Sunday, August 18, 2013

18/08/2013 เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ กาแฟแก้วโปรด และไปซื้อสินค้างานโอท็อปกัน




ปกติลุงแมวน้ำจะชอบเดินงานโอท็อป เพราะว่ามีสินค้าให้ชมมากมายหลายหลาก เดินดูนั่นดูนี่ก็เพลินดี อีกทั้งสินค้าก็มีราคาใช้ได้เดียว และที่สำคัญคือสินค้าเหล่านี้มีจำนวนไม่น้อยที่หาชมหรือหาซื้อไม่ได้จากร้านทั่วไปในกรุงเทพฯ เนื่องจากผู้ผลิตอยู่ในต่างจังหวัดและไม่ได้วางจำหน่ายตามร้านในกรุงเทพฯ ดังนั้นหากเป็นในยามปกติ หากจะซื้อก็ต้องไปถึงแหล่งในต่างจังหวัด ซึ่งก็เป็นเรื่องยาก ดังนั้นงานโอท็อปจึงเป็นโอกาสดีที่ผู้ซื้อจะอุดหนุนผู้ผลิตโดยตรง

ปกติในแต่ละปีจะมีการจัดงานโอท็อปหลายครั้ง จนสองปีมานี้ลุงแมวน้ำก็งงเหมือนกัน เพราะว่าจัดบ่อยมาก แต่ว่างานแต่ละครั้งอาจมีผู้ค้ามาออกร้านมากน้อยไม่เท่ากัน ก็ต้องคอยสังเกตดูเหมือนกันว่าเป็นโอท็อปงานใหญ่หรือว่างานเล็ก

สำหรับลุงแมวน้ำแล้วชอบไปโอท็อปงานใหญ่ ไปปีละ 2 ครั้งก็พอ มากกว่านี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน เพราะว่าขี้เกียจเดินทาง การไปแต่ละครั้งลุงแมวน้ำก็จะไปซื้อสินค้าบางอย่างมาตุนเอาไว้ ส่วนใหญ่เป็นพวกข้าวอินทรีย์ และวัตถุดิบในการทำขนม ทำอาหารของลุงนั่นแหละ บางทีก็มีข้าวของเครื่องใช้บ้าง



กาแฟสูตรลุงแมวน้ำ ความสุขในราคาประหยัด

ก่อนจะไปงานโอท็อป เรามาดื่มกาแฟกันก่อน ลุงแมวน้ำชอบดื่มกาแฟคร้าบ แต่ว่าลุงไม่ติดกาแฟนะ ดื่มมา 30 กว่าปียังไม่ติดกาแฟสักที ^_^

กาแฟที่ลุงแมวน้ำชอบก็คือกาแฟคั่วบดหรือว่ากาแฟสดนั่นเอง ไม่ค่อยอชดื่มกาแฟอินสแตนต์เท่าไรนัก กาแฟสดหรือว่ากาแฟที่ชงแล้วมีกากเหลือน่ะทำจากกาแฟอาราบิกา รสชาติหอมละมุน ส่วนกาแฟอินสแตนต์ทำจากกาแฟโรบัสตา ซึ่งรสชาติเป็นรอง

ปกติลุงแมวน้ำดื่มกาแฟดำเพราะว่าชอบรสชาติแท้ๆ ขมๆ ของกาแฟ แต่ก็มีบางครั้งที่เติมนั่นเติมนี่เข้าไป เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ สมัยก่อนตอนที่ลุงแมวน้ำเดินทางไปแสดงในแถบยุโรป ลุงแมวน้ำจะชอบแว่บไปซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตของเมืองนอกติดครีบกลับมาด้วย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกกาแฟ ช็อกโกแลต และขนมอื่นๆ โดยเฉพาะกาแฟคั่วบด ในยุโรปจะมีกาแฟอบกลิ่นวางขายด้วย ส่วนใหญ่มักเป็นกาแฟอบกลิ่นวานิลา เมื่อชงแล้วจะได้กาแฟซึ่งมีกลิ่นวานิลาอ่อนๆเจืออยู่ หอม อร่อยมาก ลุงช้อบ ชอบ ^_^ นานๆทีก็จะเจอกาแฟกลิ่นส้ม ก็อร่อยดีเหมือนกัน

ตั้งแต่ที่ได้ลองลิ้มรสกาแฟวานิลา ลุงก็ติดใจ แต่หาซื้อยากจัง ต่อมาลุงแมวน้ำก็เลยลองคิดหาทางทำเอง ลองมาดูกาแฟสดสูตรลุงแมวน้ำกัน ดื่มกาแฟกันก่อนแล้วจากนั้นลุงแมวน้ำจะออกไปซื้อสินค้าในงานโอท็อป




มาดูกาแฟกันก่อน ลุงแมวน้ำชอบกินกาแฟหลากหลาย ตอนเดินทางไปต่างประเทศก็มักซื้อกาแฟจากประเทศต่างๆติดครีบกลับมา ซื้อมาหลายๆถุง ชงดื่มได้ทั้งปี บางทีก็ฝากเขาซื้อบ้าง แม้แต่ตอนที่อยู่ในเมืองไทยลุงก็ยังชอบชิมกาแฟหลากหลาย เวลาเดินทางไปที่ต่างๆหากเจอกาแฟก็จะซื้อกลับมา อย่างเช่นกาแฟชาวเขา กาแฟปักษ์ใต้ ฯลฯ

