั้น เป็นน้ำตกที่ใช้ปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง
ส่วนภาพล่างเป็นน้ำตกเหมือนกัน แต่ว่าเป็นน้ำตกเทียมที่เกิดจากน้ำท่วม อยู่ในประเทศไทยนี่เอง จังหวัดสุโขทัย ภาพล่างนี้ได้มาจากหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
วันนี้คุยเรื่องเบาๆก็แล้วกันเนอะ เรื่องเบาๆนี่ไม่ใช่เรืองนุ่น แต่หมายถึงเรื่องที่ไม่เคร่งเครียด ที่จริงลุงแมวน้ำว่าจะเขียนเรื่องธุรกิจต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว แต่เปลี่ยนใจ ไม่เอาดีกว่า วันนี้ลุงเองก็อยากสบายๆเช่นกัน ช่วงนี้กำลังผ่อนตัวเองลงบ้าง อะไรที่ไม่ทันก็ปล่อยๆไปบ้าง พยายามพักผ่อนให้มากขึ้น อย่างวันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้ เมื่อวานลุงแมวน้ำก็ไปเดินสวนจตุจักรมา ที่ว่าจะไม่ซื้อสินค้ามาตุนแล้วก็ทำไม่ได้ ต้องไปหามาตุนอีกหน่อย แล้วก็ไม่มีอะไรแล้ว ทำตัวให้ว่างๆ ตอนเย็นก็ดูหนังเกาหลี หมู่นี้ชักติดหนังเกาหลีเหมือนกัน
ส่วนวันนี้วันอาทิตย์ ก็ขอพักผ่อนอยู่บนโขดหินไม่ออกไปไหนสักวัน เดี๋ยวเขียนคอลัมน์เสร็จว่าจะจัดโขดหินให้หายรกสักหน่อย แล้วก็จะหัดเต้นกังนัมสไตล์ แมวน้ำเต้นท่าควบม้าคงเก๋ดี ^__^ ตอนนี้โขดหินของลุงแมวน้ำมีสินค้าวางระเกะระกะเต็มไปหมด ให้คนอื่นจัดให้ก็ไม่ได้เพราะเดี๋ยวลุงเองจะสับสน ตอนนี้ก็เริ่มสับสนบ้างแล้วเพราะว่ามีสินค้าหลายชิ้นที่ลุงแมวน้ำลืมจดราคาต้นทุนเอาไว้ ตอนนี้ก็นึกไม่ออกแล้ว คงต้องตั้งราคาขายแบบเดาสุ่ม หวังว่าคงไม่ขาดทุน
เรื่องการจัดหาสินค้าของลุงแมวน้ำนั้นใช้เวลาค่อนข้างมาก ก็ดังที่บอกว่าลุงแมวน้ำอยากทำธุรกิจตาม แนวคิดทุนนิยมที่เอื้ออาทรต่อกัน (compassionate capitalism) อย่างที่ลุงฝันเอาไว้ ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงมีวางสเป็กเอาไว้อย่างที่ใจต้องการ นั่นคือ ลุงแมวน้ำไม่ขายสินค้าที่เกี่ยวกับสัตว์ อย่างเช่น เครื่องหนังไม่ขาย (กระเป๋าหนังขายดีเสียด้วย แต่ลุงก็ไม่เสียดายหรอก) อาหารที่เป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ นม ไข่ ก็ไม่ขาย พยายามเน้นสินค้าที่มีค่าคาร์บอนฟู้ตพรินต์ต่ำ (low carbon footprint) ย่อยสลายได้ในธรรมชาติ สนับสนุนผลิตภัณฑ์คนพิการหรือผู้ด้อยโอกาส โอย... สเป็กแบบนี้แล้วจะหาสินค้ามาขายได้ไหมเนี่ย ก็ถึงบอกว่ายากไง แต่ลุงก็พอหาได้หลายอย่างแล้ว และที่สำคัญคือลุงแมวน้ำไม่สนับสนุนการบริโภคที่ล้นเกิน อยากให้ซื้อแต่พอควร ไม่ต้องซื้อมาก พออ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงคิดในใจว่าธุรกิจลุงแมวน้ำไม่รอดแน่ ขายของแล้วบอกลูกค้าว่าไม่ต้องซื้อมาก... ก็คงต้องดูกันต่อไป ลุงแมวน้ำเพิ่งเริ่มต้น ต้องสู้กันต่อไป
ร้านค้าออนไลน์ของลุงแมวน้ำค่อยๆไปอย่างช้า ช้ามากๆเลยแหละ เมื่อได้ทำแล้วจึงได้รู้แจ้งเห็นจริงว่าการเป็นผู้ประกอบการรายเล็กนั้นยากกว่าเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่มาก หากเป็นรายใหญ่ก็มีเงินจ้างลูกน้อง ใครถนัดอะไรก็เอาอย่างนั้นไปทำ แต่ผู้ประกอบการรายย่อยหรือรายเล็กๆนั้นต้องทำเองหมดทุกอย่างตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ งานแอดมิน งานบัญชี การเงิน สต็อกสินค้า การตลาด การติดต่อ ฯลฯ แม้แต่ถูพื้นออฟฟิสก็ต้องทำเอง อย่างนี้ไม่เรียกว่าอัจฉริยะแล้วจะให้เรียกว่าอะไร แต่ก็อีกนั่นแหละ เพราะว่าไม่มีใครเก่งไปหมดทุกอย่าง คนเราก็เก่งได้เพียงไม่กี่อย่าง ดังนั้นการเป็นผู้ประกอบการรายย่อยจึงอยู่รอดได้ค่อนข้างยากเนื่องจากก้าวข้ามข้อจำกัดนี้ไปไม่ได้ เพราะโดยสภาพการณ์แล้วจำเป็นต้องเก่งหมดทุกอย่าง แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้น รวมทั้งต่อไปเมื่อเปิดเสรีเออีซี (AEC) หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เศรษฐกิจแบบทุนนิยมกระแสหลักไม่ได้ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ แต่ตรงกันข้าม มีงานวิจัยมากมายที่ชี้ให้เราเห็นว่าเศรษฐกิจแบบทุนนิยมกระแสหลักเอื้อให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น นั่นคือ ยิ่งทำให้รวยกระจุก จนกระจายนั่นเอง
ลุงแมวน้ำเห็นว่าต่อไปผู้ประกอบการรายกลางจะถูกรายใหญ่เทกโอเวอร์ไปเป็นส่วนใหญ่ ส่วนรายเล็กก็คงล้มหายตายจากไปค่อนข้างมากเนื่องจากแข่งขันไม่ไหว สายป่าน ความรู้ และปัจจัยเกื้อหนุนต่างๆก็สู้รายใหญ่ไม่ได้ อีกทั้งรายเล็กจะไม่มีคนทำงานด้วย คือหาพนักงานไม่ได้นั่นเอง แล้วจะอยู่ยังไงไหว ดังนั้นต่อไปธุรกิจส่วนใหญ่คงเป็นรายใหญ่กับรายจิ๋ว คือเหลือแต่ปลาใหญ่กับเหาฉลามเท่านั้น อ้อ ยังเหลืออยู่อีกชนิดหนึ่งที่น่าจะรอดได้ นั่นคือแมวน้ำไง คุยเขื่องเสียอีก ^__^
ช่วงที่ผ่านมารถติดมาก ฝนตกรถติด ไปไหนมาไหนใช้เวลาเยอะมาก เหนื่อยกว่าเดิมเยอะเลย เสียดายพลังงานที่ถูกเผาไปในท้องถนนจัง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ลุงแมวน้ำเองก็พยายามลดการเดินทางลง จะไปไหนทีก็พยายามแวะไปหลายๆที่ จะได้ประหยัดการเดินทาง บางวันจะได้ไม่ต้องออกไปไหน เสียดายเวลาเนอะ เอาไปไปออกกำลังกายดีกว่า หรือแม้แต่นอนเล่นพักผ่อนก็ยังได้ประโยชน์กว่าไปนั่งหรือยืนรถติดอยู่บนท้องถนน
พูดถึงการออกกำลังกาย ลุงแมวน้ำอยากเป็นกำลังใจให้พวกเราออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างลุงแมวน้ำเองจัดลำดับความสำคัญของการออกกำลังกายอยู่ต้นๆเลย ชอบไปสวนลุม แต่ช่วงนี้ฝนตกรถติดก็ไปยากขึ้น ก็หย่อนๆลงมาบ้าง การมีสุขภาพทีดีนั้นการออกกำลังกายสำคัญเป็นที่สอง ในความคิดของลุงแมวน้ำ สิ่งสำคัญอันดับแรกคือเรื่องการบริโภค หากกินมากออกกำลังเท่าไรก็เผาไม่ทัน นอกจากนี้ หากพยายามออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อเผาแคลอรี่ที่กินเข้าไปมาก สุดท้ายก็แก่เร็วนะจะบอกให้ ลองสังเกตดูสิ พวกนักเพาะกล้าม นักกีฬาอาชีพ ฯลฯ พวกที่ต้องออกกำลังกายหนัก ส่วนใหญ่มักแก่เร็ว ที่เป็นอย่างนี้อธิบายได้ด้วยทฤษฎีความชราของเซลล์ ใช้งานมากก็เสื่อมมาก ดังนั้นการออกกำลังกายหนักหรือหักโหม หรือทำงานหนักหักโหม ล้วนแต่ไม่ดีต่อสุขภาพ อะไรที่เกินไปก็ไม่ดี
สัปดาห์ที่แล้วลุงแมวน้ำกลับเข้าไปลงทุนในตลาดอีก ครั้งนี้ลุงระวังตัวมากทีเดียว เพราะดูอะไรๆมันไม่ค่อยชอบมาพากลเท่าไรนัก ดังนั้นต้องพยายามกระจายการลงทุน ครั้งนี้ลุงแมวน้ำลงทุนในตราสารหนี้ในสัดส่วนสูงเพราะระวังตัวมาก ที่จริงลุงแมวน้ำยังไม่ได้เปลี่ยนมุมมองเลย คือยังมองในระยะยาวว่าเป็นคลื่น C เช่นเดิม ยังไม่เปลี่ยนมุมมองระยะยาวเพราะว่ายังไม่ถึงจุดที่จะเปลี่ยน แต่ที่เข้าลงทุนเพราะว่าระยะสั้นกับระยะกลางน่าจะเป็นขาขึ้น การเทรดด้วยระบบสัญญาณจะใช้แนวโน้มระยะยาวมาตัดสินใจลงทุนไม่ได้ ต้องใช้แนวโน้มระยะสั้นเป็นหลัก และแนวโน้มระยะกลางประกอบ
อ้อ เกือบลืมบอกไป ตอนนี้ลุงแมวน้ำมีช่องทีวีเป็นของตนเองแล้วนะ ทีวีช่องลุงแมวน้ำ uncaseal channel เท่จริงๆ ดูได้ทางยูทูป ตอนนี้เพิ่งโพสต์คลิปไปได้คลิปเดียว แต่ต่อไปก็มีเพิ่มเติม ช่วงที่ผ่านมาลุงแมวน้ำแบ่งเวลาไปหัดทำคลิป ทั้งการตัดต่อ ใส่คำบรรยาย ใส่เสียงประกอบ ฯลฯ สนุกดีเหมือนกัน นอกจากนี้ลุงยังหัดใช้งานโปรแกรมบัญชีอีกด้วย ไม่ใช่นักบัญชีแต่ก็ต้องทำบัญชีเอง อันนี้ไม่ค่อยสนุก แต่ก็ต้องทนๆไป
ทีวีช่องลุงแมวน้ำอยู่ด้านบนคร้าบ คลิปแรกนี้เป็นวงดนตรีบุคคลพิเศษ ถ่ายทำจากตลาดนัดสวนจตุจักร เมื่อวานนี้เอง ยังร้อนๆอยู่เลย เสียงร้องใช้ได้นะ มีความสามารถทีเดียว
วันนี้คุยสบายๆ ไม่มีสาระอะไรมากมาย พรุ่งนี้ลุงแมวน้ำต้องเดินทาง รับจ๊อบงานแสดงเอาไว้ที่โคราช ไม่อยากไปเลย ฝนตกถนนลื่น อันตรายอยู่เหมือนกัน พยายามเลี่ยงแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ ก็คงต้องไปนั่นแหละ แต่ยังไงก็ตามพรุ่งนี้จะอัปเดตเรื่องการลงทุนทาง FB ส่วนเว็บบล็อกจะอัปเดตอีกครั้งวันอังคาร
ไปละคร้าบ ^__^
Subscribe to:
Posts (Atom)