Sunday, January 31, 2010

29/01/2010 * CL, SET


วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 696.55 จุด เพิ่มขึ้น 6.83 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

กลุ่มดัชนีต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

มาดูกราฟน้ำมันดิบกัน

กราฟน้ำมันดิบมีลักษณะเป็นชามคว่ำ เช่นเดียวกับกราฟดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในหลายๆประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ในยุโรป และหั่งเส็ง ที่มีลักษณะเป็นรูปชามคว่ำ คือโค้งขึ้นไปเรื่อยๆ ชามคว่ำแบบนี้นับคลื่นยาก และยากจะบอกได้ว่าเมื่อไรถึงก้นชามแล้ว

เดิมลุงแมวน้ำประเมินเอาไว้ว่าราคาน้ำมันดิบยอดคลื่น 3 น่าจะไม่ต่ำกว่า 98 ดอลลาร์/บาเรล ซึ่งขณะนี้ก็ยังมองเช่นเดิม เพียงแต่ว่าต้องเืผื่อนับคลื่นผิดเอาไว้ด้วยเนื่องจากนับคลื่นได้ยาก แต่จากเครื่องมือ standard error channel ที่เอามาช่วยประกอบ จะเห็นว่าถ้าราคาไม่หลุดกรอบล่างก็คงยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่หากหลุดกรอบล่างอาจหมายถึงการกลับทิศของราคาได้ ซึ่งต้องมาพิจารณาสัญญาณทั้งหมดกันอีกครั้งหนึ่ง

มาพิจารณาดูดัชนี SET กันต่อจากเมื่อวาน ลองดูกราฟต่อไปนี้ ซึ่งเป็นกราฟในภาพกว้าง

การนับคลื่นนั้น จากเราเคยมีสมมติฐานกันเอาไว้ว่า เมื่อจบคลื่น 5 (สีม่วง) ก็น่าจะเป็นการจบคลื่น 3 (สีน้ำตาล) และอาจหมายถึงการจบคลื่น B

ขณะนี้เราอยู่ในคลื่น 5 (สีม่วง) เราลองมานับคลื่นย่อยที่อยู่ในคลื่น 5 (สีม่วง) ดูกัน ดูภาพต่อไปนี้

หมายเลขสีแดงคือคลื่นย่อยในคลื่น 5 (สีม่วง) อีกทีหนึ่ง จะสังเกตเห็นว่าชุดคลื่นย่อยสีแดงนี้มีความผิดปกติ กล่าวคือ ปกติแล้วคลื่น 4 จะลงมาไม่ต่ำกว่ายอดของคลื่น 1 แต่คลื่น 4 (สีแดง) นี้ขณะนี้ลงต่ำกว่ายอดคลื่น 1 (สีแดง) แล้ว ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่ว่าคลื่นย่อยชุดนี้ทำให้คลื่น 5 (สีม่วง)เกิดเป็น 5th wave failure pattern (หรือ failed wave 5) และก่อตัวเป็นรูปยอดคู่

สรุปก็คือ มีความเป็นไปได้มากทีเดียวที่ดัชนี SET จะจบคลื่น B ไปแล้ว และกำลังดำเนินคลื่น C อยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ปัจุบันนี้ทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกมักไปในทำนองเดียวกัน สำหรับตลาดหุ้นหลักๆ เช่น DJI นั้นยังอ่านคลื่นได้ไม่ขาดว่าจบคลื่น B หรือยัง ดังนั้นลุงแมวน้ำเองก็ยังไม่มั่นใจนักว่าขณะนี้เราจบคลื่น B ไปแล้วจริง เพราะสัญญาณอื่นๆยังไม่ชัด เช่น bearish convergence ก็ยังไม่มี fibonacci ก็ยังไม่สอดคล้อง ดังนั้นควรระวังและติดตามสถานการณ์ต่อไปก่อน



น้ำ

Friday, January 29, 2010

28/01/2010 * DX, GC, SET


วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 689.72 จุด ลดลง 0.74 จุด SET ร่วงติดต่อกันเป็นวันที่แปดแล้ว

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย AOT, BIGC, PS, TMB ขณะนี้ถือหุ้นอยู่เพียง 6 ตัว แม้หุ้นจะเหลือน้อยตัวมากแล้ว แต่ก็ไม่ควรช้อนซื้อ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรจึงจะลงสุด ควรรอสัญญาณการกลับทิศเป็นขาขึ้นเสียก่อน

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

กลุ่มดัชนีต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

หลังจากที่ทั้งหุ้นและฟิวเจอร์ส ทั้งของไทยและต่างประเทศ ลงจนฝุ่นตลบมาหลายวัน เนื่องจากบางตัวพอจะเห็นความชัดเจนแล้ว ลุงแมวน้ำจึงจะทยอยนำมาคุยสู่กันฟัง

มาดูที่ดัชนีดอลลาร์ สรอ (US Dollar Index) กันก่อนเป็นอย่างแรก ดังภาพต่อไปนี้

กราฟทางเทคนิคแสดงให้เห็นค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าขณะนี้ดัชนีดอลลาร์ สรอ กำลังอยู่ในคลื่น 3 (สีน้ำตาล) คลื่นนี้อยู่ภายใต้กรอบเวลาขนาดใดยังบอกได้ยาก อาจเป็นคลื่นย่อย (ระดับสีม่วง) ก็ได้ แต่ตอนนี้ขอให้เป็นระดับสีน้ำตาลไปก่อน

เมื่อวิเคราะห์ทางเทคนิค คาดว่าคลื่น 3 นี้น่าจะไปได้ไม่น้อยกว่า 81 หน่วย ผลจากดัชนีดอลลาร์ สรอ ที่แข็งค่าขึ้น น่าจะทำให้ราคาน้ำมัน ทองคำ หุ้น และสินค้าเกษตรอ่อนค่าลง

ลองมาดูทองคำ GC กันดูบ้าง หลังจากที่เดิมลุงแมวน้ำกล่าวเอาไว้เมื่อไม่นานมานี้ว่าทองคำน่าจะจบคลื่น 4 (สีน้ำตาล) ไปแล้ว และขณะนี้น่าจะอยู่ในคลื่น 5 เนื่องจากในตอนนั้นคาดว่าคลื่น 2 ของดัชนีดอลลาร์ สรอ จะลงลึกกว่านี้ แต่เหตุการณ์ได้พิสูจน์ออกมาแล้วว่าที่ลุงแมวน้ำประเมินไว้น่าจะผิด ดังนั้นจึงขอประเมินใหม่ โปรดดูกราฟ

กราฟในขณะนี้บ่งชี้ว่า่ขณะนี้คลื่น 4 (สีน้ำตาลยังไม่จบ) เพราะมีการทำจุดต่ำสุดใหม่ เมื่อคลื่น 4 ยังไม่จบ คำถามต่อมาก็คือ จะจบลงเมื่อไร อาศัยเครื่องมือ fibonacci คาดว่าคลื่น 4 อาจลงไปได้ถึง 1040, 1000 หรือกรณีที่แย่ก็คือ 950 ดอลลาร์/ออนซ์ ขึ้นอยู่กับว่าคลื่น 3 ของดัชนีดอลลาร์ สรอ จะไปได้ถึงเท่าใด

ทางด้านดัชนี SET นักวิเคราะห์หลายๆสำนักให้เหตุผลไม่ค่ยตรงกันนัก เกี่ยวกับดัชนี SET ที่ลงเอาๆทุกวันนี้ ว่าเกิดจากปัจจัยอะไรกันแน่ แต่ทว่าทางเทคนิคแล้วสาเหตุเกิดจากอะไรคงไม่ค่อยสำคัญนัก เมื่อมันลงก็ต้องเชื่อว่ามันลง ลองมาดูกราฟ

มีโอกาสเป็นไปได้มากทีเดียวที่ขณะนี้เราจบคลื่น 5 (สีม่วง) ไปแล้ว ปกติยอดของคลื่น 5 จะสูงกว่าคลื่น 3 แต่ในกรณีนี้ยอดคลื่น 5 เตี้ยกว่ายอดคลื่น 3 เล็กน้อย ซึ่งก็พอจะเป็นไปได้ เราเรียกว่า failed wave 5 หรืออีกนัยหนึ่งก็คือการก่อตัวเป็นรูปยอดคู่ (double top) นั่นเอง ซึ่งเป็นสัญญาณหนึ่งของการกลับทิศเป็นขาลง