หากอยู่ในกรุงเทพฯ ไม่ได้ไปไหน ลุงก็ดื่มกาแฟตุงฮูนี่แหละ กาแฟนี่ห้อนี้เก่าแก่ อายุของแบรนด์ก็ร้อยกว่าปีแล้ว ลุงดื่มตั้งแต่สมัยยังหนุ่มๆ ^_^ กาแฟตุงฮูนี่ใช้เม็ดกาแฟอะราบิกาที่ปลูกบนดอยในเชียงราย กาแฟนำเข้าก็มีบ้างเหมือนกัน





เมื่อก่อนเวลาลุงชงกาแฟลุงก็ใช้เครื่องต้มกาแฟ ก็แบบทั่วๆไปนั่นแหละ แต่ต่อมานานวันเข้าก็ขี้เกียจ ไหนจะต้องล้างหม้อต้มกาแฟ ไหนจะต้องคอยซื้อกระดาษกรอง กระดาษกรองนี่ก็แพงอยู่เหมือนกัน

อย่ากระนั้นเลย ลุงก็ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นรอสัก 5 วินาที คะเนให้อุณหภูมิน้ำในแก้วกาแฟลดลงจาก 100 องศาเซลเซียสเหลือ 94 องศา (เพราะว่าปกติกาแฟต้องชงที่น้ำอุณหภูมิ 94 องศาเซลเซียสจะได้รสชาติดีที่สุด) แล้วตักกาแฟใส่ลงไปคนๆๆ

จากนั้นก็ปล่อยให้กาแฟเย็นตัวลง และกากกาแฟนอนก้น แล้วก็ดื่มทั้งยังงั้นเลย เหลือก้นถ้วยเอาไว้หน่อยเพราะว่าเป็นกากกาแฟ ลุงเอาง่ายแบบนี้เลย ^_^





เอาละ ทีนี้ก็มีถึงสูตรลับในการทำกาแฟกลิ่นวานิลา ลองลองมาหลายวิธี ตั้งแต่เอากาแฟมารมกลิ่นวานิลาในหม้อ เหมือนกับการอบควันเทียนนั่นแหละ แต่ก็ไม่ได้ผล จนในที่สุดก็ทดลองมาจนได้สองวิธี

วิธีแรกก็คือเอาวานิลาผง ที่ใช้ทำขนมนั่นแหละ เติมลงไปในกาแฟเล็กน้อย กับวิธีที่สอง ใช้กลิ่นวานิลาบัตเตอร์ ตามที่เห็นในรูป ใช้เพียงสองสามหยดต่อกาแฟหนึ่งแก้ว วิธีนี้ได้กาแฟกลิ่นวานิลาบัตเตอร์ รสชาติอร่อยถูกใจลุงมาก กลิ่นวานิลาบัตเตอร์นี้ก็หาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป ขวดเล็กๆ ราคา 30 กว่าบาท ในภาพเป็นขวดใหญ่เพราะลุงใช้ทำขนมด้วย เลยซื้อขนาดใหญ่หน่อยมา




บางครั้งลุงก็อยากดื่มกาแฟเติมน้ำตาลบ้าง ก็นี่เลย น้ำตาลปี๊บหรือว่าน้ำตาลปึก แต่นี่ไม่ใช่น้ำตาลปึกธรรมดา เพราะว่าน้ำตาลปึกธรรมดาปกติทำจากน้ำตาลมะพร้าว เราเอาไว้ทำขนม แต่น้ำตาลปึกที่ลุงใช้นี้เป็นน้ำตาลปึกจากมะพร้าวน้ำหอม รสชาติหอมละมุน ลุงว่าอร่อยกว่าน้ำตาลปึกทั่วไป ใช้ใส่กาแฟก็ได้ ใช้ทำเบเกอรี่ก็ได้ โดยเฉพาะวาฟเฟิลมะพร้าว หากใช้น้ำตาลปึกธรรมดารสชาติก็แบบหนึ่ง แต่หากใช้น้ำตาลมะพร้าวน้ำหอม รสชาติก็อร่อยไปอีกแบบ หาได้ที่ไหนเดี๋ยวลุงบอกข้างล่าง

กาแฟสูตรลุงแมวน้ำที่ว่ามานี้ประหยัดมาก ไม่ต้องล้างหม้อกาแฟ ไม่ต้องใช้กระดาษกรอง ดื่มกาแฟวานนิลาหอมกรุ่นปนรสหวานของมะพร้าวน้ำหอม ชมสวนสวยยามเช้า เป็นความสุขในราคาประหยัด แค่นี้ก็วิเศษแล้ว จะเอาอะไรกันนักหนา



ลุงแมวน้ำเที่ยวงานโอท็อป

หลังจากดื่มกาแฟกันแล้ว ลุงแมวน้ำก็ไปเดินงานโอท็อป ก็เดินดูนั่นดูนี่ไปเรื่อย สายตาก็สอดส่ายหาสินค้าที่น่าสนใจหรือว่าสินค้าแปลกๆ แต่เป้าหมายหลักของลุงอยู่ที่พวกอาหารมากกว่า โดยเฉพาะข้าวอินทรีย์ ลุงชอบมาซื้อในงาน ซื้อแล้วก็ตุนเอาไว้กินหลายเดือนเลย การซื้อข้าวโดยตรงจากผู้ผลิตเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการอุดหนุนเกษตรกรโดยตรง

เหตุผลอีกประการหนึ่งก็คือ หากซื้อข้าวถุงจากตามห้าง ไม่ว่าจะเป็นข้าวธรรมดาหรือข้าวอินทรีย์ ปกติข้าวถุงตามห้างจะเป็นข้าวที่ผลิตโดยโรงสีรายใหญ่ หากเป็นข้าวปกติคือข้าวนาเคมี ก็จะเป็นดังที่เราทราบกัน คือมีการรมควันด้วยสารเคมีเพื่อป้องกันมอด ส่วนข้าวอินทรีย์จากโรงสีใหญ่นั้นกระบวนการอย่างไรลุงก็ไม่แน่ใจ

