หุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้โปรแกรมถือหุ้นอยู่รวมทั้งสิ้น 48 ตัว
กลุ่มฟิวเจอร์ส ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลายวันส่งผลต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ให้ร่วงไปด้วย วันนี้ดัชนีดาวโจนส์ก็ยังลงต่อ มีสัญญาณขายข้าวโพด (C) และน้ำมันดิบ (CL)
กองทุนอีทีเอฟ DBO ที่ลงทุนในน้ำมันดิบเกิดสัญญาณขาย
ตลาดต่างประเทศ วันนี้ตลาดปิดแดงทั้งสามภูมิภาค มีปิดเขียวแซมมาเล็กน้อยเท่านั้น แต่ไม่ถึงกับขึ้นแรงลงแรง
นอกจากนี้ ดัชนีในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ก็เกิดสัญญาณขาย ได้แก่ ดัชนีกลุ่มพลังงาน (DJUBSEN) กลุ่มปิโตรเลียม (DJUBSPE) และกลุ่มธญพืชและพืชเมล็ด (grains, DJUBSGR)
วันนี้ลุงแมวน้ำปรับปรุงโฉมรายงานใหม่อีกครั้งหนึ่ง เพิ่มการเปลี่ยนแปลงของราคารายวันแบบเป็นร้อยละให้ดูด้วย จะได้รู้ว่าราคาวันนี้ขึ้นหรือลงจากเมื่อวานไปมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ยังเพิ่มรายการค่าเงินอีก 4 สกุลในรายงานด้วย ได้แก่ เงินฟรังก์สวิส (CHF) เงินโครน (Krone, NOK) ของนอร์เวย์ เงินโครนา (Krona, SEK) ของสวีเดน และเงินรูเบิล (Ruble, RUR) ของรัสเซีย โดยเฉพาะเงินฟรังก์สวิสกับโครนาถือว่าเป็นเงินสกุลแข็ง ใช้หลบภัยค่าเงินได้รองจากทองคำ เนื่องจากต่อไปค่าเงินคงผันผวนมากยิ่งขึ้น ลุงแมวน้ำจึงเอามาใส่ไว้ในรายงานด้วย
นอกจากนี้ ในกราฟสรุปค่าเงินของลุงแมวน้ำก็ได้เพิ่มสกุลเงินเข้าไปด้วย ลองดูจากกราฟจะเห็นว่าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาดอลลาร์ สรอ แข็งค่าขึ้น แต่ทองคำ เงินเยน กับฟรังก์สวิสก็แข็งค่าตาม ดังภาพต่อไปนี้
ในช่วงสุดสัปดาห์ หลังจากปิดตลาดของวันศุกร์ไป สภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาก็ลงมติให้ผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ที่ร่างของฝ่ายพรรครีพับลิกัน ซึ่งร่างที่ผ่านถูกนำเข้าสู่วุฒิสภาในวันเดียวกันแต่ไม่ผ่านวุฒิสภาเนื่องจากในวุฒิสภานั้นพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก แต่ในที่สุดคาดว่าจะตกลงกันได้ แต่กฎหมายผ่านก็ใช่ว่าเศรษฐกิจจะเข้าที่เรียบร้อย ปัจจัยพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนได้ในวันเดียว ที่เปลี่ยนคืออารมณ์ของตลาด ส่วนสภาพเศรษฐกิจที่แท้จริงจะเป็นอย่างไรคงต้องติดตามกันต่อไป
ลัทธิเปรอนและบทเพลง ไม่ต้องร่ำไห้เพื่อฉัน อาร์เจนตินา (4)
กลุ่มประชาชนที่ไม่สนับสนุนเปรองรวมตัวกันชุมนุมเพื่อแสดงพลัง ในเดือนกันยายน 1945