ลองมาดูกราฟรายสัปดาห์ของ SET ดูบ้าง ดังนี้

เราจะเห็นลักษณะ double top ได้ชัดเจนขึ้น

ถ้าดัชนี SET จบคลื่น 5 (สีม่วง) ก็หมายความว่าอาจเป็นไปได้ที่ SET จะจบคลื่น 3 (สีน้ำตาล) และเท่ากับว่าจบคลื่น B แล้ว การจบคลื่น B ย่อมหมายถึงว่าคลื่น C ที่สร้างความเสียหายแก่นักลงทุน แต่จะจบ B และกำลังอยู่ในคลื่น C จริงหรือไม่ต้องตามดูกันต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง เพราะยังมีข้อกังขาอยู่บ้าง เช่น ระดับ fibonacci ที่ยังไม่ค่อยสอดคล้องกับการจบคลื่นนัก

Thursday, January 28, 2010

27/01/2010

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 690.46 จุด ลดลง 11.20 จุด SET ร่วงติดต่อกันเป็นวันที่เจ็ดแล้ว

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย CPALL, IRPC ขณะนี้ถือหุ้นอยู่เพียง 10 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

กลุ่มดัชนีต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ดัชนีตลาดสำคัญล้วนแต่เกิดสัญญาณขายทั้งสิ้น

Wednesday, January 27, 2010

26/01/2010

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 701.66 จุด ลดลง 8.73 จุด SET ร่วงติดต่อกันเป็นวันที่หกแล้ว

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย BEC, BGH, BH, GLOW, PTTAR, TRUE, TTA, TTW ขายอย่างต่อเนื่องอีก 8 ตัว ขณะนี้ถือหุ้นอยู่เพียง 12 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

กลุ่มดัชนีต่างประเทศ วันนี้ดัชนีนิกเกอิของญี่ปุ่นเกิดสัญญาณขาย

ตอนนี้ยังดูแนวโน้มอะไรไม่ชัด คงต้องติดตามอีกสักระยะ สัญญาณซื้อขายคือวินัยและการลดความเสี่ยงจากการสูญเสีย ฝุ่นตลบแบบนี้อย่าเพิ่งคิดเรื่องช้อนซื้อ เพราะว่าช้อนอาจหักได้เนื่องจากเราไม่มีทางรู้ได้ว่ามันจะลงไปขนาดไหน


25/01/2010

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 710.39 จุด ลดลง 3.71 จุด SET ร่วงติดต่อกันเป็นวันที่ห้า

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย BABPU, HANA ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 20 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย น้ำตาลทำผิดคาด แทนที่จะร่วงตามสินค้าเกษตรตัวอื่นๆ กลับทำนิวไฮ

กลุ่มดัชนีต่างประเทศ วันนี้ดัชนีของเกาหลีใต้และไต้หวันเกิดสัญญาณขาย (ไม่มีในรายงาน)

Sunday, January 24, 2010

22/01/2010

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 714.10 จุด ลดลง 4.89 จุด SET ร่วงติดต่อกันเป็นวันที่สี่ ทั้ง SET และ SET50 วันนี้เกิดสัญญาณขายแล้วหลังจากที่เมื่อวาน S50 เกิดสัญญาณขาย

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย CPN, ESSO, KTB, PTT, TOP ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 22 ตัว หุ้นถูกเทขายอย่างรุนแรง ทำให้เกิดสัญญาณขายติดต่อกันหลายวัน

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขายน้ำมันดิบ CL จึงปิดสัญญาไป พอร์ตจำลองของลุงแมวน้ำกลับมาขาดทุนน้ำมันดิบหนักทีเดียว ลุงแมวน้ำมีฟิวเจอร์สในพอร์ตจำลอง 9 ตัว ขณะนี้ปิดสัญญาซื้อไปแล้ว 6 ตัว เมื่อในภาพรวมเป็นเช่นนี้ ดูท่ายางพารา RSS3 และน้ำตาลทราย SB คงหนีไม่พ้นสัญญาณขายในเร็วๆนี้เช่นกัน

กลุ่มดัชนีต่างประเทศ วันนี้ดัชนี FTSE ของอังกฤษเกิดสัญญาณขาย

ขณะนี้ทั้งหุ้น ดัชนี และฟิวเจอร์ส ในตลาดสำคัญทั่วโลกเกิดสัญญาณขายกันจนฝุ่นตลบไปหมด การวิเคราะห์ทางเทคนิคยังดูยากอยู่ การนับคลื่นก็ยังดูให้ขาดได้ยาก นักลงทุนที่เทรดด้วยระบบตามใจฉันมักใจแกว่งในช่วงนี้ ยากที่จะตัดสินใจและจัดการกับสถานการณ์ได้ดี สิ่งที่ยังยึดได้อยู่ก็คือสัญญาณซื้อขาย ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการเทรดอย่างมีระบบนั้นช่วยได้มาก เมื่อสถานการณ์ฝุ่นตลบจนไม่มีอะไรให้ยึด ก็ยังเหลือสัญญาณซื้อขายที่คอยบอกเราอย่างซื่อสัตย์ไม่ว่าในภาวการณ์ใดๆและไม่มีอาการใจแกว่ง เพราะสัญญาณซื้อขายไม่ใช่คน

นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา จะเห็นว่าดัชนีต่างๆขึ้นมาตลอด ขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นนักลงทุนหลายๆคนจะย่ามใจ ยิ่งขึ้นยิ่งซื้อเพิ่ม จนในที่สุดต้นทุนเฉลี่ยจะสูงมาก เมื่อหุ้นร่วงแบบที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้จะขาดทุนหนัก

ลองเหลือบดูรายงานกำไรของพอร์ตจำลองลุงแมวน้ำก็จะเห็นว่าแม้ช่วงนี้ทั้งหุ้น ดัชนี และฟิวเจอร์สจะลงแรง แต่ลุงแมวน้ำก็ยังมีกำไรอยู่ เพราะว่าลุงแมวน้ำเทรดตามระบบ และไม่ได้ซื้อเพิ่มมากขึ้นๆ แม้จะขาดทุนกับน้ำมันดิบ แต่เมื่อรวมกันทั้งพอร์ตจำลองก็ยังมีกำไร ผู้ที่นิยมลงทุนแบบลุ้นโดยวัดดวงกับหุ้นหรือฟิวเจอร์สเพียงไม่กี่ตัวในพอร์ตด้วยคิดว่าถ้าโชคดีก็ฟันกำไรได้เต็มเหนี่ยว ถ้าพลาดก็มักบาดเจ็บหนัก

ดังนั้น จากเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ ลุงแมวน้ำอยากให้เป็นเครื่องเตือนใจสำหรับนักลงทุนดังนี้

1. ระบบการเทรด
2. วินัย
3. ความโลภ/ความเมตตา
4. การกระจายการลงทุนในพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยง

สำหรับการวิเคราะห์กราฟนั้นขอเวลาอีกเล็กน้อย รอให้ฝุ่นจางก่อน แล้วจึงค่อยมาดูกัน

21/01/2010

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 718.99 จุด ลดลง 12.81 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย BBL, KBANK, MCOT, PTTEP, RATCH, TSTH ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 27 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขาย S50 และ DJ จึงปิดสัญญาไป น่าสังเกตว่า S50 เกิดสัญญาณขายแล้ว แต่ SET กับ SET50 ยังไม่เกิดสัญญาณขาย ทั้งนี้เพราะว่าสัญญาณของฟิวเจอร์สมักเกิดล่วงหน้าสัญญาณจากดัชนี ไม่น่าแปลกอะไีร ส่วนดัชนีล่วงหน้า DJ กับดัชนีดาวโจนส์ DJI นั้นเกิดสัญญาณขายในวันนี้พร้อมกัน

กลุ่มดัชนีต่างประเทศ วันนี้มีสัญญาณขาย DJI

Thursday, January 21, 2010

20/01/2010

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 731.80 จุด ลดลง 4.68 จุด

สำหรับหุ้นใน กลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย BECL, MAKRO, MINT, SCB, TPC ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 33 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขายทองคำทั้งของฝรั่งและของไทย GC, GF และเกิดสัญญาณซื้อ DX สัญญาณครั้งนี้ดูไม่ค่อยดี จะเป็น false signal หรือไม่ต้องตามดูกัน

กลุ่มดัชนีต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

Wednesday, January 20, 2010

19/01/2010

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 736.48 จุด ลดลง 10.41 จุด

สำหรับหุ้นใน กลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย ADVANC, BCP, DELTA, KSL, SCC, SCCC ม่สัญญาณซื้อ SCIB รวมขาย 6 ซื้อ 1 ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 38 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