แต่หากซื้อข้าวอินทรีย์จากเกษตรกรโดยตรง ข้าวพวกนี้เป็นข้าวจากนาอินทรีย์ที่เกษตรกรปลูกไว้กินเองเป็นหลัก และเก็บไว้ที่ยุ้งฉางของตนเอง ส่วนน้อยที่นำออกขาย ซึ่งเกษตรกรปกติจะเก็บไว้ในรูปข้าวเปลือก เมื่อจะนำข้าวออกขายก็จะนำข้าวเปลือกไปสีข้าวด้วยเครื่องสีข้าวขนาดเล็กในหมู่บ้านนั่นเอง สีแล้วก็บรรจุถุงและนำออกขายเลย ด้วยขั้นตอนเช่นนี้ จึงทำให้แน่ใจได้ว่าไม่มีการรมควันข้าวด้วยสารเคมี เนื่องจากไม่มีความจำเป็น อีกทั้งเกษตรกรก็กินข้าวเหล่านี้เองด้วย ดังนั้นลุงจึงมักมาซื้อข้าวจากในงานโอท็อป เพราะว่ามั่นใจได้มากกว่า

ภาพต่อไปนี้เป็นรายชื่อเกษตรกรผู้ผลิตและขายข้าวอินทรีย์หลายราย ลุงก็เลือกรายที่ส่งให้ด้วย คือหมายถึงว่านอกงานโอท็อปสามารถโทรไปสั่งและจัดส่งมาที่กรุงเทพฯได้ ลองดูกันเลยนะคร้าบ จากนั้นตอนท้ายเป็นรายชื่อสวนมะพร้าวน้ำหอมกับกาแฟปักษ์ใต้


รายนี้เป็นเกษตรกรผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ในจังหวัดอุทัยธานี ลุงเลือกจังหวัดใกล้ๆกรุงเทพฯจะได้ประหยัดค่าขนส่ง มีข้าวอินทรีย์หลายชนิด รวมทั้งข้าวไรซ์เบอรี่ด้วย ข้าวไรซ์เบอรีนี่ลุงชอบ เพราะว่าสารต้านอนุมูลอิสระเยอะ ^_^

นี่ก็ผู้เกษตรกรจากจังหวัดอุทัยธานี มีข้าวอินทรีย์หลายชนิด จัดส่งให้ด้วย



นี่เป็นเกษตรกรข้าวอินทรีย์ จากจังหวัดชัยนาท รายนี้มีแป้งไรซ์เบอรีขายด้วย ลุงซื้อเอามาทำขนม ทำเบเกอรี่ แป้งไรซ์เบอรีนี่หายาก เห็นแต่รายนี้แหละที่ขาย




มาทางด้านภาคอิสานบ้าง หากต้องการกินข้าวอินทรีย์ซื้อจากภาคกลางก็ได้ ประหยัดค่าขนส่ง ประหยัดเชื้อเพลิงขนส่ง ลดการใช้ทรัพยากร แต่หากอยากกินข้าวฮางหรือข้าวงอกแบบอิสานก็ต้องซื้อจากอิสาน รายนี้ผลิตและจำหน่ายข้าวฮางอินทรีย์ มีหลายชนิด


รายนี้ก็เป็นข้าวอิสาน มีจมูกข้าวอินทรีย์ขายด้วย จมูกข้าวอินทรีย์คือข้าวอินทรีย์ที่นำมากระเทาะเปลือก ได้เป็นข้าวกล้อง ข้าวกล้องนี้จะมีบางส่วนแตกหัก ปลายข้าวหักพวกนี้เอามาบดเป็นผง ทำเป็นจมูกข้าวอินทรีย์ ใช้ผสมอาหารเป็นอาหหารเสริมให้เด็กก็ดี ผู้ใหญ่กินก็ได้ อุดมด้วยไวตามิน แร่ธาตุ น้ำมันรำข้าว ออริซานอล ฯลฯ จมูกข้าวอินทรีย์บดผงใช้ทำขนม เบเกอรี่ จะได้เบเกอรี่แนวสุขภาพ เพิ่มมูลค่าสินค้าได้ด้วย หาเจ้าที่ทำเป็นผงขายได้ยาก ก็มีเจ้านี้แหละ




นี่เป็นสวนมะพร้าวน้ำผอมและเป็นผู้ผลิตน้ำตาลปึกจากมะพร้าวน้ำหอม แต่ลุงแมวน้ำขอเสริมหน่อย ว่าที่บอกว่าน้ำตาลมะพร้าวน้ำหอม 100% นั้น ไม่ค่อยตรงนัก เพราะปกติน้ำตาลปึกต้องผสมน้ำตาลทรายด้วย ไม่อย่างนั้นจะไม่จับตัวเป็นก้อน นี่เป็นเรื่องทางเทคนิค ผู้ผลิตเองตอนขายก็บอกว่าใส่น้ำตาลทรายลงไปด้วย 10% แต่ไหงฉลากบอกไม่ค่อยตรงข้อเท็จจริง ปรับเสียหน่อยให้ตรงก็จะดี





