Monday, May 27, 2013

27/05/2013 * พฤหัสทมิฬที่ญี่ปุ่น


เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตอนบ่ายๆ ขณะที่ลุงแมวน้ำกำลังชิมขนมอย่างเพลิดเพลินอยู่ที่งาน THAIFEX อันเป็นงานมหกรรมอาหารที่ใหญ่มาก ลุงก็เลือกชิมแต่พวกขนม มีขนมอร่อยๆเยอะเชียว ^_^ มาร์เก็ตติงตลาดสินค้าเกษตรก็โทรมาหา

"ฮัลโหล" ลุงแมวน้ำรับสาย

"ลุงแมวน้ำขา คุยสะดวกไหมคะ ทำไมเสียงตุ้ยๆชอบกล" มาร์เก็ตติงถาม

ลุงกำลังเคี้ยวขนมอยู่น่ะ เสียงเลยอู้อี้ คุยได้คร้าบ" ลุงแมวน้ำพูด

"อุ๊ย ขนมอะไรคะ ไม่แบ่งหนูเลยนะ" มาร์ต่อว่าเล็กน้อย

"ลุงกินเผื่อหนูอยู่นี่ไง" ลุงแมวน้ำเอาตัวรอด

"อ้อ ที่โทรมาจะบอกลุงว่าตอนนี้ยางพาราราคาไหลลงมาเกือบติดฟลอร์แล้วนะคะ" มาร์บอก

"อ้อ เหรอ เกิดอะไรขึ้นล่ะ" ช่วงนี้ยางพาราราคาปั่นป่วน เพราะน่าจะอยู่ในคลื่น 2 ย่อย

"หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ดัชนีนิกเกอิของญี่ปุ่นร่วงไปกว่า 1000 จุด ลงไปกว่า 7% เชียวค่ะลุง ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็ร่วงร้อยกว่าจุด ตลาดหุ้นไทยก็ลงไป 30 กว่าจุดแล้ว" มาร์รายงาน

"นิกเกอิร่วงพันกว่าจุดเชียวเหรอ มันต้องมีสาเหตุสิ มีข่าวอะไรไหม" ลุงแมวน้ำถามอีก

"ก็มีข่าวเฟดอาจยุติมาตรการ QE แล้วก็มีข่าวอัตราผลตอบแทนพันธบัตรญี่ปุ่นพุ่งแตะ 1% หนูว่าน่าจะเกี่ยวกับสองข่าวนี้นะคะ หนูดูแต่สินค้าเกษตร เรื่องตลาดหุ้นหนูไม่ค่อยรู้หรอกค่ะ ทำไมลุงแมวน้ำไม่ถามมาร์หุ้นดูล่ะ" มาร์สินค้าเกษตรแนะนำ

ลุงก็ลองโทรไปถามมาร์เก็ตติงหุ้นดู ต่อตั้งนานกว่าจะติด สายไม่ว่างเลย กว่าจะติดก็เล่นเอาเมื่อยครีบ

"ฮัลโหล เกิดอะไรขึ้นละเนี่ย" ลุงแมวน้ำถามหลังจากที่มาร์รับสาย

"ตอนนี้คนสั่งขายหุ้นกันใหญ่เลยค่ะ ดัชนีนิกเกอิร่วงไปพันกว่าจุด ตลาดเอเชียแดงหมดทั้งแผงเลย" มาร์สร้างสีสันด้วยสีแดง

"แล้วมีสาเหตุไหมหนู" ลุงแมวน้ำถาม

"ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ว่ากังวลว่าอเมริกาจะยุติคิวอี แล้วก็ดัชนี PMI ของจีนที่เพิ่งประกาศออกมาร่วงต่ำกว่า 50 จุด เป็นสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัวค่ะ นักลงทุนเลยตื่นขายหุ้น" มาร์ตอบ

"แล้วดัชนีตลาดหุ้นจีนตอนนี้เท่าไรล่ะ" ลุงแมวน้ำถามอีก

"ดัชนีเซี่ยงไฮ้ประมาณ -3 จุดค่ะ" มาร์ตอบ

"เอ้อ ดัชนีการผลิต PMI ของจีนตก ตลาดหุ้นจีนลงไป 3 จุด แต่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นลงไปพันกว่าจุด แล้วตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะตกใจแทนตลาดหุ้นจีนไปทำไม ลุงไม่เข้าใจ" ลุงแมวน้ำงง