เปรอนมีผลงานมากมาย แต่ผลงานเหล่านี้ก็ได้สะท้อนถึงบุคลิกของเปรอนประการหนึ่งออกมาอย่างเด่นชัด นั่นคือ เปรอนเป็นคนที่คิดเร็ว ทำเร็ว ขาดการจัดลำดับความสำคัญและความเร่งด่วนของเหตุการณ์ แต่ตอบสนองไปตามสถานการณ์เฉพาะหน้า ซึ่งบุคลิกนี้จะยิ่งเห็นได้ชัดในช่วงต่อไปของเส้นทางการเมืองของเปรอน
ปี ค.ศ. 1945 (พ.ศ. 2488) เป็นปีที่เกิดเหตุการณ์ต่างๆขึ้นมากมายและถือว่าเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญในชีวิตการเมืองของเปรอน เปรอนทำงานโดยมีเอวาเป็นคู่คิดและผู้ที่คอยให้การสนับสนุน และเนื่องจากเปรอนมีผลงานมากจึงทำให้มีมวลชนที่เป็นชนชั้นผู้ใช้แรงงานและคนยากจนสนับสนุนเป็นจำนวนมาก ศูนย์กลางอำนาจของรัฐบาลจึงดูเหมือนว่าไปอยู่ที่กระทรวงแรงงานแทนที่จะเป็นที่ทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งภาพลักษณ์ของเปรอนในตอนนั้นก็เหมือนกับว่าเป็นพระเอกตัวจริงหรือว่าเป็นผู้นำรัฐบาลตัวจริง ทำให้กลุ่มทหารที่กุมอำนาจที่เดิมเคียงบ่าเคียงไหล่ทำรัฐประหารมาด้วยกันบางคนกลับกลายเป็นไม่พอใจเปรอน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าหวั่นเกรงว่าอิทธิพลและบารมีที่นับวันจะมีมากขึ้นของเปรอนอาจเป็นภัยต่อตนเองก็เป็นได้ ดังนั้นกลุ่มนายทหารผู้กุมอำนาจจึงเริ่มแตกแยกกัน
ในราวกลางปี 1945 สงครามโลกยุติลงโดยฝ่ายอักษะเป็นฝ่ายปราชัย นับว่าอาร์เจนตินาเลือกข้างถูกและเป็นการเลือกข้างในช่วงจังหวะที่หวุดหวิด เพราะหากอาร์เจนตินารีรออีกเพียงนิดเดียวก็จะกลายเป็นผู้แพ้สงครามไปในที่สุด ผลอย่างหนึ่งจากการเข้าเป็นฝ่ายพันธมิตรคือทำให้อาร์เจนตินาได้เป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติในกลางปีนั้นเอง
การที่อาร์เจนตินาต้องมีบทบาทในเวทีโลก รัฐบาลอาร์เจนตินารู้ดีว่ารัฐบาลทหารที่มาจากการทำรัฐประหารไม่เป็นที่ยอมรับในเวทีโลก ประกอบกับหลังจากสงครามโลกสงบ ประชาชนชาวอาร์เจนตินาเริ่มเรียกร้องหาเสรีภาพกันมากขึ้น ดังนั้นในตอนกลางปีนั้นเอง หลังจากที่อาร์เจนตินาเข้าเป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติได้ไม่นาน รัฐบาลทหารของอาร์เจนตินาจึงประกาศให้มีการเลือกตั้งขึ้นเพื่อคืนอำนาจแก่ประชาชนในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1946 อันเป็นปีถัดไป
หลังจากสงครามโลกสงบลง เปรอนถูกเพ่งเล็งจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นจากประเทศมหาอำนาจผ่านทางทูตที่อยู่ในอาร์เจนตินา รวมทั้งประชาชนในประเทศ และกลุ่มนายทหารผู้กุมอำนาจเอง ทางด้านต่างประเทศนั้นมหาอำนาจค่ายโลกเสรีที่เดิมเชื่อว่าเปรอนเป็นฟาสซิสต์อยู่แล้ว เมื่อสงครามโลกสงบและลัทธิฟาสซิสต์ในยุโรปต้องพ่ายแพ้ไป ประเทศมหาอำนาจเชื่อว่าเปรอนจะสานต่อลัทธิฟาสซิสต์และนาซีต่อไปในประเทศอาร์เจนตินา