สุดท้ายนี้เป็นกาแฟท้องถิ่น เป็นกาแฟผลิตแบบโบราณของปักษ์ใต้ ต้นกาแฟก็เป็นกาแฟพื้นบ้าน คนท้องถิ่นก็ไม่รู้ว่าพันธุ์อะไรเหมือนกัน แต่น่าจะเป็นอะราบิกา เอามาคั่วแล้วผสมน้ำตาลคั่วต่อให้เกิดคาราเมลเคลือบเมล็ดกาแฟ จากนั้นเอาไปบดด้วยการใส่ครกตำ ไปงานโอท็อปทีลุงก็ไปอุดหนุนกาแฟท้องถิ่นแบบนี้ เพราะว่านอกจากรสชาติแล้วยังเหมือนได้สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอันเก่าแก่ด้วย


นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งจากงานโอท็อป ลุงแมวน้ำคงเล่าไม่หมด เน้นที่รายชื่อผู้ขายบางรายมากกว่ากว่า เผื่อว่าพวกเราสนใจก็โทรไปคุย ไปอุดหนุนกัน


Thursday, August 15, 2013

15/08/2013 * ระยะสั้นยังไร้ทิศทาง และสรุปภาวะตลาดในรอบสัปดาห์ (05/08/13 - 09/08/13)

ช่วงนี้ลุงแมวน้ำมีภารกิจรัดพุงอยู่หลายอย่าง ไม่ค่อยได้อัปเดตอะไร ต้องขออภัยด้วย แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะลุงแมวน้ำเห็นว่าตลาดช่วงนี้ไร้ทิศทาง รอจนพอเห็นทิศทางก่อนแล้วค่อยมาคุยกันก็ยังไม่สาย

วันนี้ลุงแมวน้ำนำตารางสรุปตลาดในสัปดาห์ที่แล้วมาให้ดู ตลาดหุ้นอเมริกากับเอเชียไม่ค่อยดีนัก ออกไปทางแดงๆ ส่วนยุโรปพอใช้ได้ ส่วนใหญ่เขียวเล็กน้อย

ตลาดสินค้าโภคภัณ์ ทองคำตอนนี้ไร้ทิศทาง ดูๆไปก่อน แต่หากพิจารณาจากค่าเงินดอลลาร์ สรอ พบว่า เงินดอลลาร์อเมริกาอ่อนตัวจนมาถึงระดับฟิโบนาชชีสำคัญ ไม่รู้ว่าจะกลับทิศหรือเปล่า สรุปว่าทั้งเงินและทองคำยังต้องรอดูทิศทางกันไปก่อน

ตลาดพันธบัตร แนวโน้มอ่อนตัว คืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการลงทุนในพันธบัตรอายุยาว ลงในอายุสั้นๆที่เรียกว่าตลาดเงินไปก่อนดีกว่า

สินค้าโภคภัณฑ์ น้ำมันดิบแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากสถานการณ์ความไม่สงบในอียิปต์ที่รุนแรงขึ้น

สำหรับสถานการณ์ล่าสุด ลุงสรุปให้ดูด้วยภาพละกัน ตามภาพข้างล่างนี้เลยคร้าบ เป็นกราฟของวันล่าสุด 14/08/2013


ตลาดหุ้นอเมริการะยะสั้นเป็นแนวโน้มขาลง ใกล้เกิดสัญญาณขายเต็มทีแล้ว แต่รอบนี้น่าจะลงได้อีกไม่ลึก เพราะว่าแนวโน้มกลางยังเป็นขาขึ้นอยู่

ตลาดหุ้นยุโรป ลุงดูจากดัชนี DAX ของเยอรมนีเป็นตัวแทน ตอนนี้ตลาดหุ้นยุโรปหลุดจากส้นแนวโน้มลงมาหน่อย ระยะสั้นไร้ทิศทาง แต่ระยะกลางยังเป็นขาขึ้นเพื่อทดสอบ 8531 อันเป็นจุดสูงสุดตลอดกาลเดิม อีกไม่นานน่าจะผ่านได้


ตลาดหุ้นไทย หลุดจากเส้นแนวโน้มลงมาหน่อยและพยายามกลับขึ้นไป หากการเมืองไม่รุนแรง ก็น่าจะไปต่อได้ เพราะได้อานิสงส์จากตลาดหุ้นยุโรปและอเมริกา


อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย 10 ปี แนวโน้มเป็นขาขึ้น คืออัตราดอกเบี้ยจะแพงขึ้น เป็นผลดีต่อตลาดหุ้น และควรหลีกเลี่ยงการลงทุนในพันธบัตรอายุยาว ลงทุนในพวกอายุสั้นๆไปก่อนดีกว่า 


ค่าเงินดอลลาร์ สรอ อ่อนตัวถึงระดับฟิโบนาชชีสำคัญแล้วเด้ง ตอนนี้ไร้ทิศทางอยู่ ต้องดูไปก่อนว่าจะกลับทิศหรือไม่

เงินบาทก็ไร้ทิศทางเช่นกัน ตอนนี้แกว่งตัวในกรอบ เงินบาทจะเป็นอย่างไรต้องดูความชัดเจนของเงินดอลลาร์ สรอ และเงินเยน

ราคาน้ำมันดิบ แนวโน้มปรับตัวขึ้นจากเหตุการณ์รุนแรงในประเทสอียิปต์


ราคาทองคำ กำลังเดินเข้าสู่ปลายสามเหลี่ยมชายธงอีกแล้ว เมื่อตอนนี้ดูทิศทางค่าเงินไม่ออก ราคาทองคำก็ดูไม่ออกเช่นกัน ไม่แปลกอะไร แต่อีกไม่นานก็จะชัดเจนแล้ว เนื่องจากคงไร้ทิศทางไปอีกเพียงไม่นาน