กลุ่มดัชนีต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

Tuesday, January 19, 2010

18/01/2010

วันนี้เป็นวันหยุดของทางสหรัฐอเมริกา ดังนั้นข้อมูลดัชนีดาวโจนส์และฟิวเจอร์ส GC, CL, S, SB, DX, DJ ยังเป็นของวันก่อนอยู่

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 746.89 จุด เพิ่มขึ้น 0.37 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย BAY ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 43 ตัว หุ้นที่อยู่ในภาวะไร้ทิศทางหรือ sideway มีเพียง 18 ตัว แสดงว่าขณะนี้หุ้นส่วนใหญ่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นค่อนข้างชัดเจนแล้ว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

ดัชนีต่างประเทศ วันนี้ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้เกิดสัญญาณขาย (ไม่ได้อยู่ในรายงาน)

Sunday, January 17, 2010

15/01/2010

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 746.52 จุด เพิ่มขึ้น 2.90 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณซื้อ BGH ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 44 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขายข้าวสาลี (W ไม่ได้อยู่ในรายงาน)ขณะนี้ในกลุ่มสินค้าเกษตรขณะนี้ข้าวโพด ถั่วเหลือง ข้าวสาลี ข้าวไทย (WBR5) ล้วนแต่เป็นสัญญาณขายอยู่

ดัชนีต่างประเทศ วันนี้ดัชนี DAX เกิดสัญญาณขาย

Friday, January 15, 2010

14/01/2010

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 749.42 จุด เพิ่มขึ้น 2.68 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 43 ตัวเท่าเดิม

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ยางพารา (RSS) ได้กำไรกว่าสิบเท่าแล้ว นั่นคือ ได้กำไร 1,027% เมื่อเทียบกับ IM

ดัชนีต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

Thursday, January 14, 2010

13/01/2010 * DX, GC

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 746.74 จุด เพิ่มขึ้น 1.50 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 43 ตัวเท่าเดิม

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขาย US dollar index (DX) เนื่องจากลุงแมวน้ำมองว่าตอนนี้ดัชนีดอลลาร์ สรอ เป็น uptrend อยู่ จึงเพียงปิดสัญญาไปเท่านั้น

ดัชนีต่างประเทศ วันนี้ดัชนีคอสปี (KOSPI) ของเกาหลีใต้เกิดสัญญาณขาย (ไม่ได้อยู่ในรายงาน)

จากการที่ดัชนีดอลลาร์ สรอ เกิดสัญญาณขาย ทำให้ประเมินว่าขณะนี้ดัชนีดอลลาร์ สรอ อยู่ในคลื่น 2 แล้ว ดังภาพต่อไปนี้


และเมื่อลุงแมวน้ำประเมินว่าดัชนีดอลลาร์ สรอ อยู่ในคลื่น 2 ก็ทำให้ต้องประเมินทองคำเสียใหม่ เดิมคาดว่าน่าจะยังไม่จบคลื่น 4 แต่ถ้าดัชนีดอลลาร์ สรอ อยู่ในคลื่น 2 ขณะนี้ทองคำก็น่าจะอยู่ในคลื่น 5 แล้ว ช่วงต่อไปคงได้เห็นราคาทองคำเกินกว่า 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์อีกครั้งหนึ่ง



Wednesday, January 13, 2010

12/01/2010

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 745.24 จุด ลดลง 1.71 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณซื้อ TRUE ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 43 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณขายถั่วเหลือง (S) จึงปิดสัญญาไป นอกจากนี้ข้าวโพด (C)ก็เกิดสัญญาณขายด้วย (ไม่ได้อยู่ในรายงาน

ดัชนีต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ดัชนีหั่งเส็งและเซี่ยงไฮ้ของจีนใกล้เกิดสัญญาณซื้อแล้ว ถ้าขึ้นต่ออีกสักหนึ่งหรือสองวันน่าจะเกิดสัญญาณซื้อ

Tuesday, January 12, 2010

11/01/2010

ตลาดทางญี่ปุ่นหยุดทำการ ดังนั้นข้อมูลดัชนีนิกเกอิและราคายางโตคอมจึงเป็นราคาของเมื่อวันก่อน

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 746.95 จุด เพิ่มขึ้น 7.99 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณซื้อ RATCH ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 42 ตัว หุ้นที่อยู่ในภาวะ sideway มี 24 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

ดัชนีต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

Sunday, January 10, 2010

08/01/2010 * Portfolio Summary

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 738.96 จุด เพิ่มขึ้น 4.33 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย QH และมีสัญญาณซื้อ CPF ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 41 ตัว เท่ากับเมื่อวาน

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ทองฝรั่งตลาด Comex (GC) เกิดสัญญาณซื้อ จึงเปิดสัญญาซื้อไปหนึ่งสัญญา

ดัชนีต่างประเทศ วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

หลังจากที่ในช่วงปีใหม่ลุงแมวน้ำได้สรุปสถานการณ์และแนวโน้มของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศ กับฟิวเจอร์สที่อยู่ในพอร์ตจำลอง และฟิวเจอร์สสินค้าเกษตรที่สำคัญบางตัวไปแล้ว วันนี้เราจะมาดูสรุปพอร์ตจำลองของลุงแมวน้ำว่าในระหว่างปีลุงแมวน้ำเทรดอย่างไรบ้าง

ลองพิจารณาตารางสรุปพอร์ตจำลองของลุงแมวน้ำต่อไปนี้



ในบรรดาฟิวเจอร์สทั้ง 9 ตัวในพอร์ตจำลอง ตรงคำว่า started from dd/mm/yyyy หมายถึงว่าวันที่พอร์ตจำลองเริ่มเทรดฟิวเจอร์สตัวนั้น ส่วนใหญ่จะเริ่มเทรดตั้งแต่ต้นปี 2009 เมื่อเกิดสัญญาณซื้อขึ้นก็เปิดสัญญาซื้อไปหนึ่งสัญญา เหตุที่วันเดือนปีที่เริ่มเทรดของฟิวเจอร์สแต่ละตัวไม่เป็นวันเดียวกันก็เพราะว่าสัญญาณซื้อไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียวกันนั่นเอง

ใต้คำว่า started from จะเห็นตัวหนังสือสีดำเข้ม ระบุว่า LONG, SHORT, NOACT หมายถึงสถานะในปัจจุบันของฟิวเจอร์สตัวนั้นว่ามีสัญญาซื้ออยู่ (LONG), มีสัญญาขายอยู่ (SHORT) หรือว่าอยู่เฉยๆไม่ได้ทำอะไร (NOACT)

สองส่วนนี้ปรากฏอยู่ในรายงานของลุงแมวน้ำทุกวัน นักลงทุนที่ติดตามดูรายงานเป็นประจำคงทราบความหมายกันดีอยู่แล้ว เพียงแต่เอามาทบทวนให้อีกครั้งหนึ่งเท่านั้น

ทีนี้ดูส่วนที่เพิ่มมาในรายงานสรุป นั่นก็ ฟิวเจอร์สทุกตัวจะมีข้อมูลเพิ่มขึ้นมา คือ long= , short= , last=

long= หมายถึงว่าตั้งแต่เริ่มเทรดมา เปิดสัญญาซื้อ (open long position) ไปกี่ครั้ง อนึ่ง การเปิดสัญญาซื้อเป็นการเปิดสัญญาซื้อจริงๆ ไม่รวมการซื้อเพื่อปิดสถานะ (คือไม่ใช่การซื้อเพื่อ cover short position)

short= หมายถึงว่าตั้งแต่เริ่มเทรดมา เปิดสัญญาขาย (open short position) ไปกี่ครั้ง อนึ่ง การเปิดสัญญาขายเป็นการเปิดสัญญาขายจริงๆ ไม่ใช่การขายเพื่อปิดสถานะ (คือไม่ใช่การขายเพื่อ cover long position)

last= หมายถึงว่าสถานะของสัญญาที่ถืออยู่ในปัจจุบัน (ไม่ว่าจะ long หรือ short ก็ตาม) ถือมาแล้วกี่วัน

ลองมาดูตัวอย่างกันที่ S50

ฟิวเจอร์ส S50 ระบุไว้ว่า long=3 short=1 last=23 หมายความว่าทั้งแต่เทรดมา
long=3 เปิดสัญญาซื้อไป 3 ครั้ง (เปิดแล้วปิดไปสองครั้ง ครั้งที่สามเปิดเอาไว้และยังถืออยู่)
short=1 เปิดสัญญาขายไปหนึ่งครั้ง (เปิดและปิดไปแล้ว)
last=23 สัญญาซื้อที่ถืออยู่นี้ถือมาแล้ว 23 วัน (คิดจนถึงวันที่ 6 มกราคม 2010)

ฟิวเจอร์สตัวอื่นๆก็อ่านทำนองเดียวกัน

ปกติการเทรดฟิวเจอร์ส ถ้่าเทรดตามสัญญาณซื้อขาย เมื่อสัญญาณซื้อเกิดขึ้นให้เปิด long (ถ้า short อยู่ก็ให้ปิด short จากนั้นเปิด long) และเมื่อสัญญาณขายเกิดขึ้นก็ให้ short (ถ้า long อยู่ก่อนหน้านี้ก็ให้ปิด long จากนั้นเปิด short) ดังนั้นปกติจำนวนการ long และ short มักเท่ากัน แต่ลุงแมวน้ำใช้การนับคลื่นช่วยในการเทรด ขาขึ้นไม่ short ขาลงไม่ long ดังนั้นจำนวนการ long และ short จึงไม่เท่ากัน ซึ่งจะเห็นว่าฟิวเจอร์สเกือบทุกตัวจำนวน long มากกว่า short นั่นคือ แนวโน้มตลาดเป็นขาขึ้นและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ยกเว้นตัวเดียวคือ DX ที่เป็นขาลง จำนวน short จึงมากกว่า long

ในภาพรวมจะเห็นว่าระบบของลุงแมวน้ำเทรดน้อยครั้ง แต่ละครั้งถือยาว เช่น ยางพารา ถือมาแล้ว 61 วันทำการตลาด ทองก็เคยถือยาว 70 กว่าวัน ปกติเมื่อเข้าสู่คลื่น 3 มักทำกำไรได้ยาว ยกเว้นระบบที่อ่อนไหว ซื้อขายไว ระบบที่ไวเกินไปจะทำให้เสียโอกาสในการทำกำไรในช่วงคลื่น 3

หวังว่ารายงานสรุปนี้จะเป็นประโยชน์แก่นักลงทุนตามสมควรในการวางกลยุทธ์การเทรดของตนเอง

Friday, January 8, 2010

07/01/2010 * S, W

วันนี้มีการปรับปรุงข้อมูลเรียลไทม์ที่อยู่ทางด้านขวามือของบล็อกเล็กน้อย โดยเพิ่มรายงานราคาฟิวเจอร์สทองคำ (GF) ของตลาด TFEX หรือฟิวเจอร์สทองคำไทยเข้ามาไว้ด้วยเพื่อให้นักลงทุนสามารถดูราคาได้ตลอดเวลาเทรด

นนี้ดัชนี SET ปิดที่ 734.63 จุด ลดลง 1.10 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย LH, SCIB ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 41 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย พอร์ตจำลองของลุงแมวน้ำที่เคยขาดทุนหนักในน้ำมันดิบ ขณะนี้เกือบไม่ขาดทุนแล้ว

ดัชนีต่างประเทศวันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

ภาวการณ์ตลาดสำคัญในโลกโดยรวมช่วงนี้ยังทรงๆ ขึ้นนิด ลงหน่อย สำหรับ SET นั้นก็ทรงสลับอ่อน นักวิเคราะห์เริ่มประเมินกันว่าอาจหมดแรงไปต่อแล้ว แต่ลุงแมวน้ำยังประเมินว่าขณะนี้อยู่ในคลื่น 5 อันเป็นคลื่นขาขึ้น ยังไม่เปลี่ยนความคิดแต่อย่างใด

วันนี้มาดูสินค้าเกษตรกันต่ออีก 2 ตัวซึ่งเป็นสินค้าเกษตรที่สำคัญในตลาดต่างประเทศ นั่นคือ ถั่วเหลือง (soybean) และข้าวสาลี (wheat)

ข้าวสาลี (W)

มาดูที่ข้าวสาลีกันก่อน คนไทยและคนเอเชียคุ้นเคยกับการรับประทานข้าว และบ้านเราปลูกข้าวเป็นสินค้าเกษตรหลัก ดังนั้นเราจึงมีการเทรดฟิวเจอร์สข้าว รวมทั้งในตลาดโลกก็มีการเทรดฟิวเจอร์สข้าวในรูปข้าวขาว (WBR) แต่เมื่อดูความสำคัญและขนาดของตลาดสินค้าข้าวในตลาดโลกแล้ว สินค้าเกษตรข้าวสาลีดูจะมีความสำคัญมากกว่าข้าวขาว

เมื่อมองในภาพระดับคลื่นใหญ่ จากภาพกราฟต่อไปนี้จะเห็นว่าคลื่นราคาของข้าวสาลีกำลังอยู่ในคลื่น 5 และน่าจะเพิ่งเริ่มต้นคลื่น 5 ยังมีเส้นทางเดินของราคาอีกยาวไกลนักเพราะว่ายอดคลื่น 3 อยู่ที่ 1,282.5 ซึ่งยอดคลื่น 5 น่าจะต้องสูงกว่ายอดคลื่น 3


ถั่วเหลือง (S)

เมื่อมองในภาพระดับคลื่นใหญ่ จากภาพกราฟต่อไปนี้จะเห็นว่าคลื่นราคาของถั่วเหลืองกำลังอยู่ในคลื่น B แต่ถึงจะเป็นคลื่น B ก็เป็นคลื่นใหญ่ที่กินเวลานาน ยังสามารถเทรดในแบบตลาดขาขึ้นได้อยู่


จากสินค้าเกษตรที่เป้นตัวหลักของการเทรดในตลาดโลกที่เราดูกันไปตั้งแต่เมื่อวานรวมทั้งวันนี้ รวม 4 ตัว ได้แก่ น้ำตาล ข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลือง นอกนั้นจะมีสินค้าเกษตรที่มีความสำคัญในตลาดรองๆลงไป เช่น ฝ้าย กาแฟ โกโก้ ฯลฯ จะเห็นว่าทั้ง 4 สินค้าเกษตรหลักล้วนแต่อยู่ในคลื่นขาขึ้นคลื่น 5 ยกเว้นถั่วเหลืองที่อยู่ในคลื่นขาขึ้น B ดังนั้นน่าจะสรุปได้ว่าในปีนี้ตลาดสินค้าเกษตรน่าจะคึกคักมีแนวโน้มราคาไปต่อได้อีกมากพอสมควร แน่นอน การที่สินค้าเกษตรหลักมีราคาสูงขึ้นย่อมไม่เป็นผลดีต่อการจัดการด้านอาหารเพื่อเลี้ยงประชากรโลก โดยเฉพาะประชากรที่ยากจน อดอยาก และหิวโหย และนี่แหละคือความโหดร้ายของระบบทุนนิยม ผู้เข้มแข็งดำรง ผู้อ่อนแอพ่ายแพ้ แต่ลุงแมวน้ำอยากบอกว่าทุนนิยมก็มีเมตตาธรรมได้ ขึ้นอยู่กับคน นั่นคือขึ้นอยู่กับเราเองว่าจะใช้มันอย่างไร

หากนักลงทุนสนใจการลงทุนในตลาดสินค้าเกษตร นอกจากตลาด AFET ของไทยเราที่สามารถเทรดฟิวเจอร์สสินค้าเกษตรได้บางชนิดแล้ว นักลงทุนยังสามารถลงทุนในสินค้าเกษตรผ่านทางกองทุนรวมได้อีกด้วย มีกองทุนของไทยหลายกองที่ไปลงทุนในสินค้าเกษตร โดยลงทุนกับกองทุน ETF สินค้าเกษตรอีกทีหนึ่ง ไม่จำเป็นถึงขนาดต้องไปเปิดพอร์ตเทรดในต่างประเทศด้วยตนเอง

Thursday, January 7, 2010

06/01/2010 * C, SB

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 735.73 จุด เพิ่มขึ้น 3.62 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย BGH และซื้อ CPN ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 43 ตัวเท่าเดิม

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

ดัชนีต่างประเทศวันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

ช่วงนี้เป็นตอนต้นปี เหมาะสำหรับสรุปทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา และประเมินสถานการณ์ในช่วงปีนี้ หลังจากที่เราดูดัชนีตลาดหลักทรัพย์ประเทศต่างๆและสินค้าโภคภัณฑ์และสินค้าเกษตรบางตัวไปแล้ว วันนี้เราจะมาดูสินค้าเกษตรในตลาดโลกกันเพิ่มเติม

น้ำตาลทราย (SB)

จากภาพต่อไปนี้ ในระดับคลื่นใหญ่ น้ำตาลทรายเริ่มเข้าสู่คลื่น 1 (สีน้ำเงิน) มาตั้งแต่ปี 1999 และปัจจุบันน่าจะกำลังอยู่ในคลื่น 5 (สีน้ำเงิน) ซึ่งมีการทำสถิติสูงสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนไปแล้ว

ราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกในคลื่น 5 นี้จะสูงไปถึงเท่าใด เมื่อดูจากความสอดคล้องของระดับ fibonacci ประกอบกับการที่ประเมินว่าน้ำมันดิบน่าจะขึ้นไปเกินกว่า 98 ดอลลาร์/บาเรล ซึ่งเมื่อน้ำมันดิบมีราคาแพง พืชที่สามารถนำมาผลิตพลังงานทดแทนได้ (เช่น อ้อย ข้าวโพด ที่นำมาผลิตแอลกอฮอล์ ปาล์ม ที่นำมาผลิตไปโอดีเซล ฯลฯ) ก็จะมีราคาสูงตามไปด้วย ดังนั้นเมื่อประเมินราคาน้ำมันดิบประกอบด้วย ทำให้ลุงแมวน้ำประเมินว่าน้ำตาลทรายในคลื่น 5 นี้น่าจะไปได้ถึงประมาณ 45 เซ็นต์ และแน่นอน ราคาหุ้นโรงงานน้ำตาลในตลาดหลักทรัพย์ของไทยก็น่าจะขึ้นไปได้อีกด้วยเช่นกัน



ข้าวโพด (C)


จากกราฟราคาข้าวโพดในรอบ 20 ปี พิจารณาในระดับคลื่นใหญ่ จะเห็นว่าราคาข้าวโพดจบคลื่น C และเข้าคลื่น 1 (สีน้ำเงิน) ในปี 1999 และปัจจุบันน่าจะจบคลื่น 4 (สีน้ำเงิน) ไปแล้ว และเพิ่งเริ่มเข้าคลื่น 5 ซึ่งในคลื่น 5 (สีน้ำเงินนี้) ควรจะต้องทำราคาได้สูงเกินกว่ายอดคลื่น 3 ที่ 788 ซึ่งหมายความว่าเป้าหมายของราคาข้าวโพดในคลื่น 5 นี้ยังอีกยาวไกล





Wednesday, January 6, 2010

05/01/2009

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 732.11 จุด ลดลง 0.17 จุด

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้มีสัญญาณขาย CPF, TCAP ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 43 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อทองคำไทย (GF) จึงเปิดสัญญาซื้อไปหนึ่งสัญญา แต่น่าสังเกตว่าทองคำฝรั่ง (ทองคำตลาดโคเม็กซ์) ยังไม่เกิดสัญญาณซื้อ

น้ำมันดิบ CL และยางพารา RSS ไปต่อ ยังเป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ ขณะนี้ยางพาราในพอร์ตลุงแมวน้ำทำกำไรไป 858% แล้ว

ดัชนีต่างประเทศวันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

Tuesday, January 5, 2010

04/01/2010 * CL, RSS, DX, GC, GF

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 732.28 จุด ลดลง 2.26 จุด

เนื่องจากดัชนี SET50 มีการจัดหุ้นใหม่ทุกรอบ 6 เดือน ดังนั้นในรอบ 6 เดือนปัจจุบัน (มกราคมถึงมิถุนายน 2553) นี้จึงมีการเปลี่ยนแปลงตัวหุ้นที่เป็นองค์ประกอบของ SET50 ให้แตกต่างไปจากรอบหกเดือนที่แล้ว ดังนี้

- หุ้นที่ถอนออกไป ได้แก่ CCET, CPI, ITD, MBK
- หุ้มที่เพิ่มเข้ามา BCP, CPF, QH, TRUE

รายงานตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะเป็นการรายงานตัวหุ้นตามองค์ประกอบของ SET50 ในรอบหกเดือนนี้

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 45 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้มีสัญญาณซื้อถั่วเหลือง (S) จึงเปิดสัญญาซื้อไปหนึ่งสัญญา ในบรรดาสินค้าเกษตรและโภคภัณฑ์ที่สำคัญล้วนแต่เกิดสัญญาณซื้อกันไปหมดแล้ว คงมีแต่ทองคำที่เป็นสัญญาณขายอยู่

กลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ ดัชนีตลาดต่างประเทศที่สำคัญล้วนแต่เกิดสัญญาณซื้อไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน สิงคโปร์ อินเดีย อังกฤษ เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา คงเหลือแต่ตลาดจีนกับหั่งเส็ง (ฮ่องกง) ที่ยังไเป็นสัญญาณขายอยู่ แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มของทิศทางตลาดโลกยังเป็นขาขึ้นอยู่

วันนี้ลุงแมวน้ำขอสรุปและมองทิศทางในปีนี้ของฟิวเจอร์สในพอร์ตจำลองของลุงแมวน้ำ ต่อจากเมื่อวานที่ดูดัชนีของตลาดต่างๆกันไปแล้ว

น้ำมันดิบ CL

มาเริ่มกันที่น้ำมันดิบก่อน ภาพรวมของน้ำมันดิบในปีที่ผ่านมา 2009 อยู่ในคลื่น 1 และ 2 (สีน้ำตาล) จากนั้นก็เข้าสู่คลื่น 3 และคาดว่าปัจจุบันน่าจะยังอยู่ในคลื่น 3 ซึ่งในวันนี้เอง ราคาฟิวเจอร์สน้ำมันดิบทำสถิติสูงสุดใหม่ (new high) นับจากปี 2009 ที่ผ่านมา และลุงแมวน้ำประเมินว่าคลื่น 3 นี้น่าจะไปได้ไกลเกินกว่า 98 ดอลลาร์ต่อบาเรล ตามภาพต่อไปนี้



ยางพารา RSS3

เมื่อน้ำมันดิบอยู่ในภาวะ uptrend ราคายางพาราก็มักขึ้นตามไปด้วย เพราะว่ายางพาราเป็นสินค้าที่ทดแทนผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีได้ในบางอย่าง เดิมทีลุงแมวน้ำนับคลื่นและประเมินว่าคลื่น 3 (สีน้ำตาล) น่าจะจบไปแล้วตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2009 แต่จากราคาในวันนี้ที่ทะลุ 100 บาท/กก. เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าที่นับคลื่นเอาไว้เดิมนั้นผิด เพราะแสดงว่าคลื่น 3 (สีน้ำตาล) ยังไม่จบ ดังนั้นจึงต้องนับคลื่นใหม่ ได้มาเป็นภาพต่อไปนี้



คลื่น 3 นี้จะจบที่ใดยังบอกได้ยาก แต่ว่าถ้าผ่าน 110 บาทไปได้และเมื่อมองว่าคลื่น 3 ของน้ำมันดิบอาจไปได้เกินกว่า 98 ดอลลาร์ ทำให้คาดว่ายางพาราอาจไปได้ถึง 145 บาท

ดัชนีดอลลาร์ สรอ (US dollar index)

จากรูปข้างล่าง ขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่าดัชนีดอลลาร์ สรอ จบคลื่น A หรือว่าจบคลื่น C ไปแล้วกันแน่ ถ้าจบ A แล้ว ตอนนี้ก็กำลังอยู่ในคลื่น B แต่ถ้าจบ C ไปแล้ว ตอนนี้ก็กำลังอยู่ในคลื่น 1 แต่ไม่ว่าเราจะอยู่ในคลื่น B หรือ 1 อย่างน้อยก็รู้ได้ว่าขณะนี้เรากำลังอยู่ในคลื่นขาขึ้นแน่



เมื่อเป็นคลื่นขาขึ้น ขณะนี้เราน่าจะอยู่ในระยะคลื่นย่อย 1-2 (สีม่วง) อยู่ ซึ่งดัชนีดอลลาร์ สรอ จะมีผลต่อราคาทองคำ

ทองคำ (GC)

จากภาพต่อไปนี้ และจากที่เราเคยคุยกับไปหลายครั้งแล้วในเรื่องทองคำ ลุงแมวน้ำมองว่าขณะนี้เราอยู่ในคลื่น 4 (สีน้ำตาล) ของคลื่น 5 (สีน้ำเงิน) อันเป็นคลื่นลูกสุดท้ายของคลื่นขาขึ้น