"นั่นสิคะ หนูก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ข่าวมันก็มีอยู่แค่นี้เอง" มาร์ตอบ

สรุปว่าวันนั้นเกิดอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าตลาดหุ้นไทยก็มีแรงขายออกมาด้วย ลุงแมวน้ำก็เลือกดูเอา ตัวไหนถึงสัญญาณขายก็ขายไป ตัวไหนยังไม่ถึงก็ถือเอาไว้ ตลาดตกใจโดยหาสาเหตุไม่ได้แบบนี้ ระบบสัญญาณซื้อขายจะช่วยลดความเสี่ยงได้

ตอนกลางคืน หลังจากที่ลุงแมวน้ำกลับมาที่โขดหินแล้ว ก็เลยลองหาข้อมูลดู ปรากฏว่าที่มาร์ยางพาราคาดนั้นใกล้เคียงกว่ามาร์หุ้น นั่นคือปัญหามาจากตลาดพันธบัตรของญี่ปุ่น

ยังจำได้ไหม บทความเมื่อวันก่อน ที่ลุงแมวน้ำบอกว่าให้ระวังตลาดพันธบัตร เพราะว่าตลาดพันธบัตรของอเมริกามีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่องมานับเดือนแล้ว ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอเมริกาสูงขึ้นมาโดยตลอด (หรือพูดอีกนัยหนึ่งคือราคาพันธบัตรลดลงเรื่อยๆ)

การแถลงของลุงเบนต่อสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ยังคงความอึมครึมเช่นเดิม ประกอบกับความเห็นของกรรมการเฟดบางคนพูดไปในทำนองว่าน่าจะยุติคิวอีก่อนกำหนด ข่าวนี้ทำให้ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวลงไม่เท่าไร แต่ตลาดพันธบัตรมีแรงขายออกมาทันที ดังรูปที่ลุงแมวน้ำเคยเอามาให้ดูแล้ว มาดูกันอีกทีก็ได้


ภาพบนนี้คือภาพที่เราเคยดูกันไปแล้ว อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอเมริกัน อายุ 10 ปี ในวันที่ 22/05/2013 วันเดียวพุ่งๆไปกว่า 4%

ทีนี้เราไปดูตลาดพันธบัตรของญี่ปุ่นในวันที่ 23/05/2013 คือวันพฤหัสทมิฬกันบ้าง ดังภาพต่อไปนี้



จากภาพ จะเห็นว่าในระหว่างวันที่ 23 นั้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น อายุ 10 ปี พุ่งจาก 0.8% กว่าๆ ไปทะลุ 1% ภายในเวลาเพียงชั่วโมงเดียว ซึ่งแปลว่ามีแรงเทขายพันธบัตรออกมามากในเวลาอันรวดเร็ว และนี่เองที่ทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วง เพราะตลาดตกใจไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ประกอบกับตลาดหุ้นพุ่งแรงต่อเนื่องมาหลายเดือน ทุกคนก็พร้อมจะเทขายกันอยู่แล้ว ดังนั้นตลาดหุ้นจึงปรับตัวแรง ภายในวันเดียวดัชนีร่วงกว่า 1000 จุด




ภาพบนคือดัชนีนิกเกอิในระหว่างวันที่ 23

ไม่เพียงแต่ผลกระทบถึงตลาดหุ้นเท่านั้น อัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนก็กระทบแรงด้วย เงินเยนแข็งค่าอย่างรวดเร็ว จาก 103.5 เยน/ดอลลาร์ สรอ แข็งค่าไปต่ำกว่า 101 เยน/ดอลลาร์ สรอ หรือกว่า 2% ภายในวันเดียว




ดังที่ลุงแมวน้ำบอกว่าให้ระวังตลาดพันธบัตร ตอนนี้ตลาดพันธบัตรอาการแปลกๆ เริ่มจากอเมริกา ตามมาที่ญี่ปุ่น ที่จริงในสัปดาห์ที่แล้วพันธบัตรเอเชียได้รับผลกระทบหลายประเทศ มีแรงเทขายออกมาเช่นกัน