ทางด้านประชาชนนั้น ใช่ว่าประชาชนทุกกลุ่มจะชื่นชมเปรอน ผู้ที่นิยมเปรอนส่วนใหญ่เป็นมวลชนผู้ใช้แรงงาน ส่วนกลุ่มนายทุน ผู้ประกอบการ พวกหัวอนุรักษ์นิยม ชนชั้นสูงในสังคม รวมทั้งพวกที่มีแนวคิดสังคมนิยมและคอมมิวนิสต์ ฯลฯ ต่างก็ต่อต้านเปรอน ส่วนทางด้านทหารผู้กุมอำนาจนั้นก็แตกแยกกัน ในเดือนกันยายนมีการรวมกลุ่มผู้ใช้แรงงานแสดงพลังเพื่อสนับสนุนเปรอน ในวันถัดมากลุ่มต่างๆที่ต่อต้านเปรอนก็ออกมาแสดงพลังเช่นกัน สภาพทางการเมืองในช่วงนั้นจึงค่อนข้างล่อแหลม
ตอนต้นเดือนตุลาคม ปี 1945 ประเทศมหาอำนาจกดดันรัฐบาลทหารอย่างหนักเพื่อให้จัดการอย่างใดอย่างหนึ่งกับเปรอน กลุ่มทหารที่กุมอำนาจซึ่งมีความขัดแย้งกันเองภายในกลุ่มก็มาถึงจุดแตกหัก เปรอนถูกบีบให้ลาออกจากทุกตำแหน่งในรัฐบาล แต่อย่างไรก็ดี ก่อนที่เปรอนจะลาออกหนึ่งวัน เปรอนได้อนุมัติประกาศขึ้นค่าแรงแก่คนงานอีกระลอกหนึ่ง อีกทั้งต่อมาได้ปราศรัยอำลาประชาชนทางวิทยุกระจายเสียง รวมทั้งถัดจากวันที่เปรอนพ้นตำแหน่งในรัฐบาล เปรอนยังได้จัดพิธีอำลาข้าราชการในกระทรวงแรงงานขึ้นด้วย ปรากฏว่าเมื่อข่าวนี้เปรอนลาออกแพร่ออกไป แทนที่งานนี้จะเป็นกิจกรรมเงียบๆ ในวันนั้นกลับมีผู้ใช้แรงงานมาสนับสนุนให้กำลังใจแก่เปรอนอย่างล้นหลามและเปรอนก็กล่าวสุนทรพจน์ขอให้กลุ่มผู้ใช้แรงงานสนับสนุนตนต่อไปอีกด้วย
กลุ่มอำนาจฝ่ายตรงข้ามเห็นสถานการณ์ไม่ดีจึงลงมือจัดการเปรอนโดยตั้งข้อกล่าวหา จากนั้นจับกุมเปรอนและนำไปคุมขัง ในครั้งนี้เองเอวาได้ใช้ความสามารถของเธอปลุกระดมมวลชนผู้สนับสนุนเปรอนและมีการขยายมวลชนออกไป ส่งผลให้มวลชนเกิดปฏิกิริยาในวงกว้าง คนงานในกรุงบัวโนว ไอเรสจำนวนมากออกมาชุมนุมอย่างสงบเพื่อประท้วงการคุมขังเปรอน ในที่สุดคณะผู้ก่อการเกรงว่าปัญหาจะบานปลายจึงตัดสินใจปล่อยเปรอนออกมาในราวกลางเดือนตุลาคมหลังจากที่คุมขังเปรอนได้เพียงไม่กี่วัน อาจกล่าวได้ว่าหากไม่ได้ฝีมือของเอวา เส้นทางสู่อำนาจของเปรอนอาจขาดสะบั้นลงตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนี้แล้วก็เป็นได้
กลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ชุมนุมกันในกรุงบัวโนส ไอเรส ในเดือนตุลาคม 1945 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยเปรองจากที่คุมขัง มวลชนกรรมาชีพผู้สนับสนุนเปรอนเหล่านี้ต่อมาถูกเรียกว่า เดสคามิซาโดส (descamisados)