ขณะนี้คาดว่าทองคำยังไม่จบคลื่น 4 (สีน้ำตาล) อีกไม่นานคงลงมาต่ำกว่า 1,100 ดอลลาร์อีก

เรื่องของทองคำเป็นเรื่องของของมีค่าที่มนุษย์อุปโลกน์กันขึ้นมา ดังนั้นจึงไม่มีปัจจัยพื้นฐานหรือว่า fundamental ใดๆให้วิเคราะห์เหมือนหุ้นของบริษัทจดทะเบียน ดังนั้นทางที่ดีที่สุดในการประเมินทองคำจึงน่าจะเป็นการวิเคราะห์ทางเทคนิค

ขณะนี้นักวิเคราะห์หลายๆสำนัก รวมทั้งผู้ค้าทอง ต่างก็มองทองคำเป็นทิศทางเดียวกันคือเป็นขาขึ้น บางรายคาดการณ์ว่าจะถึง 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ บางรายคาดไปถึง 1,500 ดอลลาร์ หรือมากกว่ากว่านั้นด้วยซ้ำ

ในมุมมองของลุงแมวน้ำ จากการพิจารณาทางเทคนิคของดัชนีดอลลาร์ สรอ ประกอบ ลุงแมวน้ำคาดว่าเมื่อไรที่ดัชนีดอลลาร์ สรอ จบคลื่น 2 (สีม่วง) ก็คือเวลาที่ทองคำจบคลื่น 5 (สีน้ำเงิน และสีน้ำตาล) คาดว่าไม่น่าไปได้เกิน 1,310 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเมื่อดัชนีดอลลาร์ สรอ เข้าสู่คลื่น 3 (สีม่วง) ก็น่าจะเป็นเวลาที่ทองคำอยู่ในคลื่นขาลง A-B-C ลุงแมวน้ำยังไม่ได้มองไปไกลถึงขนาดคนอื่นๆ ขอมองระดับราคาแค่นี้ก่อน และถ้าเป็นเช่นนี้จริง ทองคำเมื่อจบคลื่น 5 แล้วจะร่วงยาว นักลงทุนควรพิจารณาเปิดพอร์ตฟิวเจอร์สเพื่อลงทุนในการชอร์ตหรือเปิดสัญญาขายอันเป็นการเทรดทองคำในช่วงตลาดขาลง

วันนี้ดูกันเพียงเท่านี้ก่อน ส่วนฟิวเจอร์สอื่นๆจะทยอยนำมาสรุปต่อไป

Sunday, January 3, 2010

30/12/2009 * DJI, HSKI, NIX, BSESN, SSECI, DAX, SET

วันนี้เป็นวันเทรดวันสุดท้ายของปี นอกจากการอัปเดตข้อมูลรายวันแล้วลุงแมวน้ำจะลองสรุปการลงทุนในรอบปี รวมทั้งสรุปทิศทางและแนวโน้มของตลาดโลกไปด้วย

วันนี้ดัชนี SET ปิดที่ 734.54 จุด ลดลง 7.62 จุด วันนี้ตลาดสำคัญทั่วโลกไปกันคนละทาง ขึ้นก็มี ลงก็มี

สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET50 โปรแกรมของลุงแมวน้ำวันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย ขณะนี้ถือหุ้นอยู่รวม 44 ตัว

สำหรับกลุ่มฟิวเจอร์ส วันนี้ไม่มีสัญญาณซื้อขาย

กลุ่มดัชนีตลาดต่างประเทศ วันนี้มีไม่มีสัญญาณซื้อขาย

ลองมาดูฟิวเจอร์สหรือว่าผลิตภัณฑ์ที่ลุงแมวน้ำเทรดอยู่ในพอร์ตจำลองกันว่าในรอบปีที่ผ่านมาแต่ละตัวเป็นอย่างไร ที่จริงดูในรายงานก็มีสรุปให้ทุกวันอยู่แล้ว แต่วันนี้จะขอหยิบมาจัดลำดับและแสดงความเห็นเพิ่มเติมด้วย

ในบรรดาฟิวเจอร์ส์ทั้งหมด 9 ตัวที่อยู่ในพอร์ตจำลอง ระยะเวลาที่เริ่มเทรดคือต้นปี 2009 ใกล้เคียงกัน จะได้เปรียบเทียบกันได้ง่าย

ฟิวเจอร์สที่ทำกำไรได้มากที่สุดไม่ใช่สินค้าของนอกที่ไหน ยางพารา RSS ของตลาด AFET ไทยเรานี่เอง ทำกำไรได้มากถึง 782% เมื่อเทียบกับ initial margin ที่วางไปในตอนเริ่มต้น รูปแบบราคาของยางพาราแกว่งตัวรุนแรง บางทีติดซีลลิงหรือติดฟลอร์ 2-3 วันกว่าจะปิดสัญญาออกมาได้ เมื่ออยู่ในคลื่น 2 กับคลื่น 4 จะคืนกำไรไปได้มาก สร้างความอกสั่นขวัญแขวนแก่นักลงทุน แต่เมื่อถึงเวลาที่อยู่ในคลื่น 3 ก็ทำกำไรได้แรงมากเช่นกัน หากเทรดในระบบตามใจฉันหรือว่าไม่มีระบบมีแต่พังกับพัง แต่หากเทรดอย่างมีระบบก็จะมีกำไรได้ รวมแล้วกำไรมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในพอร์ตจำลองของลุงแมวน้ำ

สำหรับยางพารา RSS3 นั้นหากไม่มีระบบไม่แนะนำให้เล่น เพราะโอกาสพังยับเยินสูงมาก หากมีระบบก็เทรดได้แต่กำไรจะมากน้อยขึ้นกับระบบที่ใช้ น่าเสียดายที่ตลาด AFET ของเรายังเล็กมากอยู่ทั้งๆที่ให้ผลตอบแทนดี นอกจากนี้ ขณะนี้น่าจะยังไม่จบคลื่น 3 ยังมีโอกาสทำกำไรต่อไปได้เรื่อยๆอีก

ฟิวเจอร์สที่ทำกำไรดีในลำดับรองลงมาคือ ดัชนีดอลลาร์ สรอ (US dollar index, DX) ทำกำไรได้ถึง 717% เมื่อเทียบกับ IM เป็นความบังเอิญด้วย เพราะว่าในปีนี้ (2009) DX อยู่ในตลาดขาลงตลอดทั้งปี ก็เลยทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะอันที่จริงการเก็งกำไรค่าเงินทำกำไรได้ยากมาก โอกาสขาดทุนสูง แม้มีระบบก็ยังมีโอกาสขาดทุน

ฟิวเจอร์สตัวที่ทำกำไรอันดับ 3 คือ น้ำตาล SB ได้กำไรถึง 654% เมื่อเทียบกับ IM ขณะนี้ทำ all time high หรือว่าทำสถิติราคาสูงสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในอดีตไปเรียบร้อยแล้วและมีแนวโน้มว่าจะขึ้นต่อไปและทำสถิติใหม่ๆต่อไปได้อีก

ทางด้านฟิวเจอร์สยอดแย่ของพอร์ตจำลองของลุงแมวน้ำก็คือน้ำมันดิบ CL แกว่งตัวรุนแรง ได้กำไรมาก็คืนไปหมด รวมแล้วยังขาดทุนอยู่ แต่นี่ก็เป็นจังหวะเหมือนกัน เพราะว่าเมื่อวิเคราะห์จากกราฟแล้วตลอดปี 2009 ที่ผ่านมาเราน่าจะใช้เวลาอยู่ใน reactive wave เสียมาก แต่ต่อไปน่าจะทำกำไรได้ดีเช่นเดียวกับตัวอื่นๆ

ที่เหลือที่จะกล่าวต่อไปข้างล่างนี้ก็เป็นฟิวเจอร์สที่ทำกำไรได้ดีในอันดับรองลงมา กลุ่มนี้ที่จริงเป็นกลุ่มที่น่าเทรด เพราะว่าราคาไม่แกว่งตัวรุนแรง เทรดแล้วไม่ต้องอกสั่นขวัญแขวนมากนัก แต่อย่างไรก็ดี ยังต้องอาศัยการเทรดอย่างมีระบบเช่นกัน ถ้าหากเทรดแบบตามใจฉันก็คงพังเหมือนกัน

S50 หรือฟิวเจอร์สของ SET50 ได้กำไร 264% เมื่อเทียบกับ IM ได้กำไรระดับนี้ก็หรูแล้ว

ทองคำ (GC, GF) แกว่งตัวรุนแรง คืนกำไรไปมาก แต่ก็ัยังเหลือกำไรเอาไว้ถึง 227% สำหรับ GC

โปรดสังเกตว่าฟิวเจอร์สที่อยู่ในพอร์ตจำลองของลุงแมวน้ำมีทั้งฟิวเจอร์สของดัชนี สินค้าเกษตร และโภคภัณฑ์ แต่ไม่มีฟิวเจอร์สของหุ้นหรือที่เรียกว่า single stock futures เลย

พูดถึงเรื่องฟิวเจอร์สของหุ้น ที่จริงก็อยากจะนำฟิวเจอร์สของหุ้นไทยบางตัวเข้ามาอยู่ในพอร์ตจำลองอยู่เหมือนกัน แต่เนื่องจากฟิวเจอร์สหุ้นของบ้านเรายังอยู่ในระยะเริ่มต้น ตลาดยังเล็กมาก ปริมาณซื้อขายน้อย ทำให้ราคานิ่งหรือไม่ก็แกว่งตัวแรงไปเลย อีกทั้งเทรดไปแล้วอาจติดหรือว่าออกไม่ได้ หรือว่าออกได้ก็ขาดทุนหนักเพราะเสียราคาไปมาก ฯลฯ ก็เลยยังไม่คิดเทรดในตอนนี้ รอให้ผ่านไปอีกสักระยะ มีปริมาณซื้อขายมากพอ ก็จะลองนำเข้ามาเทรดในพอร์ตจำลองดู ส่วนทองคำนั้นแม้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เช่นกัน แต่ปริมาณซื้อขายมีมากพอ ลุงแมวน้ำจึงนำเข้ามาในพอร์ตจำลองได้เร็ว

ทีนี้มาดูสรุปดัชนีตลาดสำคัญของโลกในรอบปีกันบ้าง

ดัชนีดาวโจนส์

เริ่มกันที่ดัชนีดาวโจนส์ (Dow Jones index, DJI) จากภาพข้างล่างนี้ DJI อยู่ในคลื่น B สีน้ำเงิน แต่ถ้าในระดับคลื่นที่ย่อยลงมาก็จะอยู่ในคลื่น 3 (สีน้ำตาล) ซึ่งขณะนี้ดูรูปการณ์แล้วยังไม่น่าจะจบคลื่น B ในเร็ววันนี้ ดังนั้นเทรดตามไปเรื่อยๆก่อนได้ คาดว่าคลื่น B น่าจะไปต่อได้ไม่เกินดัชนี 12,500 จุด หลังจากนั้นจะเข้าสู่คลื่น C (สีน้ำเงิน)



เนื่องจากดัชนีดาวโจนส์เป็นตัวบ่งชี้สภาพเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาได้ และเศรษฐกิจของ สรอ เป็นตัวบ่งชี้เศรษฐกิจของโลกได้ ดังนั้น DJI จึงเท่ากับเป็นดัชนีที่บ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจของโลกได้ด้วย

หากถามว่าทำไมลุงแมวน้ำจึงมองว่าตอนนี้ DJI อยู่ในคลื่น B ทั้งๆที่เศรษฐกิจของโลกก็ดูเหมือนจะฟื้นตัวแล้ว ภาวะถดถอยที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาน่าจะหมดไปแล้ว ดังนั้นเราน่าจะจบคลื่น C ไปแล้วมากกว่า ขณะนี้น่าจะกำลังอยู่ในคลื่น 1 (ระดับสีน้ำเงิน)

คำตอบก็คือ ลุงแมวน้ำพิจารณาไปตามรูปแบบของคลื่น ดูแล้วน่าจะเป็นรูปแบบที่อยู่ในคลื่น B มากกว่า และเหตุผลประกอบอื่นๆของลุงแมวน้ำก็คือ ลุงแมวน้ำมองว่าเศรษฐกิจของ สรอ อาจจะยังไม่ฟื้นจริงๆก็ได้ ทั้งนี้ เนื่องจากพิษร้ายของตราสารทางการเงินในโลกยุคใหม่ที่มีความสลับซับซ้อนจนคำนวณมูลค่ากันไม่ถูก อย่างเช่นพวก CDO ยังไม่น่าจะหมดพิษร้ายไป เท่าที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่การกวาดขยะไปไว้ใต้พรมเท่านั้น หากเป็นไปตามสมมติฐานนี้ก็เข้าเค้ากับรูปแบบของคลื่น เพราะตอนนี้กวาดขยะไปไว้ใต้พรม อะไรๆเลยดูเหมือนจะเรียบร้อย โลกก็เข้าสู่คลื่น B และเมื่อไรที่เปิดพรมออกมา โลกก็เข้าสู่คลื่น C ต่อไป ซึ่งคาดว่าภายในปี 2010 นี้น่าจะจบคลลื่น B หรืออย่างช้าก็ปี 2011

ดัชนี DAX ของเยอรมนี ดูภาพข้างล่าง ลุงแมวน้ำใช้ DAX เป็นตัวแทนของตลาดในกลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งอาจไม่ใช่ตัวแทนที่ดีนักแต่ว่าก็พอดูเป็นแนวทางได้ ดัชนี DAX น่าจะยังอยู่ในคลื่น B เช่นกัน


ดัชนีหั่งเส็ง

ดัชนีหั่งเส็งของฮ่องกง (HSKI) จากภาพข้างล่าง ก็น่าจะอยู่ในคลื่น B (สีน้ำเงิน) เช่นกัน แต่ในระดับคลื่นที่ย่อยลงมาคือระดับสีน้ำตาล น่าจะอยู่ในคลื่น 3 แต่ว่าปัญหาก็คือ คลื่น B นี้มีเพียง 3 คลื่นย่อย ถ้าเช่นนั้นการจบคลื่น 3 (สีน้ำตาล) หมายถึงการจบคลื่น B หรือยัง เพราะคลื่นระดับสีน้ำตาลอาจเป็นเพียงคลื่นย่อยของคลื่นย่อยอีกทีก็ได้ ความยากของการนับคลื่นจึงอยู่ที่ตรงนี้เอง เพราะว่าการจำแนกคลื่นใหญ่คลื่นย่อยบางทีก็ไม่ง่าย ต้องรอให้ความจริงเป็นเครื่องพิสูจน์


ดัชนีนิกเกอิ

ดัชนีนิกเกอิ (NIKKEI, NIX) ของญี่ปุ่น ดูภาพข้างล่าง จะเห็นว่ารูปแบบกราฟของดัชนีนิกเกอินี้แตกต่างจาก DJI, HSKI และดัชนีประเทศอื่นๆซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับ DJI แต่ทว่าดัชนี NIX นี้แสดงอาการถดถอยจบคลื่น 5 ใหญ่มาตั้งแต่ปี 1990 แล้ว รูปกราฟหน้าตาประหลาด จบคลื่น 5 แล้วยังนับ A-B-C ไม่ค่อยถูก คงต้องดูกันไปก่อน


ดัชนีตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้

ตลาดจีน เราใช้ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ (SSECI) เป็นตัวแทนของตลาดประเทศจีน ความเก่าแก่ยังไม่เท่าตลาดหลักทรัพย์ของประเทศอื่นๆ แต่เป็นตลาดเกิดใหม่ที่น่าสนใจ เพราะโอกาสที่ดัชนีจะเติบโตยังมีอีกมาก เนื่องจากเมื่อมองในระดับคลื่นยักษ์แล้วตลาดจีนยังเพิ่งอยู่ในขั้นคลื่น 1-2 เท่านั้นเอง


ดัชนีตลาดหุ้มมุมไบ

ดัชนีตลาดหุ้นมุมไบ (BSE SENSEX ตัวย่อคือ BSESN) กราฟของตลาดอินเดียนับคลื่นได้ง่ายกว่าของตลาดเซี่ยงไฮ้ จะเห็นว่าในระดับคลื่นยักษ์ ตลาดอินเดียอยู่ในคลื่น 3 ซึ่งเป็นคลื่นขาขึ้นที่มีโอกาสทำกำไรได้มาก น่าสนใจกว่าตลาดจีนเสียอีก นักลงทุนที่มองการณ์ไกลอาจมองช่องทางการลงทุนในตลาดอินเดียเอาไว้บ้าง เช่น กองทุนในบ้านเราที่ลงทุนในตลาดอินเดีย เป็นต้น


ดัชนี SET

ทางด้านตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET ของไทยก็กำลังดำเนินอยู่ในในคลื่น B เช่นกัน แต่ถ้าจะมองดูกันในรายละเอียด อาจนับคลื่นย่อยได้เป็นหลายแบบ ขึ้นกับการนับของแต่ละคน สำหรับลุงแมวน้ำมองการนับคลื่นย่อยเป็น 2 แบบ ดังนี้

แบบแรก คลื่น B ประกอบด้วยคลื่นย่อย 1-2-3 (สีน้ำตาล) ซึ่งถ้านับแบบนี้ คาดว่าขณะนี้เราน่าจะอยู่ในคลื่นย่อย 5 (สีน้ำตาล) ซึ่งเมื่อจบคลื่นย่อย 5 (สีน้ำตาล) ก็จะเป็นการจบคลื่น 3 (สีน้ำเงิน) ซึ่งเป็นการจบคลื่น B และนั่นหมายความว่าอีกไม่นานเราจะเข้าสู่คลื่น C อันเป็นคลื่นขาลงที่รุนแรง ตามภาพต่อไปนี้


แบบที่สอง ถ้าหากจะนับอีกแบบ คลื่น B นี้ประกอบด้วยคลื่นย่อย 1-2-3 (สีน้ำเงิน) ขณะนี้เราใกล้จบคลื่นย่อย 5 (สีน้ำตาล) และใกล้จบคลื่น 1 (สีน้ำเงิน) เมื่อจบแล้ว ต่อไปจะเป็นคลื่น 2-3 (สีน้ำเงิน) เมื่อจบคลื่น 3 (สีน้ำเงิน) จึงจะจบคลื่น B ตามภาพนี้


ทีนี้เมื่อพิจารณาด้วยเครื่องมือด้าน fibonacci ลุงแมวน้ำประเมินว่าคลื่น B นี้ไม่น่าเกินดัชนี 800 ดังนั้น หากเราเอาเครื่องมือ fibonacci เข้ามาช่วยขยายรายละเอียด ก็จะได้ภาพว่า แม้จะนับคลื่นอย่างไร แต่คลื่น B น่าจะจบที่ดัชนีไม่เกิน 800 การใช้เครื่องมือที่ต่างกันมาช่วยกันก็จะทำให้เราประเมินในรายละเอียดได้มากขึ้น

จากภาพและคำอธิบาย จะเห็นได้ว่าการนับคลื่นนั้นนับกันได้หลากหลาย ขึ้นกับมุมมอง การตีความ ประสบการณ์ส่วนตัว ฯลฯ หลายๆอย่าง ซึ่งค่อนข้างเป็นเรื่องจิตวิสัย ดังนั้นการเทรดโดยการนับคลื่นจึงเป็นเรื่องที่ยาก เพราะในการนับคลื่นนั้น หากเรานับเล่นสนุกๆ เมื่อนับผิด ต่อมาความจริงปรากฏเป็นอื่น เราก็นับใหม่ให้ตรงได้ ซึ่งเท่าที่ผ่านมาจะเห็นว่าลุงแมวน้ำมีการเปลี่ยนแปลงการนับหลายต่อหลายหนในเรื่องเดียวกัน นั่นคือ นับผิดก็นับใหม่ แต่ถ้านำการนับคลื่นไปใช้ในการเทรด เมื่อนับผิด เทรดผิด ก็ขาดทุนไปแล้ว เงินก็หมดไปแล้ว แล้วจะแก้ตัวได้อย่างไร อันนี้คือปัญหาของการเทรดด้วยการนับคลื่น อีกประการ เรื่องการนับคลื่นเป็นศิลปะ ต้องอาศัยความชำนาญและมีหัวทางนี้ด้วยเหมือนกัน ดังนั้นแต่ละคนจึงนับคลื่นได้เก่งไม่เท่ากัน นี่ก็เป็นปัญหาอีกประการหนึ่ง

ดังนั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลุงแมวน้ำจึงมักแนะนำให้เทรดด้วยการยึดระบบสัญญาณซื้่อขายเป็นหลัก และใช้การนับคลื่นเป็นสิ่งประกอบ สัญญาณซื้อขายเป็นวัตถุวิสัย ขึ้นกับข้อมูลราคาปิด และขึ้นกับสูตรคำนวณเท่านั้น แต่ไม่ขึ้นกับว่าผู้เทรดชำนาญเพียงใด เก่งกาจเพียงใด ถ้าเทรดถูกทางโปรแกรมก็จะถือไปเรื่อยๆ ทำกำไรไปได้เรื่อยๆ เมื่อไรที่ตลาดกลับทาง โปรแกรมก็จะรู้จักหยุดการขาดทุนให้ในระดับอันควร ขาดทุนก็ไม่มาก ไม่ต้องใช้การตัดสินใจของตัวผู้เทรดเอง จึงตัดปัจจัยด้านอารมณ์ ความโลภ และความกลัวออกไปได้ ใครๆก็เทรดได้ ความรู้น้อยหรือมากก็เทรดได้ ขอเพียงมีโปรแกรม สูตรคำนวณ และข้อมูลราคาปิด

ลองดูตัวอย่างสมมติกันก็ได้ สมมติว่าลุงแมวน้ำคาดว่าการนับคลื่นของดัชนี SET น่าจะเป็นแบบที่สอง กล่าวคือ เมื่อจบคลื่น 5 (สีน้ำตาล) ก็เท่ากับว่าจบคลื่น 1 (สีน้ำเงิน) ในคลื่น B (คลื่น B มี 1-2-3) ดังนั้นเมื่อดัชนีจบคลื่น 5 (สีน้ำตาล) แล้วร่วง ลุงแมวน้ำอาจยังไม่ขาย และคิดว่า 'แค่เป็นคลื่น 2 ถือเอาไว้ประเดี๋ยวก็เข้าคลื่น 3 ยังทำกำไรได้อีกมาก จะรีบขายไปทำไมให้เสียค่าคอม อีกทั้งหากรีบขาย เดี๋ยวเมื่อเข้าคลื่น 3 แล้วจะซื้อกลับไม่ทัน กลายเป็นตกรถ อดกำไรหมดเลย'

ทีนี้สมมติว่าลุงแมวน้ำนับผิด ที่่จริงมันเกิดเหตุการณ์ตามรูปแบบที่ 1 กล่าวคือ เมื่อจบคลื่น 3 (สีน้ำตาล) ก็เท่ากับจบคลื่น B แล้ว กลายเป็นว่าขณะนี้เรากำลังอยู่ในคลื่น C และเมื่อลุงแมวน้ำไม่ขาย เพราะนับผิด คลื่น C ก็จะพาดัชนีร่วงไปเรื่อยๆ ลุงแมวน้ำก็รอไม่กล้าขาย เพราะกลัวว่าเมื่อไรขายแล้วจะเด้งทันที ก็ถือไปเรื่อยๆ ทุนของลุงแมวน้ำก็จะจมหายไปหมดเหมือนเรือไททานิกตอนล่ม

แต่ถ้ามีระบบสัญญาณ ถึงจะนับผิด สัญญาณขายจะเป็นเหมือนฟิวส์ที่ตัดวงจร บังคับให้เราถอยออกมา ป้องกันไม่ให้ไฟไหม้บ้านทั้งหลัง ดังนั้นถึงนับคลื่นผิดก็ยังไม่เป็นไร นี่คือข้อดีของการใช้ระบบสัญญาณซื้อขาย

ในโอกาสขึ้นปีใหม่นี้ ลุงแมวน้ำไม่มีสิ่งใดจะอวยพร เพราะเป็นเพียงแค่แมวน้ำคณะละครสัตว์ตัวเล็กๆเท่านั้น แต่อยากฝากข้อคิดเอาไว้ว่า ตลาดนี้เป็น zero sum game เงินทุกบาทที่เรากำไรนั้นมาจากน้ำตาของผู้อื่น ดังนั้นควรเทรดด้วยใจที่เมตตา เมื่อเมตตาต่อผู้อื่นก็เท่ากับเมตตาต่อตนเองด้วย การเทรดด้วยความโลภเป็นเรื่องอันตราย ผิดพลั้งก็หมดตัว และยากที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้ ถ้ารู้จักเมตตาผู้อื่นและเทรดด้วยเมตตา ก็ทำให้เทรดแต่พอประมาณ พอแก่การยังชีพและการเป็นอิสระทางการเงินเท่านั้น ไม่ทุ่มเทรดจนเกินกำลัง ดังนั้นเมื่อถึงคราวเคราะห์ต้องขาดทุนก็กระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อย ไม่ถึงกับหมดเนื้อหมดตัว