ยางพารา เกิดสัญญาณซื้้อแล้ว ในภาพทั้งหมดของวันนี้ ยางพาราเป็นสินค้าเดียวที่่มีทิศทาง ตอนนี้เป็นแนวโน้มขาขึ้น และน่าจะอยู่ในคลื่น 3 หากผ่าน 87 ผ่านไปได้ก็ยืนยันคลื่น 3 และคงไปต่อได้อีกไกล





 photo s5009082013weeklyreport.gif

Sunday, August 11, 2013

11/08/2013 เช้าวันหยุดกับลุงแมวน้ำ เที่ยวงานสีสันพรรณไม้



บรรยากาศในงานสีสันพรรณไม้ ครั้งที่ 7 ที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ปี 10-13 สิงหาคม 2556 ภาพนี้ถ่ายตอนที่งานยังไม่เปิดอย่างเป็นทางการ


หลายวันก่อนลุงแมวน้ำอ่านเจอข่าวประชาสัมพันธ์งานสีสรรพรรณไม้ ครั้งที่ 7 ประจำปี 2556 ที่จัดขึ้นที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ อันเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่อยู่ติดกับสวนรถไฟและสวนจตุจักรนั่นเอง งานนี้จัดขึ้นในวันที่ 10-13 สิงหาคม 2556 อ่านแล้วก็น่าสนใจดี ลุงก็วางแผนเอาไว้ว่าวันเสาร์จะไปวิ่งที่สวนรถไฟดีกว่า จากนั้นเดินไปชมงานที่สวนสมเด็จฯที่อยู่ติดกัน จะได้ชมงานสีสันพรรณไม้ไปด้วยเลย

แต่แล้วลุงแมวน้ำก็เกิดลืมขึ้นมา หมู่นี้ความจำแย่เต็มที ขนาดกินใบแปะก้วยไปยอะแล้วนะเนี่ย ^_^ เช้าวันเสาร์ลุงก็ฝ่าฝนปรอยไปวิ่งที่สวนลุม จากนั้นค่อยนึกขึ้นมาได้หลังจากที่วิ่งเสร็จแล้ว

จะว่าไปเดินทางก็ไม่ยาก ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินแล้วเดินต่ออีกสักช่วงหนึ่ง ด้วยความอยากดู ลุงแมวน้ำก็เลยตัดสินใจแวะไปชมเสียหน่อย

การเดินจากสถานีรถไฟฟ้าจตุจักรไปที่สวนสมเด็จฯ ตอนเช้ากับตอน 11 โมงนี่คนละเรื่องเลยเชียว ลุงเดินจนลิ้นห้อย เพราะอากาศอบอ้าวมาก ต้องแวะซื้อไอติมกินในระหว่างทางด้วย ^_^ ถนนที่เดินคือถนนข้างตลาดนัดสวนจตุจักร ซึ่งก็แน่นมาก เพราะมีชาวต่างชาติมาเที่ยวตลาดนัดเป็นจำนวนมาก

ก่อนอื่น ขออธิบายสักหน่อย เรื่องชื่องาน สีสรรพรรณไม้ หลายคนอาจงง ว่าตกลงสะกดว่า สีสัน หรือว่า สีสรร กันแน่

ลุงแมวน้ำขออธิบายว่า คำว่า สีสัน นั้นเป็นศัพท์บัญญัติของราชบัณฑิตยสถาน มาจากคำในภาษาอังกฤษว่า hue ส่วนคำที่สะกดอย่างอื่น เช่น สีสรร หรือ สีสรรค์ ราชบัณฑิตยสถานยังไม่ได้บัญญัติไว้

ในกรณีที่เราพูดถึงสีและต้องการใช้สร้อยคำ (หลักภาษาไทยเรียกว่าอุทานเสริมบท อย่างเช่น เสื้อแสง พูดจา ฯลฯ คำหลังคืออุทานเสริมบท) เราก็เรียก สีสัน สะกดว่า สีสัน ความหมายก็คือสีนั่นเองแต่มีสร้อยมาเสริมท้ายให้สวยๆ

ทีนี้ภาษาไม่ตายตัว ภาษาย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย หากเราต้องการเน้นในเชิงอื่น เราก็สร้างศัพท์ใหม่ๆกันขึ้นมาได้ อย่างเช่น รักโลก ไง เดี๋ยวนี้ไม่ได้เขียนว่า รักโลก แต่เขียนว่า รักษ์โลก เพราะเราเน้นว่าอนุรักษ์โลกเอาไว้ รักษาโลกเอาไว้ เราจึงไม่ได้ใช้ว่า รักโลก

เช่นเดียวกัน สีสรร หากจะเขียนเช่นนี้ก็ย่อมได้ แต่ความหมายต่างออกไปจาก สีสัน เพราะ สรร แปลว่า เลือก ดังนั้นผู้ที่ใช้คำว่า สีสรร อาจจงใจเล่นคำ เพราะกำลังบอกว่า มีการเลือกเฟ้นสีมาใช้ หรืออาจเขียนว่า สีสรรค์ ก็ย่อมได้ แต่ความหมายก็เปลี่ยนไปอีก เพราะผู้เขียนกำลังเล่นคำ อาจหมายถึงว่าเป็นสีที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ จึงเลือกใช้คำว่า สีสรรค์

ดังนั้นชื่องาน สีสรรพรรณไม้ ถามว่าสะกดผิดไหม ก็ตอบว่าอาจไม่ผิด เพราะต้องดูเจตนาในการเลือกใช้คำ แต่ถ้าถามว่าคำนี้มีในพจนานุกรมไหม ก็ตอบว่าไม่มี