หลังจากที่ออกมาจากที่คุมขังเพียงไม่กี่วัน เปรอนก็เตรียมการชิงตำแหน่งประธานาธิดี และพร้อมๆกันนั้นก็เข้าพิธีสมรสกับเอวา สาวน้อยเอวาจึงกลายเป็นคุณนายเปรอนอย่างเป็นทางการในปลายเดือนตุลาคมนั้นเอง
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่าการเลือกตั้งในอาร์เจนตินาจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1946 ซึ่งมีเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือน เปรอนลงสมัครรับเลือกตั้งในตำแหน่งประธานาธิบดี ในครั้งนั้นมีผู้สมัครประธานาธิบดีเพียงสองคน ดังนั้นเปรอนจึงมีคู่แข่งเพียงคนเดียว เปรอนได้รับการสนับสนุนจากพรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มผู้นำแรงงานเป็นแกน นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรฝ่ายสนับสนุนเปรอนอีกหลายกลุ่ม ส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้แรงงานและคนยากจน ส่วนผู้สมัครอีกคนหนึ่งสมัครในนามพรรคหัวก้าวหน้า UCR โดยมีกลุ่มสังคมนิยม กลุ่มคอมมิวนิสต์ กลุ่มอนุรักษ์นิยม พ่อค้า และนายธนาคาร เป็นแนวร่วม จะเห็นว่าหลายกลุ่มหลายอุดมการณ์ทางการเมืองมาเป็นแนวร่วมกันเพื่อสกัดเปรอนแม้ว่าแนวร่วมบางกลุ่มจะเปิดเผยตัวไม่ได้แต่ก็ให้การสนับสนุนอย่างลับๆ
เอวามีบทบาทอย่างสูงในการรณรงค์หาเสียงให้แก่เปรอน เอวาหาเสียงในหมู่คนยากจนชาวอาร์เจนตินาเพื่อขายนโยบายและขอเสียงสนับสนุนอย่างหนัก เปรอนควงคู่เอวาไปในทุกๆที่ ในยุคนั้นสตรีในสังคมอาร์เจนตินาไม่มีสิทธิ์ ไม่มีเสียง และไม่มีบทบาทสำคัญทั้งในด้านสังคมและการเมือง สตรีอาร์เจนตินาไม่มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง ดังนั้นภาพที่เอวาเคียงบ่าเคียงไหล่หาเสียงกับเปรอนนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นปกติ และสร้างความประทับใจและชื่นชมจากผู้ที่สนับสนุนเปรอนเป็นอย่างมาก เปรอนและเอวาเรียกกลุ่มมวลชนกรรมาชีพที่สนับสนุนตนว่า เดสคามิซาโดส (descamisados) อันมีความหมายว่า shirtless หรือไม่ใส่เสื้อ อันหมายถึงผู้ที่ทำงานหนักอาบเหงื่อต่างน้ำจนต้องถอดเสื้อทำงานนั่นเอง ซึ่งกลุ่มเดสคามิซาโดสนั้นเป็นมวลชนที่เป็นฐานเสียงและเป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญของเปรอน
ในบันทึกประวัติศาสตร์ แม้จะเป็นที่ยอมรับกันว่าการเลือกตั้งในครั้งนั้นโปร่งใส แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงการรณรงค์หาเสียงกลับไม่ได้เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย มีการกระทบกระทั่งและใช้ความรุนแรงต่อกันระหว่างผู้สนับสนุนของทั้งสองฝ่ายจนถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตเลยทีเดียว
