Tuesday, March 15, 2011

11/03/2011 * มองเศรษฐกิจและการลงทุนปี 2011 (11)

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 1007.06 จุด ลดลง 12.16 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้มีสัญญาณขาย CPN และมีสัญญาณซื้อ TUF ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวมทั้งหมด 37 ตัว

กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

ด้านตลาดต่างประเทศ วันนี้ตลาดด้านเอเชียส่วนใหญ่ปิดในแดนลบเนื่องจากข่าวแผ่นดินไหวใหญ่ในญี่ปุ่นที่มีจุดกำเนิดในทะเลซึ่งตามมาด้วยสึนามิหรือคลื่นยักษ์ถล่มชายฝั่งของญี่ปุ่น ส่งผลให้หลายเมืองได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทำให้นักลงทุนหวั่นวิตกว่าอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นซึ่งชะลอตัวอยู่แล้ว ปัจจัยทางจิตวิทยาทำให้ดัชนีของตลาดหุ้นในแถบเอเชียปรับตัวลดลง

แม้วันนี้ตลาดจะปรับตัวลงมาแต่กลับไม่มีสัญญาณซื้อขาย ทั้งนี้ เนื่องจากหลายประเทศ รวมทั้งประเทศญี่ปุ่นเอง ต่างก็เกิดสัญญาณขายไปก่อนหน้านี้แล้ว เรื่องภาวการณ์ตลาดหุ้นตกนั้นอาจคงอยู่ต่อไปอีกหลายวันเนื่องจากช่วงนี้มีเหตุการณ์ต่างๆมากมายเกิดขึ้นล้วนส่งเป็นปัจจัยทางจิตวิทยาที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นทำให้เกิดอาการฝุ่นตลบและแกว่งตัวขึ้นแรงลงแรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความไม่สงบในตะวันออกกลาง ปัญหาหนี้ในยุโรป ตลอดจนปัญหาภัยพิบัติในญี่ปุ่นซึ่งอาจตามมาด้วยปัญหาความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์อีกเนื่องจากมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เสียหายจากแผ่นดินไหว ดังนั้นนักลงทุนควรหนักแน่น เทรดตามแนวโน้มโดยใช้สัญญาณซื้อขายกำกับอย่างเคร่งครัด

ลองมาดูข่าวนี้กัน หากอ่านไม่ถนัดให้คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพในขนาดขยาย



ช่วงนี้ยางพาราร่วงแบบติดฟลอร์ไม่มีแรงรับมาพักหนึ่งแล้ว ไม่ใช่แต่นักลงทุนในฟิวเจอร์สที่ขาดทุน แม้แต่เกษตรกรที่ลงทุนในยางพาราจริงๆก็ได้รับความเสียหาย ดังตัวอย่างจากข่าวที่ลุงแมวน้ำนำมาให้ดูกันนี้ เป็นความจริงที่ต้องยอมรับกันว่าตลาดฟิวเจอร์สนั้นมีทั้งคุณและโทษ คุณก็คือช่วยในการประกันความเสี่ยงรวมทั้งการวางแผนการผลิต ส่วนโทษก็คือทำให้เกิดการเก็งกำไรกันจนเลยเถิดไปด้วยอำนาจของความโลภ ผลของการมีตลาดฟิวเจอรส์ทำให้ราคาสินค้าตัวนั้นมีการเก็งกำไรกันสูงขึ้นและราคาขึ้นลงแรงยิ่งขึ้น ประกอบกับหากสินค้าตัวในอยู่ในคลื่นใหญ่ 3, 4 หรือคลื่น 5 ราคาจะยิ่งผันผวนรุนแรง

ตลาดหุ้น ตลาดฟิวเจอร์ส รวมทั้งในภาคเศรษฐกิจจริง ล้วนแล้วแต่มีนักลงทุนที่เสียหายและหาทางออกไม่ได้ทั้งสิ้น ลุงแมวน้ำผ่านปี พ.ศ. 2537 ที่ตลาดหุ้นขึ้นไปถึง 1,700 จุดมา และเห็นว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่มีใครช่วยใครได้นอกจากแต่ละคนต้องพึ่งตนเอง

หนทางที่จะเอาตัวรอดและมีความสุขจากการลงทุนนั่นก็คือต้องมีเมตตา ความเมตตาทำให้เราห็นแก่ผู้อื่น รวมทั้งทำให้ตนเองรู้จักพอประมาณ อย่าลืมว่าแม้เราจะอยู่ในระบบทุนนิยมแต่ว่าเราก็เป็นทุนนิยมที่มีหัวใจเอื้ออาทรต่อผู้อื่นได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกทางเดินอย่างไร



มองเศรษฐกิจและการลงทุนปี 2011 (11)