เอาละ พูดเรื่องชื่องานเสียยาวเชียว วันหยุดนี่ ลุงแมวน้ำก็คุยไปเรื่อยเปื่อย ^_^

เรามาชมงานกันดีกว่า ลุงแมวน้ำจะเล่าด้วยภาพ ภาพมาก่อน คำบรรยายตามหลังนะคร้าบ






นี่เป็นโปสเตอร์ของงาน ก็มีการบรรยายว่ามีไฮไลต์อะไรบ้าง โน่น นี่ นั่น ตามที่ระบุในภาพ พร้อมแผนที่การเดินทางไปชมงาน อ่านแล้วอยากไปดูขึ้นมาเชียว





ลุงแมวน้ำก็จัดแจงขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินไปเชียว ไปโผล่ที่สถานีจตุจักร แล้วเดินเข้าไปในถนนกำแพงเพชร 4 อันเป็นถนนที่คั่นกลางระหว่างตลาดนัดจตุจักรกับสวนจตุจักร เห็นไหมว่าคนแน่นมาก นักท่องเที่ยวต่างชาติตรึมเลย

และในภาพ ใต้ผ้าใบขอให้พระคุ้มครองนั่นน่ะ มีแผงขายน้ำมะพร้าวอ่อนอยู่ คนมุงแน่นมาก เพราะคนขายเวลาเอามีดเฉาะมะพร้าวจะร้อง โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย เสียงดังไปด้วย ราวกับเจ็บแทนมะพร้าว เรียกลูกค้าได้ดีเหมือนกัน






เดินไปเรื่อยๆ จนลิ้นห้อย หากเดินไม่ถูกก็ถามทางคนแถวนั้นก็ได้ ถามหาพิพิธภัณฑ์เด็กจะง่ายกว่า ประตูทางเข้าสวนด้านที่เป็นทางเข้างานก็อยู่ข้างพิพิธภัณฑ์เด็กนั่นเอง





เข้าประตูมา หลังประตูก็จะพบกับโซนประกวดบอนไซก่อนเป็นอย่างแรกเลย นี่เป็นบอนไซที่ได้รับรางวัล





เดินเข้าไปอีกนิดก็จะพบสวนหย่อมที่จัดเป็นสวนไม้ดอก ดอกไม้กำลังบานสะพรั่งเชียว





สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้จัดภูมิทัศน์ได้สวยงาม แม้แต่ห้องสุขาก็ยังก่อสร้างให้ดูกลมกลืนและเป็นธรรมชาติ เข้าสุขานี้แล้วมีความสุขคร้าบ เพราะแวดล้อมด้วยแมกไม้ ^_^







ใกล้ๆทางเข้างานนั้นเอง เป็นส่วนนิทรรศการของหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมอุทยาน กรมป่าไม้ กรมหม่อนไหม กรมการข้าว ข้างในเป็นนิทรรศการทั้งโปสเตอร์และของจริง เช่น สมุนไพรหายาก พรรณไม้หอม บ้านจากไม้ไผ่ พันธุ์ข้าวอนุรักษ์ ยอดหวายอบแห้ง (อันนี้เป็นของกิน) การเลี้ยงไหมและผ้าไหม ฯลฯ พร้อมกับมีแจกกล้าไม้ต่างๆอีกด้วย





เมื่อออกจากโซนนิทรรศการ ก็จะเป็นทางเดินของสวนพฤกษศาสตร์ ทางเดินนี้ยาวมากเพราะว่าสามารถเดินวนได้รอบสวน ก็เดินไปเรื่อยๆ ชมสวนและชมบูธต่างๆที่มาออกร้าน พร้อมกับการจัดประกวดพรรณไม้ต่างๆ

มีร้านต่างๆมาออกบูธกันเยอะเลย เห็นในภาพแล้วอย่าตกใจว่าทำไมมีร้านน้อยจัง คือทางเดินยาวมากน่ะ บางช่วงก็มีร้านน้อย บางช่วงก็มีร้านแน่นขนัด




นี่เป็นบริเวณที่จัดประกวดกล้วยไม้ ตอนที่ลุงแมวน้ำไปนั้นงานยังไม่เปิดอย่างเป็นทางการ ดังนั้นจึงยังกั้นเชือกอยู่ ไม่ให้เดินเข้าไปชมด้านใน แต่สามารถยืนชมและถ่ายรูปได้จากบนทางเดิน ตรงที่คนมุงกันนั้นเป็นกล้วยไม้ที่ได้รางวัลในการประกวด





มีประกวดไม้ใบ




มีประกวดโป๊ยเซียน





นอกจากบริเวณประกวดพรรณไม้แล้ว ก็ยังมีโซนร้านค้า ร้านค้าก็มีทั้งร้านขายต้นไม้และอุปกรณ์ต่างๆ กับร้านขายอาหารและครื่องดื่ม พวกต้นไม้ทั่วๆไปก็มี ต้นไม้แปลกๆก็มี ที่เห็นในภาพนี้คือผลฟักข้าว ฟักข้าวนี้เป็นต้นไม้ที่หายาก สองปีนี้กำลังดัง เพราะค้นพบว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระเยอะ แต่มีร้านค้าที่มีออกบูธในงานนี้บูธหนึ่ง ที่ขายผลและต้นฟักข้าว โอ้อวดสรรพคุณว่าป้องกันและรักษามะเร็งได้ทุกชนิด อันนี้ไม่จริงนะคร้าบ โฆษณาเกินเลยไปมาก ลุงว่าเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภคแล้วนะ โดยข้อเท็จจริงคือถือเป็นสมุนไพร แต่งานวิจัยเกี่ยวกับฟักข้าวยังไม่มาก โดยเฉพาะฤทธิ์ต้านมะเร็งนั้นยังต้องวิจัยกันอีกมากเชียว ตอนนี้ถือได้เพียงเป็นผลไม้บำรุงสุขภาพ ไม่ใช่ผลไม้วิเศษ