สำหรับตลาดพันธบัตรญี่ปุ่น ปกติลุงแมวน้ำก็ไม่ค่อยได้สังเกต แต่ไปดูข้อมูลย้อนหลังดูก็พบว่ามีแรงขายพันธบัตรญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนแล้ว แรงขายเยอะทีเดียว เพราะภายในเวลาเพียงเดือนกว่าเท่านั้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี พุ่งจาก 0.3% กว่าไปไปถึง 1% ดังภาพต่อไปนี้




จากภาพ วันที่มีวงรีวงเอาไว้ก็คือแท่งเทียนของพันธบัตรญี่ปุ่นในวันที่ 23/05/2013 นั่นเอง

ลุงแมวน้ำอ่านข่าวพิ่มเติมในภายหลัง ทำให้รู้ว่าหลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งพรวด ภายในวันนั้นเอง ธนาคารกลางของญี่ปุ่นก็แทรกแซง ด้วยการทุ่มเงินเข้าซื้อพันธบัตร อัตราผลตอบแทนกับอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงบ่ายจึงได้กลับเข้าที่เข้าทาง และตลาดหุ้นก็หยุดไหลในวันถัดมา


ย้อนมาที่อเมริกากันอีกที หากยกเลิก QE แบบปุบปับ ตลาดพันธบัตรคงพังก่อน แล้วลามมาที่ตลาดหุ้น ก็คนติดยาเสพย์ติดน่ะ จู่ๆจะเลิกยาเลยก็แย่กันพอดี ร่างกายรับไม่ไหว แต่หากค่อยๆทำเป็นขั้นตอน ตลาดพันธบัตรจะค่อยๆอ่อนตัวลง น่าจะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

วันนี้ลุงแมวน้ำเอาข้อเท็จจริงมาให้ดูกัน ที่จริงเมื่อวันที่ 23 ที่ผ่านมา ลุงว่านักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ไม่มีใครรู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น รู้แต่ว่าหุ้นตกแรง ถือว่าเป็นอุทธาหรณ์อีกบทหนึ่งสำหรับนักลงทุน ว่าเราควรจัดพอร์ตอย่างไรจึงจะลดความเสี่ยงลงได้ และควรรับมืออย่างไรเมื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น อะไรก็เกิดขึ้นได้ ดังนั้น อย่าย่ามใจ อย่าลงทุนเกินตัว อย่าเอาเงินระยะสั้นมาเทรดหุ้น

อยากให้นักลงทุนซื้อขายหุ้นด้วยความรู้ ไม่ใช่ซื้อขายด้วยความไม่รู้ หรือว่าซื้อขายเพราะว่าแตกตื่นตกใจ

สถานการณ์ตอนนี้ยังฝุ่นตลบอยู่ สถานการณ์จากวันพฤหัสยังไม่นิ่ง ดังนั้นนักลงทุนควรติดตามดู อาจมีการปรับตัวลงเป็นคลื่นย่อยขาลงตามมาอีก เอาไว้พรุ่งนี้มาดูกันอีกทีคร้าบ

Sunday, May 26, 2013

26/05/2013 เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ ทำต้มยำเจ/มังสวิรัติแนวสุขภาพกินเองง่ายๆ


เช้าวันนี้เป็นวันหยุดที่อากาศดี สวนข้างโขดหินของลุงเขียวสดใส กระรอกวิ่งไล่กันสนุกสนาน นกร้องเพลงกันเจื้อยแจ้ว

วันนี้ลุงแมวน้ำอยากกินต้มยำ แต่อากาศสดใสยามเช้าแบบนี้ทำให้ลุงไม่อยากหมกอยู่ในครัว อย่ากระนั้นเลย วันนี้เราจะไปทำครัวในสวนกัน

เมนูวันนี้เป็นต้มยำเจ/มังสวิรัติ ทำแบบง่ายๆ มีเพียงหม้อต้มใบเดียวก็ทำได้แล้ว หรือหากไม่มีหม้อต้ม จะใช้เตาไมโครเวฟทำก็ได้เช่นกัน ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ทำเสร็จแล้ว เหมาะกับเช้าอันแสนจะขี้เกียจ ไม่ต้องทำอะไรมาก จะได้ไม่ต้องล้างจานมาก ^_^

ที่ทำได้ง่ายก็เนื่องจากส่วนใหญ่ใช้ของสำเร็จรูป ชีวิตสมัยนี้สะดวกสบาย มีของสำเร็จรูปให้เลือกใช้มากมาย อย่างเช่นต้มยำหม้อนี้

ลุงแมวน้ำก็เตรียมวัตถุดิบนิดหน่อย จากนั้นก็ลากสายไฟกับโต๊ะเล็กๆ เอาไปทำในสวนเลย ทำไปก็ชื่นชมกับบรรยากาศในสวนไป สบายอารมณ์

ก่อนที่จะลงมือทำอาหารกัน ลุงแมวน้ำขอทำความเข้าใจกันก่อน คือเรื่องเมนูสูตรเจนั้น คำว่าเจเป็นคำที่ลุงติดปาก เพราะว่าสั้นๆ เรียกง่าย พิมพ์ก็ง่าย แต่ในความเป็นจริงแล้วอาหารเจนั้นใช่ว่าเพียงไม่มีเนื้อสัตว์ก็เป็นเจแล้ว แต่อาหารเจมีรายละเอียดอื่นอีก เช่น ผักกลิ่นแรงก็ไม่ได้ อย่างกระเทียม เป็นต้น ดังนั้นอาหารใส่กระเทียมแม้จะไม่มีเนื้อสัตว์แต่ก็ไม่ใช่อาหารเจแล้ว

ที่จริงลุงแมวน้ำกินอาหารในแนวมังสวิรัติ ไม่กินนม ไม่กินไข่ มากกว่า พวกกระเทียมและผักกลิ่นแรงที่เป็นข้อห้ามของเจลุงก็กิน แต่บางเมนูก็จัดว่าเป็นอาหารเจได้ เพราะว่าไม่มีของต้องห้ามของเจ ดังนั้นต่อไปลุงก็เรียกรวมๆกันไปละกัน

สำหรับเมนูต้มยำวันนี้ที่จริงคือมังสวิรัติ เพราะว่ามีกระเทียม ลุงทำเป็นต้มยำน้ำข้น คือใส่กะทิ แต่หากตัดกะทิออกไปก็จะเป็นต้มยำน้ำใส แต่ถึงเป็นต้มยำกะทิก็ไม่ต้องห่วงเพราะว่าเมนูของลุงแมวน้ำในวันนี้เป็นเมนูสุขภาพ ใช้กะทิธัญพืชแทน

เรามาดูวัตถุดิบกันก่อน วัตถุดิบที่เราใช้ก็มีดังนี้ ดูตามรูปไปเลยนะคร้าบ







เรามาดูรายละเอียดวัตถุดิบปริมาณที่ใช้กัน ไม่ต้องมีทั้งหมดตามนี้ก็ได้ มีอะไรก็ใช้อย่างนั้น อะไรที่ไม่มีก็ได้ลุงจะเขียนบอกเอาไว้


  1. ใบมะกรูดสด ประมาณ 4-6 ใบ ลุงเด็ดจากต้นมะกรูดที่อยู่ในสวนนั่นเอง ช่วยให้กลิ่นของต้มยำหอมขึ้น หากไม่มีก็ไม่ต้องใส่
  2. แครอท ครึ่งหัว อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ราคาประมาณกิโลกรัมละ 25 บาท
  3. เห็ดนางฟ้า นิดหน่อย เห็ดนางฟ้านี้ใส่ได้ตามอัธยาศัย ราคาประมาณกิโลกรัมละ 50-120 บาท แล้วแต่เกรดของเห็ดและแล้วแต่ว่าซื้อที่ไหน บางที่ก็ขายแพงเว่อ ปกติต้มยำใช้เห็ดฟาง แต่ว่าเห็ดฟางแพง ลุงจะเอาประหยัด เลยใช้เห็ดนางฟ้าแทน ^_^
  4. ไส้หมูเจ 1 แท่ง เป็นโปรตีนจากข้าวสาลี (กลูเทน)  หายากหน่อย ไม่มีก็ไม่เป็นไร
  5. ไส้กรอกเจ 1  แท่งเป็นโปรตีนจากถั่วเหลือง (หากไม่มีไส้หมูเจก็ใส่ไส้รอกเจรวมเบ็ดเสร็จเป็น 2-3 แท่ง) 
  6. ข้าวโพดแห้ง ครึ่งถ้วย ไม่มีก็ไม่เป็นไร
  7. กะทิธัญพืช 50 มิลลิลิตร (ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะครึ่ง) ก็คือกะทิปลอมนั่นเอง แต่เหมือนจริงมาก ทำจากน้ำมันรำข้าว มีกรดไขมันอิ่มตัวไม่เยอะ กรดไขมันไม่อิ่มตัวเยอะกว่า ดีต่อสุขภาพ 
  8. น้ำเปล่า 450 มิลลิลิตร (หากเตรียมด้วยถ้วยตวงก็รินกะทิให้ได้ 3.5 ช้อนโต๊ะ จากนั้นเติมน้ำตามไปจนได้น้ำ+กะทิ รวมแล้วเป็น 2 ถ้วย)
  9. เครื่องต้มยำสำเร็จรูป 1 ซอง เครื่องต้มยำนี้ลุงใช้ยี่ห้อกนกวรรณ ตามภาพนั่นแหละ ราคาซองละ 20 บาท ที่เลือกใช้ยี่ห้อนี้เพราะว่าดูส่วนผสมแล้วเป็นเครื่องต้มยำมังสวิรัติ คือไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ เครื่องต้มยำส่วนใหญ่มีส่วนผสมของน้ำปลาและกะปิ แต่ของกนกวรรณนี่ไม่มี


เอาละ ทีนี้ก็มาดูขั้นตอนการทำ

ลุงใช้หม้อต้มน้ำแบบไฟฟ้า แต่หากไม่มีจะต้มด้วยเตาอบไมโครเวฟก็ได้ ก็พลิกแพลงเอาหน่อย




ใส่กะทิ น้ำเปล่า ข้าวโพด ใบมะกรูด เครื่องต้มยำสำเร็จรูป ลงไปในหม้อ




จากนั้นต้มให้เดือด คนเรื่อยๆเพื่อให้เครื่องต้มยำละลาย ตอนนี้จะเริ่มได้กลิ่นหอมจากใบมะกรูดลอยนำมาก่อนเลย จากนั้นเป็นกลิ่นเผ็ดของเครื่องต้มยำลอยตามมา อูย น้ำลายไหล ^_^




พอเดือดได้สักพักแล้วก็ใส่เห็ดนางฟ้า ไส้กรอก ไส้หมู แครอท ที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆแล้วตามลงไป จากนั้นเคี่ยวให้เดือดต่อไปอีกระยะหนึ่ง




เอาละ เสร็จแล้ว ปิดไฟ หอมฉุยน่ากินเชียว กินกับข้าวสวยร้อนๆ หรือจะกินเป็นซุปโดยไม่กินข้าวเลยก็ได้




เคล็ดลับความอร่อย แถมอีกนิด หากใส่น้ำพริกเผาสูตรเจเพิ่มลงไป มากน้อยตามใจชอบ จะช่วยให้อร่อย แซ่บยิ่งขึ้น แต่หากไม่มีก็ไม่เป็นไร

ต้มยำกะทิเจ/มังสวิรัติ สูตรสุขภาพหม้อนี้กินได้ราว 2-3 คน แต่ถ้ากินคนเดียวก็ได้สัก 2-3 มื้อ ทำครั้งหนึ่งสบายไปได้หลายมื้อ วัตถุดิบทั้งหมดนี้หาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ต ยกเว้นไส้หมูเจที่หายากหน่อย แต่ก็ตัดออกได้ มีอะไรก็ใช้อย่างนั้นแหละ ลุงพยายามไม่ใช้วัตถุดิบที่หาง่าย จะได้อร่อยกันได้โดยไม่ลำบาก

เห็นลุงเขียนเสียยาว ที่จริงทำไม่ยากหรอกนะคร้าบ ลองทำกันดู วันหยุดกับเมนูง่ายๆ แถมได้ลดการเบียดเบียนอีกด้วย ^_^