สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีบทความเช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ เพราะลุงแมวน้ำมัวแต่หัวฟู เอ้อ ไม่ใช่สิ แมวน้ำไม่มีเส้นผมนี่ ตัวเป็นกลียวละกัน ก็ศึกษาเรื่องการทำอีคอมเมิร์ซ ไปได้ไม่ค่อยไวหรอก แต่สัปดาห์หน้ามีบทความแน่ คิดเอาไว้แล้วว่าจะเขียนเรื่องอะไร แต่ยังไม่บอกดีกว่าว่าเป็นสมุนไพรแก้หวัด
ในรอบสัปดาห์ที่ 18/06/2012 - 22/06/2012 นี้การลงทุนในภาพรวม ตลาดหุ้นต่างๆปรับตัวมีทั้งขึ้่นและลง ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ดัชนีชี้วัดตลาดหุ้นที่ครอบคลุมระดับทั่วโลกก็ยังไม่เป็นไปในทางเดียวกัน Dow Jones Global Index ปรับตัวเพิ่ม +0.03% เรียกว่าทรงตัวดีกว่า ส่วน MSCI A/C World Index ปรับตัวลง -1.7% หากจะมองในระดับภูมิภาคแล้ว ทวีปอเมริกาและแอฟริกาเป็นกลุ่มที่มีตลาดลงมากกว่าขึ้น กลุ่มเอเชียกับยุโรปส่วนใหญ่มีตลาดขึ้นมากกว่าตลาดลง ตลาดหุ้นอียิปต์ โคลัมเบีย จีน กับรัสเซียปรับตัวลงค่อนข้างมาก ที่ขึ้นแรงเป็นตลาดหุ้นกรีซ ฟิลิปปินส์ ตุรกี
ทางด้านตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกากับกลุ่มยูโรโซน ตลาดตอบรับข่าวดีเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งของกรีซไปเรียบร้อย พรรคฝ่ายขวาน่าจะกุมเสียงข้างมากได้แม้ว่าจะมากกว่าแค่เล็กน้อยก็ตาม แต่หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยข่าว ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาหรือเฟดไม่ยอมออกมาตรการ QE3 แต่ต่ออายุมาตรการ operation twist แทน และตามมาด้วยบริษัทจัดอันดับเครดิตปรับลดอันดับเครดิตธนาคารในยุโรปกว่าสิบแห่ง ตลาดหุ้นก็อ่อนตัวลง อ่านจากข่าวออนไลน์บอกว่าโลกกังวลกับการลดอันดับเครดิต แต่วันต่อมาตลาดหุ้นก็รีบาวด์ได้ ข่าวออนไลน์บอกว่านั่นการปรับลดเครดิตเกิดจากการพิจารณาข้อมูลที่เกิดขึ้นในอดีต นักลงทุนเข้าใจดีว่าเรื่องอดีตก็เป็นอดีต ไม่ใช่เรื่องอนาคต ตลาดหุ้นเลยขึ้น เอ๊ะ ยังไง
ถ้างงก็ดูแบบเทคนิค เอาเป็นว่าหากวิเคราะห์ทางเทคนิค เมื่อพิจารณาจากตัวชี้วัดแนวโน้มทางเทคนิคในระยะสั้น เช่น directional movement indicator ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่อยู่ในภาวะไร้ทิศทางหรือว่า trendless แต่หากใช้เครื่องมือประเภทเส้นแนวโน้ม (trendline) หรือการนับคลื่นอีเลียตซึ่งเป็นมุมมองในระยะกลางถึงระยะยาว แนวโน้มก็ยังเป็นขาลงอยู่
สำหรับตลาดหุ้นไทย สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ SET index ปรับตัวลง -1.1% แต่ว่าหุ้นในกลุ่ม SET50 เกิดสัญญาณซื้อเพิ่มขึ้นอีก 7 ตัว รวมแล้วตอนนี้มีสัญญาณซื้อ 31 ตัวแล้ว
ทางด้านตลาดตราสารหนี้ สำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา อัตราผลตอบแทนของพันธบัตร สรอ 10 ปีเพิ่มขึ้น 10 จุดเบสิส (basis point) ตอนนี้อยู่ที่ 1.69% ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 10 ปี อยู่ที่ 3.56% หรือลดลง 3 จุดเบสิส
ทางด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์น้ำมันดิบกับโลหะมีค่า (ทองคำและโลหะเงิน) ร่วงหนัก ยางพาราร่วงแรง ส่วนสินค้าเกษตรอื่นส่วนใหญ่ขึ้น ที่แรงก็คือข้าวสาลี ข้าวโพด ขึ้นประมาณ +9%
ด้านอัตราแลกเปลี่ยนหรือว่าค่าเงิน ดอลลาร์ สรอ แข็งค่าเล็กน้อย USD index +0.6% ในขณะที่เงินยูโรกับฟรังสวิสทั้งสัปดาห์อ่อนค่า -0.8% เงินเยนอ่อนตัวหนัก -2.2% เงินบาท -1.0% ดอลลาร์สิงคโปร์ -0.5%
สัปดาห์ที่ผ่านมานี้หากพิจารณาด้วยปัจจัยทางเทคนิคระยะสั้นก็ยังไม่มีอะไรชัดเจน แต่แนวโน้มระยะกลางถึงยาวลุงแมวน้ำยังคงมองเช่นเดิม
กราฟแสดงความสัมพันธ์ของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินสำคัญบางสกุลรวมทั้งทองคำ
ตารางหุ้น ฟิวเจอร์ส และกองทุนรวม และค่าสถิติต่างๆ