นี่เป็นต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง (nepehthes, monkey cup) เป็นพืชกินแมลงชนิดหนึ่ง สีสันที่สวยงามและน้ำหวานภายในถ้วยจะล่อแมลงให้เข้าไปข้างใน จากนั้นฝาก็จะปิดลง แล้วแมลงก็จะไม่ได้ออกมาอีกเลย ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงนี้คนนิยมเลี้ยงกันเยอะพอควร รวมตัวกันเป็นชมรมเลยทีเดียว เป็นต้นไม้มีราคา ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงนี้รูปทรงและสีสันของถ้วยจะมีหลากหลาย ถ้วยทรงสูงก็มี ป้อมๆก็มี ฯลฯ





นี่เป็นต้นไผ่ยักษ์ ลำมีขนาดใหญ่มาก ไม่รู้ว่าพันธุ์อะไรเหมือนกัน ทางญี่ปุ่นมีการนำไผ่ลำขนาดใหญ่มาทำเฟอร์นิเจอร์ ภาษาไทยก็เรียกว่าไผ่ยักษ์เหมือนกัน ลุงแมวน้ำไม่แน่ใจว่าเป็นไผ่นี้หรือเปล่า





ลำไยสีขาว เปลือกสีสวยเชียว ลุงแมวน้ำไม่ได้ลองชิมเหมือนกันว่าอร่อยไหม เสียดาย น่าจะลองชิมดูสักหน่อย





อ้อยดำ นี่ก็โฆษณาเกินจริงอีกแล้ว





มะเขือการ์ตูน (nipple fruit, titty fruit, cow's udder fruit) ชื่อไทยน่ารักมาก หน้าตาก็ตลกดี มะเขือนี้เป็นมะเขือประดับ คนยังไม่ค่อยรู้จักกันนัก บางทีเรียกมะเขือนมแพะ มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลาง มีการนำมาใช้ประดับในงานใหญ่ครั้งแรกก็คืองานพืชสวนโลก ปี 2550







สารพัดกล้วย กล้วยไทยมีหลายชนิดมาก เป็นร้อยชนิดเลย ส่วนใหญ่เป็นกล้วยพันธุ์พื้นเมืองหรือกล้วยพื้นบ้านที่ปลูกกันในสมัยก่อน กล้วยที่เป็นพันธุ์เศรษฐกิจมีอยู่เพียงไม่กี่พันธุ์ แต่ก็มีผู้สนใจอนุรักษ์กล้วยพื้นเมืองเอาไว้ และเป็นธุรกิจที่ทำขึ้นด้วย เพราะหน่อกล้วยพื้นเมืองต่างๆขายดีอยู่เหมือนกัน

กล้วยพื้นเมืองต่างๆก็เช่น กล้วยตานี (บรื๋ออออ ^_^) กล้วยเทพนม กล้วยนาก กล้วยหิน กล้วยพม่าแหกคุก ฯลฯ กล้วยยักษ์ กล้วยแคระ ก็มี อย่างเช่นในภาพเป็นกล้วยน้ำว้ายักษ์ ขนาดใหญ่จริงๆ





และที่จะขาดไม่ได้ก็คือร้านค้าขายของกิน อันประกอบด้วยอาหาร ขนม และเครื่องดื่มต่างๆ มีมากมายหลายร้านทีเดียว





ข้าวเกรียบว่าวแบบโบราณก็มีขาย เห็นแล้วน่ากินเหมือนกัน การกินก็ยากเย็นไม่น้อย เพราะซื้อแล้วต้องกินทันที ถือเดินไปแค่ไม่ไกลก็แตกหมดแล้ว เก็บไว้นานก็นิ่ม ไม่อร่อยอีก แต่ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของสมัยโบราณ ^_^





ท้ายสุดและสุดท้าย ว่ากันในเดือนสิงหาคมของทุกปี สระบัวที่สวนสมเด็จฯนี้จะมีดอกบัวบานสะพรั่ง สวยงาม ลุงก็เดินไปดู สวนบัวนี่ต้องเดินเลยงานนิทรรศการไปอีกพอสมควร พอไปถึงก็ไม่เห็นว่ามีอะไรพิเศษ สระบัวมีดอกบัวเพียงไม่กี่ดอก แต่ก็ไม่เป็นไร ไหนๆก็มาดูนิทรรศการอยู่แล้ว

ใครว่างก็แวะไปเที่ยวงานสีสรรพรรณม้กันได้นะคร้าบ ได้วิ่งออกกำลัง ชมสวนสวย และดูนิทรรศการและร้านค้าต่างๆ ไปทีเดียวได้หลายอย่างเลย ^_^


Wednesday, August 7, 2013

07/08/2013 * ตะวันตกดูดี และสรุปภาวะตลาดในเดือนกรกฎาคม (07/2013)



เผลอเดี๋ยวเดียว หมดเดือนเก่าไปอีกแล้ว เดิมทีลุงแมวน้ำคิดว่าจะสรุปตลาดประจำสัปดาห์ แต่พอเหลือบดูปฏิทินเห็นว่าตอนนี้เป็นช่วงต้นเดือน ลุงแมวน้ำก็เลยคิดว่าเรามาสรุปภาวะตลาดประจำเดือนกรกฎาคมกันดีกว่า