สืบเนื่องจากเรื่องที่ลุงแมวน้ำเขียนเอาไว้ข้างบน วันนี้เรามามองเศรษฐกิจและการลงทุนกันต่อ และเนื่องจากมุมมองของลุงแมวน้ำที่นำเสนอผ่านมานั้นเป็นมุมมองในภาพใหญ่หรือว่ามองในระดับคลื่นใหญ่ ดังนั้นแม้ว่าตลาดหุ้นจะผันผวนหลังเหตุการแผ่นดินไหวใหญ่ในญี่ปุ่นเกิดขึ้นแต่นั่นเป็นผลทางจิตวิทยา ส่วนผลกระทบในภาพใหญ่นั้นคงยังไม่มีใครบอกได้ในขณะนี้เนื่องจากยังเร็วเกินไป คงต้องรอดูกันไปอีกระยะหนึ่ง แต่ลุงแมวน้ำประเมินว่าผลกระทบในเชิงภาพใหญ่หรือว่าในระดับคลื่นใหญ่ไม่น่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง ยกตัวอย่างเช่นว่า ที่ลุงแมวน้ำเคยมองเอาไว้ว่าตลาดหุ้นของญี่ปุ่นอยู่ในคลื่นใหญ่ 2 เข้าสู่ 3 จนบัดนี้ก็ยังมองเช่นเดิม


กลุ่มที่ 2 ตลาดหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง

ในตอนก่อนๆ เราดูตลาดหุ้นที่น่าลงทุนกันไปแล้ว วันนี้เรามาคุยกันต่อว่าตลาดหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงในสายตาของลุงแมวน้ำมีอะไรบ้าง

ตลาดหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงนี้ลุงแมวน้ำหมายถึงตลาดที่อยู่ในคลื่นใหญ่ 5 ซึ่งไม่ใช่ต้นคลื่นแล้วด้วย อาจกำลังอยู่ในช่วงกลางคลื่นหรือปลายคลื่น ดังนั้นแม้ว่าคลื่น 5 ใหญ่นั้นยังลงทุนได้ แต่ความที่ไม่ได้อยู่ในช่วงต้นคลื่น ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงที่ว่าคลื่นนี้จะจบเมื่อไรไม่มีใครรู้ อาจจะจบในอีกไม่กี่วันข้างหน้าก็ได้ ดังนั้นลุงแมวน้ำจึงมองว่ามีความเสี่ยงสูง

ตลาดหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงนี้ส่วนใหญ่ได้แก่ตลาดของประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ทั้งหลายนั่นเอง


ทวีปอเมริกา กลุ่มละตินอมริกา (เมกซิโก บราซิล เปรู เวเนซุเอลา โคลอมเบีย ฯลฯ)

ประเทศในกลุ่มละตินอเมริกาล้วนแต่เป็นตลาดเกิดใหม่ ส่วนใหญ่ถูกนักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนและกอบโกยกำไรกันจนปรุไปหมดแล้ว ดัชนีทะยานเป็นหลักหมื่นจุด แม้ว่าจะอยู่ในคลื่นใหญ่ 5 แต่ก็พร้อมจะจบคลื่นได้ทุกเมื่อ ลองมาดูกราฟของตลาดหุ้นบางประเทศในกลุ่มนี้กัน

ตลาดที่เนื้อหอมและพูดถึงกันมากในกลุ่มอเมริกาใต้ก็คือบราซิล ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดเกิดใหม่ที่นักลงทุนทั่วโลกจัดให้อยู่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ที่มีอนาคตสดใส นั่นคือกลุ่ม BRIC อันไดแก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน แต่ในความเห็นของลุงแมวน้ำที่น่าจะสดใสไปได้อีกหลายปีคงมีอยู่แต่เพียงจีนเท่านั้นเนื่องจากเพิ่งอยู่ในต้นคลื่น ส่วนบราซิลนั้นดูอันตราย



ต่อมาก็เป็นเปรู




ตามด้วยเวเนซุเอลา ดังภาพต่อไปนี้




จากนั้นเป็นเมกซิโก ดังภาพต่อไปนี้




จากนั้นปิดท้ายกลุ่มละตินอเมริกาด้วยประเทศโคลอมเบียที่กำลังเนื้อหอม เก็งกำไรกันฝุ่นตลบ



(โปรดติดตามอ่านในวันต่อไป)



Monday, March 14, 2011

10/03/2011

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 1019.22 จุด เพิ่มขึ้น 2.21 จุด สวนทางกับตลาดทั่วโลก

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวมทั้งหมด 37 ตัว

กลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อ TTA และมีสัญญาณขายข้าวโพด (C) โกโก้ (CC) และฟิวเจอร์สของดัชนีนิกเกอิ (NK)

ด้านตลาดต่างประเทศ วันนี้ปิดแดงกันแทบทั่วโลก ดัชนีดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Index, DJI) ปรับตัวลดลงราว 1.8% และเกิดสัญญาณขาย ดัชนีหลายตัวเกิดสัญญาณขาย อาทิ ดัชนีในกลุ่มยุโรป (E2DOW) กลุ่มละตินอเมริกา (A3DOW) แคนาดา (GSPTSE) บราซิล (BVSP) เยอรมนี (DAX) ญี่ปุ่น (N225)

นอกจากนี้ ดัชนีอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (US Real Estate Index, DJUSRE) ก็เกิดสัญญาณขาย

ดัชนีต่างๆเกิดสัญญาณขายพร้อมกันดูเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก