Thursday, April 26, 2012

25/04/2012 * สินค้าเกษตรดูไม่ค่อยดี แนวโน้มกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ Templeton อ่อน ส่วน PIMCO ขึ้น

ค่าเงินเช้านี้ 26/04/2012 (รายงานวันเทรดที่ 25/04/2012)

วันที่ 25/04/2012 นี้นักลงทุนใจจดใจจ่อรอฟังคุณเบน เบอร์นันกี (Ben Bernanke) ประธานธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาว่าจะแถลงอะไรในการประชุมคณะกรรมการการเงินและเงินตราระหว่างประเทศ กว่าจะพูดก็ประมาณห้าทุ่ม (เวลาบ้านเรา) ซึ่งเรื่องที่โลกอยากรู้ก็คือเฟดจะใช้มาตรการ QE3 หรือไม่นั่นเอง แต่แล้วในที่สุดเบอร์นันกีก็พูดกลางๆเพียงว่าเราน่าจะมาถูกทางแล้ว

ตลาดหุ้นย่านเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ปิดกระจายตัวแบบบวกนิดลบหน่อยอีก ไม่มีตลาดใดขึ้นลงแรง ดัชนีเซ็ต SET index ปิดที่ 1201.36 (+0.13%) แต่ต่างชาติกลับมากลายเป็นขายสุทธิ 911 ล้านบาท

ส่วนตลาดฝั่งยุโรปนั้นปรับตัวขึ้นอีก ดัชนี DAX ของเยอรมนี +1.73% CAC 40 อันเป็นดัชนีตลาดหุ้นของฝรั่งเศสก็บวกแรง +2.0%

ตลาดหุ้นฝั่งอเมริกา ด้านบราซิลเปิดเขียวแต่ว่าปิดแดง ส่วนสหรัฐอเมริกาวิ่งตั้งแต่เปิดตลาด ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ของสหรัฐอเมริกา +0.7% ดัชนี DJI สามารถกลับขึ้นมาเหนือ 13000 จุดได้อีกแล้ว นักลงทุนหลายคนอาจพูดขำๆว่าคงต้องของคุณเบอร์นันกี พูดอ้อมแอ้มนิดหน่อยตลาดหุ้นก็ขึ้นแล้ว แต่จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ลุงแมวน้ำมองว่าตลาดหุ้น สรอ เป็นขาขึ้นอยู่แล้ว ถึงไม่พูดอะไรตลาดก็ยังไปได้อยู่ดี

ทางด้านค่าเงิน วันที่ 25 เปลี่ยนแปลงไม่มาก ดอลลาร์ สรอ ปรับตัวในกรอบแคบโดยอ่อนตัวเล็กน้อย usd index อยู่ในกรอบ 79.0 ถึง 79.3 จุด เงินสกุลยุโรปแข็งค่าขึ้นเพียงเล็กน้อย เงินยูโร ฟรังก์สวิส โครน และโครนา +0.2% แข็งค่าขึ้นในอัตราใกล้เคียงกัน

ทางด้านค่าเงินเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย +0.5% เงินเยนทรงตัว เงินดอลลาร์สิงคโปร์ +0.2% เงินบาทอ่อนค่า -0.1%

ทางด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เมื่อวันที่ 24 น้ำมันดิบขยับเพียงเล็กน้อย wti +0.5% น้ำมันดิบเบรนต์ +0.7% กลุ่มโลหะ ทองแดง +1.0% โลหะเงิน -0.3% ส่วนทองคำทรงตัว ดัชนีสินค้าเกษตร 78.52 จุด (-0.3%)

เช้านี้ (26/04/2012) ดัชนีดอลลาร์ สรอ (USD index) อยู่ที่ 79.0 จุด เงินยูโร 1.323 ดอลลาร์ สรอ/ยูโร เงินเยน 81.31 เยน/ดอลลาร์ สรอ เงินบาท 30.93 บาท/ดอลลาร์ สรอ น้ำมันดิบ wti 104.0 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล น้ำมันดิบเบรนต์ 119.1 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล ทองคำ 1643 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์


สินค้าเกษตรดูไม่ค่อยดี แนวโน้มตราสารหนี้ต่างประเทศระยะสั้น Templeton อ่อน ส่วน PIMCO ขึ้น


วันนี้ลุงแมวน้ำขออัปเดตกองทุนรวมบ้าง เน้นที่กองทุนรวมในต่างประเทศในกลุ่มสินค้าเกษตรและตราสารหนี้

มาดูกองทุนแรกกัน คือกองทุนสินค้าเกษตร ขณะนี้อยู่ในสภาวะไร้แนวโน้ม (sideway) แต่เนื่องจากยังไม่หลุดจากระดับฟิโบนาชชี (Fibonacci) 61.8% อีกทั้งน้ำมันดิบยังอยู่ในขาขึ้น (แต่น้ำมันดิบน่าจะอยู่ในคลื่นย่อย 4) ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงยังมีมุมมองในทางบวกอยู่ รอให้หลุดระดับ 61.8% แล้วจึงมาทบทวนมุมมองกันอีกครั้ง


กราฟ nav ของกองทุนรวมสินค้าเกษตร K-Agri



ต่อมาก็เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ ดูที่กองทุนแม่ระดับโลก นั่นคือ Templeton Global Bond Fund สำหรับกองทุนนี้มีกองทุนรวมในไทยที่ใช้เป็นกองทุนแม่อยู่หลายกองทุนทีเดียว แต่ลุงแมวน้ำนำกราฟของ TMBGBF ค่ายทหารไทยมาให้ดู


กราฟ nav ของกองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ TMBGBF




แนวโน้มของ Templeton global bond fund ในระยะสั้นเป็นขาลง สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากค่าเงินในสกุลเอเชียแปซิฟิกอ่อนค่าลง รวมทั้งเงินบาทอ่อนค่าด้วย ส่วนแนวโน้มระยะกลางต้องรอพิจารณาอีกทีหนึ่งในภายหลัง

ส่วนกองทุนตราสารหนี้ระดับโลกอีกกองหนึ่ง คือ PIMCO Total Return Bond Fund ในบ้านเรามีกองทุนรวม KFTRB ที่ลงทุนในกองทุนนี้ แนวโน้มทั้งระยะสั้นและระยะกลางเป็นขาขึ้น ดังภาพต่อไปนี้


กราฟ nav ของกองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ KFTRB



สำหรับตลาดหุ้นไทย หากเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง ตลาดหุ้นน่าจะเป็นขาลงแบบคลื่น 4 คือลงแบบผันผวน ให้ติดตามค่าเงินบาทและปริมาณการขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติให้ดี


ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญในโลก เมื่อ 25/04/2012



อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลสำคัญ เมื่อ 25/04/2012

Wednesday, April 25, 2012

24/04/2012 * เงินบาทอ่อน เกิดสัญญาณขาย

ค่าเงินเช้านี้ 25/04/2012 (รายงานวันเทรดที่ 24/04/2012)

วันที่ 24/04/2012 ตลาดหุ้นย่านเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ปิดกระจายตัวแบบบวกนิดลบหน่อย ดัชนีเซ็ต SET index ปิดที่ 1199.86 เพิ่มขึ้น 10.51 จุด แต่ต่างชาติกลับมากลายเป็นขายสุทธิ 1108 ล้านบาท

ส่วนตลาดฝั่งยุโรปนั้นมีรีบาวด์หลังจากที่วันก่อนหน้านี้ลงแรง แต่ระหว่างวันผันผวนแบบเดาไม่ถูกว่าจะปิดตลาดอย่างไร ตอนต้นตลาดเขียวสวยงาม แต่ภายในไม่กี่ชั่วโมงก็ร่วงอย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายก็รีบาวด์ได้แรงพอควร ดัชนี DAX ของเยอรมนี 1.0%

ตลาดหุ้นฝั่งอเมริกา ด้านบราซิลเปิดอ่อนแต่ปิดเขียว ส่วนสหรัฐอเมริกาแรงต้นตลาดแต่ท้ายตลาดอ่อนแรงลง ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJI) ของสหรัฐอเมริกา +0.58%

ทางด้านค่าเงิน วันที่ 24 เปลี่ยนแปลงไม่มาก ดอลลาร์ สรอ ปรับตัวในกรอบแคบโดยอ่อนตัวเล็กน้อย usd index อยู่ในกรอบ 79.1 ถึง 79.4 จุด เงินสกุลยุโรปแข็งค่าขึ้นเพียงเล็กน้อย เงินยูโร ฟรังก์สวิส +0.2% ส่วนโครน โครนาแทบไม่เปลี่ยนแปลง

ทางด้านเงินเอเชียแปซิฟิกไม่เป็นไปทางเดียวกัน เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย -0.3% เงินเยนอ่อนค่า -0.2% เงินดอลลาร์สิงคโปร์ +0.1% เงินบาท +0.2%

ทางด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เมื่อวันที่ 24 น้ำมันดิบขยับเพียงเล็กน้อย wti +0.4% แต่น้ำมันดิบเบรนต์ -0.5% กลุ่มโลหะ ทองแดง +1.3% โลหะเงิน +0.7% ส่วนทองคำ +0.6% ดัชนีสินค้าเกษตร 78.76 จุด (+0.5%)