ดูรายงานข้างล่างประกอบด้วยนะคร้าบ ในรอบเดือนกรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา ตัวเลขทางเศรษฐกิจของทางตะวันตก คือสหรัฐอเมริกา และยุโรปดูดี ดัชนีตลาดหุ้นจึงขึ้นต่อเนื่อง เดือนที่แล้วนี้ตลาดหุ้นทางฝั่งยุโรปขึ้นดีกว่าฝั่งอเมริกาเสียอีก โดยดัชนี S&P 500 ของสหรัฐอเมริกาปรับตัวขึ้น +5% ส่วนตลาดหุ้นในกลุ่มยูโรเฉลี่ยแล้ว +8% โดยเฉพาะกลุ่มยุโรปเหนือ (nordic) ปรับตัวขึ้นแรง +10% เลยทีเดียว

ทางฝั่งเอเชีย ตลาดหุ้นย่านเอเชียแปซิฟิก ไม่แน่นอน มีทั้งบวกและลบ คละกัน โดยเฉพาะตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ลงแรง -4% ส่วนตลาดหุ้นจีนนั้นตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมาสาละวันเตี้ยลง ดัชนีจึงปรับตัวลง แต่มารีบาวด์ได้ในช่วงปลายเดือนที่ลุงหลี่ออกมาให้คำมั่น พร้อมทั้งมีการอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบธนาคารเพื่อรักษาสภาพคล่อง ประกอบกับตัวเลขดัชนี PMI ดีขึ้นนิดหน่อย ดังนั้นโดยรวมแล้วตลอดทั้งเดือนดัชนีตลาหุ้นของจีนจึงลงไม่มาก -0.35%

ส่วนตลาดหุ้นไทย เนื่องจากปัจจัยทางการเมืองกดดัน ประกอบกับมีการลดประมาณการทางเศรษฐกิจ คือดูเหมือนว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของไทยจะไม่ดีอย่างที่คาดเอาไว้ ตลาดหุ้นไทยจึงปรับตัวลง -1.98%

ทางด้านตลาดพันธบัตร หลังจากที่ตลาดพันธบัตรไหลลงมาประมาณ 2 เดือน ในเดือนที่แล้วเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา ตลาดพันธบัตรจึงมีรีบาวด์ขึ้นมาบ้าง แล้วกลับอ่อนลงไปอีก อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอเมริกัน 10 ปีตลอดทั้งเดือนปรับตัวขึ้น +4.4% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย 10 ปี ปรับตัวขึ้น +6.5%

ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ ทองคำกับน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึึ้น ทองคำขึ้นเนื่องจากเงินดอลลาร์ สรอ อ่อน ส่วนน้ำมันดิบขึ้นเนื่องจากความไม่สงบในอียิปต์ ส่วนสินค้าเกษตรต้องดูเป็นรายตัว มีทั้งขึ้นและลง แต่สินค้าเกษตรค่อนข้างขึ้นอยู่กับจีน โดยเฉพาะยางพารา

ทางด้านค่าเงิน ดอลลาร์ สรอ แนวโน้มอ่อนค่า ส่วนเงินตราสกุลยุโรปแนวโน้มแข็งค่า เงินสกุลเอเชียแปซิฟิกแล้วแต่สกุล ดอลลาร์ออรเตรเลียแนวโน้มอ่อนค่า ดอลลาร์สิงคโปร์แนวโน้มแข็งค่า เงินเยนแนวโน้มแข็งค่าทั้งๆที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่นอัดฉีดเงินคิวอีใส่เข้ามาในระบบทุกเดือน เรื่องเงินเยนนี่ต้องดูกันต่อไป เพราะว่าตามที่ควรจะเป็นคืออ่อนค่า

เงินบาทแนวโน้มอ่อนค่าเนื่องจากเงินเยนมีแนวโน้มแข็งค่า



ตลาดหุ้นจีนกำลังทะลุกรอบสามเหลี่ยมชายธงด้านบน มีโอกาสกลับทิศเป็นขาขึ้นสูงทีเดียว หากเป็นขาขึ้น ตลาดหุ้นย่านเอเชียจะได้รับอานิสงส์ไปด้วย

น้ำมันดิบตลอดทั้งเดือนปรับตัวเพิ่ม แต่ว่าตอนนี้ไม่ผ่านแนวต้านและย่อลงมา

ทองคำปรับตัวขึ้นในเดือนกรกฎาคม แต่ว่าตอนนี้ราคาอ่อนตัวและเกิดสัญญาณขายแล้ว ทั้งๆที่ดอลลาร์ สรอ มีแนวโน้มอ่อนค่า พฤติกรรมราคาของทองคำกับดอลลาร์ สรอ ไม่ค่อยปกตินัก ควรระวัง


เงินเยนแนวโน้มแข็งค่า ทั้งๆที่ทางการอัดฉีดเงิน ดูไม่ค่อยปกตินัก ควรระวังเช่นกัน

เงินบาทแนวโน้มอ่อนค่า แต่ทั้งนี้ขึ้นกับทิศทางของเงินเยน เมื่อเงินเยนดูไม่ค่อยปกติ พฤติกรรมราคาของเงินบาทจึงดูไม่ค่อยปกติไปด้วย ทำให้บริหารความเสี่ยงเงินบาทได้ยาก



 photo s5007082013julymonthlyreportcopy-1.gif