เช้านี้ (25/04/2012) ดัชนีดอลลาร์ สรอ (USD index) อยู่ที่ 79.2 จุด เงินยูโร 1.320 ดอลลาร์ สรอ/ยูโร เงินเยน 81.36 เยน/ดอลลาร์ สรอ เงินบาท 30.93 บาท/ดอลลาร์ สรอ น้ำมันดิบ wti 103.7 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล น้ำมันดิบเบรนต์ 118.4 ดอลลาร์ สรอ/บาเรล ทองคำ 1641 ดอลลาร์ สรอ/ทรอยออนซ์


เงินบาทอ่อน เกิดสัญญาณขาย


ลุงแมวน้ำนำภาพเงินบาทมาให้ดู


อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อหนึ่งดอลลาร์ (USD_BHT)


ภาพนี้ที่ถูกต้องเรียกว่ากราฟเงินบาทแบบ USD_BHT คืออัตราแลกเปลี่ยนของเงินตราสองสกุลมีวิธีพิจารณาสองอย่าง คือดูสกุลดอลลาร์ สรอ เทียบกับสกุลนั้นๆ หรือดูสกุลนั้นๆเทียบกับดอลลาร์ สรอ

หากเป็นแบบ USD_BHT คือมี usd นำหน้า ตัวเลขที่เห็นหมายถึงอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์ สรอ แลกได้กี่บาท กราฟแบบนี้หากตัวเลขมากแปลว่าเงินบาทอ่อน หากตัวเลขน้อยแปลว่าเงินบาทแข็ง และสัญญาณซื้อแท่งเขียวในกราฟที่จริงก็คือสัญญาณขายเพราะว่าหมายถึงเงินบาทอ่อนจนเกิดสัญญาณขาย ส่วนสัญญาณขายแท่งแดงที่จริงหมายถึงสัญญาณซื้อ เพราะว่าเงินบาทแข็งจนเกิดสัญญาณซื้อ เวลาดูหากไม่คุ้นจะงงนิดหน่อยเพราะว่าเหมือนดูภาพในกระจก ต้องคิดกลับกันเสมอ

แต่หากเป็นตัวเลขแบบ BHT_USD ก็จะหมายถึงว่าเงินบาท 1 บาทแลกได้กี่ดอลลาร์ สรอ หากเป็นกราฟแบบนี้ ตัวเลขมากคือเงินบาทแข็ง แท่งสีเขียวก็คือสัญญาณซื้อ และตัวเลขน้อยก็คือเงินบาทอ่อน และแท่งสีแดงคือสัญญาณขาย แบบนี้ตรงไปตรงมา ไม่ต้องคิดกลับ แต่โชคร้ายที่ลุงแมวน้ำใช้ค่าและกราฟแบบ USD_BHT เป็นหลักน่ะสิ ^_^ รวมทั้งค่าเงินสกุลอื่นส่วนใหญ่มักถือว่าเทียบกับ 1 usd เสมอ ดังนั้นเวลาดูต้องคิดกลับกัน ยกเว้นบ้าง เช่นเงินยูโร โดยทั่วไปมักใช้แบบ EUR_USD คือคิดตรงไปตรงมา ไม่ต้องกลับ

จากภาพ จะเห็นว่าเงินบาทกำลังอ่อนตัวแบบมีแนวโน้ม และเกิดสัญญาณขายแล้ว (ในกรณีนี้แท่งเขียวคือสัญญาณขาย) และหากลองนับคลื่นย่อยดู เราอาจสันนิษฐานได้เป็นสองกรณี

กรณีแรก หากเป็นตามการนับคลื่นชุดสีน้ำเงิน ขณะนี้เราน่าจะจบคลื่น 2 ย่อยไปแล้ว และกำลังอยู่ในคลื่น 3 ย่อย หากเป็นไปตามกรณีนี้ ค่าเงินบาทจะอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วเพราะอยู่ในคลื่น 3 ย่อย

กรณีที่สอง หากเป็นไปตามการนับคลื่นชุดสีดำ ขณะนี้เราน่าจะกำลังอยู่ในคลื่น 2 ถ้าเป็นไปตามกรณีนี้ เงินบาทช่วงนี้จะผันผวนอยู่แถวนี้ อาจแข็งค่าได้บ้างในบางวัน แต่สุดท้ายเมื่อเข้าคลื่น 3 (สีดำ) เงินบาทก็จะอ่อนตัวเร็ว

สรุปก็คือไม่ว่าจะเป็นไปตามกรณีใด สุดท้ายเงินบาทก็น่าจะไปในคลื่น 3 ย่อย ซึ่งหากประเมินตามการวิเคราะห์ทางเทคนิค กว่าจะจบคลื่น 5 ย่อยเงินบาทน่าจะอ่อนตัวได้อีกพอควร ขั้นแรกคงผ่าน 31.3 บาท/ดอลลาร์ สรอ ไปก่อน จากนั้นค่อยมาประเมินกันอีก


ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญในโลก เมื่อ 24/04/2012



อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลสำคัญ เมื่อ 24/04/2012